ถอดกลยุทธ์ LOVE POTION VS LA GLACE ปั้นแบรนด์อย่างไรให้ปังบน TikTok

 

หากให้พูดชื่อแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดัง เชื่อว่าสาวๆสามารถลิสต์ออกมาได้เป็นสิบชื่อไม่ซ้ำกัน แต่ถ้า scope ลง เป็นแบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติไทย ราคาไม่แพง แพ็กเกจจิงน่ารักเจาะกลุ่มนักศึกษา เจ้าของแบรนด์เป็นคนรุ่นใหม่ที่เป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดังใน TikTok คอนเทนต์เป็น viral หลายคลิป เชื่อว่าชื่อของ ‘ซ้อก้าด’ เจ้าของแบรนด์ ‘LOVE POTION’ และ ‘ไอติม’ เจ้าของแบรนด์ ‘LA GLACE’ คงเป็นชื่อแรกๆที่หลายๆคนนึกถึง

บทความนี้ SPOTLIGHT ชวนทุกคนมารู้จักกับ 2 แบรนด์เครื่องสำอางชื่อยอดฮิตครองใจ GEN Z อย่าง LOVE POTION และ LA GLACE สร้างยอดขายร้อยล้าน จากกลยุทธ์สร้างตัวตนบน TikTok

LOVE POTION

CEO : ณัฐชยานันท์ สุขวัฒนาพร (ซ้อก้าด)

ช่อง TikTok : lovepotion_officialth (ยอดผู้ติดตาม 2.8 M)

ช่อง TikTok : cardncyn (ยอดผู้ติดตาม 10.8 M)

จุดเริ่มต้น : ขายสินค้าออนไลน์ตั้งแต่สมัยเรียน ทำธุรกิจเครื่องสำอาง LOVE POTION เมื่อปี พ.ศ.2557 (10 ปีที่เเล้ว)

ตัวอย่างกลยุทธ์ : ปั้นแบรนด์ด้วย Personal Branding

• ขายของแบรนด์เนม 5 บาท

• ตามจีบซุง (ซุง ศตาวิน ที่ตอนนั้นยังไม่เป็นแฟนกัน)

• แต่งตัวด้วยเสื้อตัวจิ๋ว เดินเล่นตลาด

Product Hero

• ครีมแคคตัส 390 บาท

  

• ลิปออยล์ 299 บาท

  

• ลิปแททูทินท์ 79 บาท

  

ส่องผลประกอบการ บริษัท เลิฟโพชั่น จำกัด 3 ปีย้อนหลัง

ปี2564

รายได้ 12,616,879 บาท

กำไร 1,066,970 บาท

ปี2565

รายได้ 55,784,901 บาท

กำไร 14,326,642 บาท

ปี2566

รายได้ 154,462,298 บาท

กำไร 34,628,413 บาท

LA GLACE

CEO : เอมลินทร์ ธีรธนากิตติพงษ์ (ไอติม)

ช่อง TikTok : laglace_official (ยอดผู้ติดตาม 345.4 K)

ช่อง TikTok : itimbaebie (ยอดผู้ติดตาม 531.2 K)

จุดเริ่มต้น : คุณไอติม เป็น Beauty Blogger มาก่อนและได้ขยับตัวมาสร้างธุรกิจเครื่องสำอาง LA GLACE เมื่อปีพ.ศ.2560 (7 ปีที่เเล้ว)

ตัวอย่างกลยุทธ์ : ปั้นแบรนด์ด้วย Personal Branding

• สอนแต่งหน้า / แนะนำใช้เครื่องสำอาง LA GLACE

• สร้างตัวตนบนTikTok ให้ทีมงานทุกคนมีคาแร็กเตอร์ชัด (สวย มั่นใจ แต่งตัวเก่ง)

• VOX POP เด็กๆที่สยามเพื่อแจกเครื่องสำอาง

Product Hero

• บลัชดำ 289 บาท

  

• ลิปกลอส 199 บาท

  

• คอนซีลเลอร์ 79 บาท

  

ส่องผลประกอบการ บริษัท ไอดีล แอนด์ มาเวลลัส เท็น จำกัด 3 ปีย้อนหลัง

ปี 2564

รายได้ 13,216,551 บาท

กำไร 1,135,236 บาท

ปี 2565

รายได้ 39,966,484 บาท

กำไร 1,649,559 บาท

ปี 2566

รายได้ 401,252,389 บาท

กำไร 108,811,343 บาท

ถอดกลยุทธ์ทางการตลาด LOVE POTION & LA GLACE ปั้นแบรนด์อย่างไรให้ปัง

1.สร้างแบรนด์ด้วย Personal Branding

• LOVE POTION

แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม ที่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2557 โดย คุณณัฐชยานันท์ สุขวัฒนาพร หรือที่คนในโลกออนไลน์รู้จักกันในชื่อ ซ้อการ์ด โดยการ์ดเริ่มทำแบรนด์มาตั้งแต่ตัวเองอายุ 17 ปี ที่พยายามหาสกินแคร์ที่ตอบโจทย์กับผิวของตัวเอง แต่สกินแคร์ในท้องตลาดกลับไม่ตอบโจทย์ ทั้งในแง่ของสรรพคุณและราคา ทำให้การ์ดเลือกที่จะผลิตสกินแคร์แบรนด์ตัวเอง ด้วยแนวคิด YOUR SKIN IS AN INVESTMENT NOT AN EXPENSE ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า "ต้องจริงใจต่อ ลูกค้า ขายสินค้าดีมีคุณภาพ ราคาจับต้องได้"

ในช่วงที่ TikTok ยังไม่ได้รับความนิยม แบรนด์ LOVE POTION เป็นที่รู้จักในกลุ่มเล็กๆ แต่พอแพลตฟอร์ม TikTok เริ่มเข้ามา การ์ดได้สร้าง Personal Branding ให้ตัวเองเป็นที่รู้จักผ่านคอนเทนต์คลิปไวรัล เช่น

• ขายของแบรนด์เนม 5 บาท

• ตามจีบซุง (ซุง ศตาวิน ที่ตอนนั้นยังไม่เป็นแฟนกัน)

• แต่งตัวด้วยเสื้อตัวจิ๋ว เดินเล่นตลาด

• เปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็น ‘สีเขียว เหนี่ยวทรัพย์’ ไม่ว่าจะเป็นสีรถ สีเสื้อผ้า หรือแม้แต่ออก product ของตัวเองเป็นสีเขียว เนื่องจากดูหมอดูบอกว่าเป็นสีที่ถูกโฉลกกับตน

คอนเทนต์เหล่านี้ ทำให้การ์ดกลายเป็นที่รู้จักในชั่วข้ามคืน สร้างแฟนคลับได้มากมาย เช่นคอนเทนต์ที่การ์ดตามจีบซุง แฟนคลับต่างส่งกำลังใจ คอยลุ้นว่าเมื่อไรการ์ดกับซุงจะได้เป็นแฟนกัน

• โดยช่องTikTok ของแบรนด์ LOVE POTION  : มียอดผู้ติดตาม 2.8 ล้านคน

• ช่อง TikTok ของซ้อการ์ด (cardncyn) : มียอดผู้ติดตาม 10.8 ล้านคน

• LA GLACE

แบรนด์เครื่องสำอาง ที่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ.2560 โดยคุณ เอมลินทร์ ธีรธนากิตติพงษ์ หรือที่คนในโลกออนไลน์รู้จักกันในชื่อ ไอติม LA GLACE โดยไอติมเริ่มทำแบรนด์มาตั้งแต่ตัวเองอายุ 20 ปี ซึ่งในตอนแรกไม่ได้เข้าใจการทำ Branding คืออะไร แต่อยากขายของจึงเริ่มต้นจากการเลือกขายสินค้าที่ตัวเองชอบ ซึ่งในขณะนั้นคุณไอติมเป็นที่รู้จักในอยู่แล้วในโลกออนไลน์ในฐานะอินฟลูเอนเซอร์สายบิวตี้ และ ไลฟ์สไตล์ เลยเลือกที่จะออก product สร้างแบรนด์เครื่องสำอางของตนเองในชื่อ LA GLACE

จุดแข็งของ LA GLACE จากการเป็นที่รู้จักของ ‘คุณไอติม’ เจ้าของแบรนด์  

• เป็นอินฟลูเอนเซอร์ เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์อยู่แล้วในแวดวงบิวตี้

• มีฐานคนดูที่ชัดเจน นั้นก็คือ กลุ่มวัยรุ่น ผู้หญิง ที่รักความสวยความงาม

เนื่องจากคุณไอติม เป็นอินฟลูเอนเซอร์ สายบิวตี้อยู่แล้ว ทำให้ได้เปรียบในเรื่องของ personal branding และสินค้าที่รีวิว มักจะเป็นเครื่องสำอาง หรือ สกินแคร์ และพอมาทำแบรนด์เครื่องสำอางของตนเอง จากกลุ่มผู้ติดตามได้ขยับ position มาเป็นลูกค้าได้ไม่ยาก

แต่นอกเหนือจากที่คุณการ์ดและคุณไอติมได้สร้าง personal branding ให้ตัวเองแล้ว พวกเขายังได้สร้าง personal branding ให้แก่ทีมงานทุกคนให้มีตัวตน และเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์อีกด้วย เช่น ทีม love (ทีมงานของ LOVE POTION) และ สาว LA GLACE (ทีมงานของ LA GLACE)

2.Content is King และต้องลงสม่ำเสมอ

ในยุคที่ digital ครองโลก ทุกคนขับเคลื่อนด้วยอิทธิพลของ social media ธุรกิจจึงจำเป็นที่ต้องการทำตลาดให้ตอบโจทย์แก่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป และหนึ่งในการตลาดที่ได้รับความนิยม คือการสร้างคอนเทนต์ short video ผ่านแพลตฟอร์ม social media ชื่อดังอย่าง TikTok

คอนเทนต์ที่ดี ช่วยแบรนด์ได้อย่างไร ?

• เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์

• ยอดขายที่เพิ่มขึ้น

• กระตุ้นการมีส่วนร่วมในเพจ สร้าง traffic และ engagement

หากเราดูคอนเทนต์ของแบรนด์ LOVE POTION และ LA GLACE เราจะพบว่า ทั้ง 2 แบรนด์ มีการลง content อย่างสม่ำเสมอ ทั้งอัพเดทข้อมูลข่าวสารของแบรนด์ สร้างคอนเทนต์ตามเทรนด์ใหม่ๆที่ดังในช่วงนั้นให้ตามกระแสอยู่ตลอดเวลา หรือแม้แต่การสร้างคอนเทนต์ ขายของที่ ไม่ Hard Sell จนเกินไปจนทำให้ผู้ติดตามรู้สึกอึดอัด

3.วางกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน ด้วยราคาที่เหมาะสม

LOVE POTION และ LA GLACE ได้มีการวางกลยุทธ์อย่างชัดเจนว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ เด็กวัยรุ่น ไปจนถึงวัยทำงาน ที่ชื่นชอบความสวยความงาม ทำให้แบรนด์ได้ตีโจทย์ออกมาทั้ง

• โลโก้ ที่มีความสดใส

• packaging ที่ต้องสวย น่ารัก หากลูกค้ามีติดกระเป๋าจะต้องเป็นไอเท็มที่เอามาโชว์เพื่อนๆได้

• ผลิตภัณฑ์ ที่ออกมาครอบคลุมทุกความสวยงามของผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็น ลิปแมท ลิปทินต์ ลิปกลอส คุชชั่น หรือ บลัชออน

และที่สำคัญ ราคาจะต้องเข้าถึงง่าย ต้องตอบโจทย์กำลังทรัพย์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยที่ผ่านมาช่วงแรกๆที่ LA GLACE สร้างแบรนด์เคยมีประเด็นเรื่องการตั้งราคาแพงเกินเอื้ม เช่นราคา 700-800 บาท แต่ตั้งใจโฟกัสที่กลุ่มลูกค้านักศึกษา ทำให้แบรนด์โดนดราม่า และปรับแผนกลยุทธ์กันใหม่ โดยออกออก packaging ทางเลือกให้ราคาย่อมเยาลง เช่น คอนซีลเลอร์แบบซองในราคา 79 บาท หรือการสร้างแคมเปญอย่าง ลิปกลอส 199 บาท 1 แถม 1, บลัช 289 บาท 1 แถม 1 เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าในการเลือกซื้อแบรนด์

4.การตลาดยุคใหม่ที่ต้องจริงใจกับลูกค้า ถึงจะอยู่รอด

การตลาดแบบจริงใจ หรือ Authentic Marketing  คือแนวทางการตลาดที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงและยั่งยืนกับผู้บริโภค โดยแบรนด์ต้องมีความซื่อสัตย์ โปร่งใส และจริงใจเป็นหลัก เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการซื้อสินค้าและบริการจากแบรนด์ที่พวกเขาไว้ใจได้ และไม่หลอกหลวง

เช่น เคยมีครั้งนึง LA GLACE ออเดอร์ผิดพลาดมากถึง 3,800 ออเดอร์ เนื่องจากตอนนั้นทางทีมมีการประเมินผิดพลาด ไม่คิดว่าลูกค้าจะมาซื้อเยอะขนาดนี้ บวกกับหลังบ้านยังไม่แข็งแกร่งพอ ทำให้เกิดข้อผิดพลาด โดยคุณไอติมได้แสดงความจริงใจ โดยยึดถึงความสุขของลูกค้าก่อน แบรนด์แสดงความรับผิดชอบ 3 เด้ง ยอมขาดทุนเกือบ 5 ล้านบาท เพื่อ

• ออกจดหมายขอโทษ + คุณไอติม อัดคลิปชี้แจ้งขอผิดพลาด โดยมีการอธิบายถึงสาเหตุ

• ชดใช้ผลิตภัณฑ์ โดยส่งของไปให้ใหม่

• คืนเงินลูกค้า

จนตอนนั้น LA GLACE ได้รับฉายาจากลูกค้าว่า “LA GLACE รักลูกค้าเท่าฟ้า” เพราะการออกมารับผิดชอบ และแสดงความจริงใจอย่างรวดเร็ว

อ้างอิง : LA GLACE

LOVE POTION

Creden Data