ปีทอง รถหรู Rolls-Royce ยอดขายมากสุดในรอบ 117 ปี ทึ่ง! วัยรุ่น พันล้าน แห่ซื้อ

สุดยอดแบรนด์รถหรู “Rolls-Royce” ทำยอดขายดีที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 117 ปี อายุเฉลี่ยคนซื้อลดน้อยลง จับกลุ่ม “วัยรุ่นพันล้าน” มากขึ้น

คอนเทนต์แนะนำ

รมช.เกษตรมอบนโยบายแก้ปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้งในพื้นที่เกษตรกร จ.เชียงใหม่

เมียท้อง 7 เดือนปวดท้อง หมอบอกเป็นกรดไหลย้อน สรุปตายทั้งกลม

กรมชลประทานรับมือน้ำท่วมใต้ ระดมเครื่องจักร-เครื่องสูบน้ำจุดเสี่ยง

ปี 2021 เป็นปีทองของแบรนด์รถหรู “โรลส์-รอยซ์ (Roll- Royce)” ซึ่งมียอดขายสูงที่สุดในรอบ “117 ปี” ที่ก่อตั้งแบรนด์มา แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับหลายธุรกิจ แต่โรลส์-รอยซ์ ยังกลับขายดี ด้วยจำนวนการส่งมอบรถสูงสุดถึง 5,586 คัน
 

ยอดขาย 5,586 คัน ดูเป็นจำนวนที่ไม่ได้มากอะไร สำหรับแบรนด์รถยนต์ทั่วไป แต่ถ้าคูณราคารถ “ขั้นต่ำ” ของรถแต่ละคันที่ประมาณ 350,000 ดอลลาร์ (ราว 11.5 ล้านบาท) รถรุ่นยอดฮิต อย่างรุ่น Phantom ที่มีราคา 455,000 ดอลลาร์ (ราว 15 ล้านบาท) แต่ราคาตัวท็อปในไทย + ภาษี ปาไป 53.5 ล้านบาท หรือรถรุ่นลิมิเต็ด ที่ได้รับฉายา “แพงที่สุดในโลก” ที่สนนราคา 28 ล้านดอลลาร์ (922 ล้านบาท!) ที่เพิ่งเปิดตัว และขายออกไปในปีที่แล้ว รายได้ของบริษัทอาจอยู่ในระดับหมื่น ถึงแสนล้านเลยก็เป็นได้!
 

 
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่น่าตกใจเพียงอย่างเดียว อีกตัวเลขที่น่าตกใจก็คือ อายุเฉลี่ยของเจ้าของเจ้าของรถโรลส์-รอยซ์ ที่คนมักจะนึกว่า เจ้าของโรลส์-รอยซ์จะเป็น เจ้าสัว-เศรษฐีนี รุ่นวัย 50 - 60 ปี ที่เป็นเจ้าของกิจการใหญ่โตแล้ว แต่จากข้อมูลล่าสุดที่บริษัทออกมาแถลง กลับพบว่า อายุของเฉลี่ยของลูกค้าโรลส์-รอยซ์ ลดลงมาอยู่ที่เพียง 43 ปี

นั่นหมายความว่า อายุจริงๆ ของเจ้าของรถที่ถูกนำมาเฉลี่ยรวม อาจจะอยู่ที่เพียง 20 ถึง 30 ปีเท่านั้น! เรียกได้ว่าเป็นกลุ่ม “อายุน้อยพันล้าน” อย่างแท้จริง
 
แบรนด์ “โรลส์-รอยซ์” เป็นแบรนด์ภายใต้เครือ “BMW” เช่นเดียวกับแบรนด์รถหรูอย่าง “Mini” ซึ่งบริษัทแม่อย่าง BMW เปิดเผย อายุเฉลี่ยของลูกค้า Mini และ BMW ในสหรัฐ ว่าอยู่ที่ 52 และ 55 ปี

ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษา IHS Markit ยังระบุว่า กลุ่มลูกค้าของโรลส์-รอยซ์ที่ มีอายุต่ำกว่า 45 ปี มีจำนวนมากกว่า แบรนด์รถหรูอื่นๆ ได้แก่ Mercedes-Benz, Audi, Lexus หรือแม้แต่ Lamborghini อีกด้วย

