หากพูดถึงยี่ห้อรถยนต์ไฟฟ้า ที่ครองใจคนไทย หนึ่งในแบรนด์ยอดฮิตคงหนีไม่พ้น บีวายดี (BYD) แบรนด์รถ EV ยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน ที่เติบโตจากการเป็นบริษัทแบตเตอรี่มือถือ สู่ธุรกิจยานต์ยนต์ไฟฟ้า
BYD ก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยและทำยอดขายได้อย่างก้าวกระโดด ประเดิมด้วย ATTO 3 เป็นรุ่นแรก และตามมาด้วยรุ่น Dolphin
BYD ยังคงครองแชมป์เจ้าตลาดยอดขายรถยนต๋ไฟฟ้าในไทยสูงสุดติดต่อกันนานถึง 6 เดือน และมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุง (ป้ายแดง) เมื่อเดือน ก.ค.66 ที่ผ่านมา (BYD ATTO 3 : 1,377 คัน)
เปิดคลังอะไหล่ของ BYD
บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้ายกระดับงานบริการหลังการขาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า
การลงทุนศูนย์อะไหล่ REVER BYD Spare Parts Center คลังอะไหล่ที่มีความจุกว่า 200,000 ชิ้น หรือประมาณ 2,500 พาลเลต ที่สามารถตอบสนองความต้องการเฉลี่ย 4-7 เดือน ครอบคลุมชิ้นส่วนทุกชิ้นสำหรับรุ่น BYD ATTO 3 และอะไหล่สำหรับรุ่น BYD Dolphin กำลังทยอยเข้ามาและจะครอบคลุมทุกชิ้นส่วนในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้
โดยคลังอะไหล่ของ BYD สามารถแบ่งออกได้ 3 โซนหลักๆ ดังนี้
สำหรับส่วนชิ้นส่วนสำคัญอย่าง Blade Battery และ อุปกรณ์เสริมอื่นๆ จะถูกจัดเก็บเป็นพิเศษในห้องควบคุมความเย็น และควบคุมความชื่นในอยู่ในมาตรฐานอีกด้วย
นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด เผยว่า “คลังสินค้านี้มีอะไหล่สำรองครบครัน เพื่อรับประกันว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที เรามุ่งเน้นที่จะเป็นศูนย์กลางของทุกความต้องการสำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า และการเปิดตัวคลังอะไหล่แห่งใหม่จะช่วยยกระดับการดำเนินงานและพัฒนาบริการให้คล่องตัวขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการด้านอะไหล่ทดแทนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น”
คลังแห่งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม 4.5 เท่า เตรียมเปิดก.ย.นี้
ทั