สาเหตุที่อายุของมหาเศรษฐีเจ้าของโรลส์-รอยซ์ เป็นกลุ่มคนที่มีอายุยังน้อย ซีอีโอของ โรลส์-รอยซ์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา “Martin Fritches” อธิบายว่า กลุ่มลูกค้าของโรลส์รอยซ์ส่วนใหญ่ มักเป็นผู้ประกอบการ นักกีฬาเบอร์ต้นของวงการ คนในแวดวงบันเทิง ซึ่ง ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย และอยากที่จะใช้เงินซื้อความสุขในวัยที่ตัวเองยังสนุกได้อยู่

 


ในเชิงการตลาด เสน่ห์ของรถหรู โรลส์-รอยซ์ ที่หลายคนยังคงมีภาพจำว่าเป็นรถของมหาเศรษฐีมีอายุ ได้ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ต่อยอดจากความ พิถีพิถัน และความใส่ใจ ที่ทำให้รถโรลส์รอยซ์แต่ละคัน ปรับแต่งได้แทบจะทุกจุด จนกลายเป็นรถยนต์ที่ปรับแต่งมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ และมีคันเดียวในโลก

อย่างเช่น สีและชนิดของวัสดุในห้องโดยสารที่คุณเลือกสรรเองได้ ฟังก์ชันเสริม เช่น ตู้แช่ไวน์ แชมเปญ ที่ควบคุมอุณหภูมิมาอย่างดี ให้เหมาะกับการแช่เครื่องดื่มมากที่สุด หรือไฟรูปหมู่ดาวนับพันจุด ที่ สามารถปรับแต่งให้เป็นท้องฟ้าของคืนที่คุณลืมตาดูโลกได้!

นอกเหนือจากรุ่นเรือธงที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ และแสดงถึงความโอ่อ่าของแบรนด์อย่าง “รุ่น Phantom” แล้ว โรลส์-รอยซ์ยังมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ดูคล่องตัว และตอบโจทย์การใช้งาน และยังตงความหรูหรา อย่างเช่นรุ่น Ghost ที่มีขนาดเล็กลง และถูกปรับโฉมใหม่ และให้ทันสมัยมากขึ้น รวมไปถึงรุ่น Cullinan ที่เป็นรถ SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคนที่มีครอบครัว
 

นอกจากนั้น “Whispers” แอปพลิเคชันพิเศษสำหรับเจ้าของโรลส์-รอยซ์ ที่มีทั้งคอนเทนต์พิเศษ แพ็คเกจเที่ยวสุดเอ็กคลูซีฟ รวมถึง เป็นพื้นที่ให้ชาวโรลส์-รอยส์ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน กับบรรดาสาสกซึ่งแน่นอนว่ามี รสนิยม และจำนวนเงินในบัญชีในระดับเดียวกัน

สำหรับรายชื่อคนดังที่เป็นเจ้าของอัครยานยนต์หรู โรลส์-รอยซ์ มีหลากหลายวงการ เช่น Lady Gaga, Jennifer Lopez, Kim Kardashian, Justin Bieber เหล่านักร้อง นักแสดงชื่อดังแห่งวงการบันเทิง หรือจะเป็นเหล่าคนดังจากวงการกีฬาอย่าง David Beckham, Floyd Mayweather Jr. และ Shaquille O’Neal ก็มีรถหรูไว้ในครอบครองเช่นกัน

แม้ปีที่ผ่านมาจะเป็นปีที่หนักหนาสำหรับหลากหลายธุรกิจ แต่ไม่ใช่กับอุตสาหกรรมรถหรู นอกจาก โรลส์-รอยซ์ แล้ว ก็ยังนับเป็นปีทอง “Bentley” ซึ่งมียอดขายสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท รวมไปถึงกระทิงดุอย่าง “Lamborghini” แม้จะยังไม่มีตัวเลขทั้งปี แต่ยอดขายก็มีท่าทีว่าจะแซงปีที่บริษัทเคยขายได้ดีที่สุด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว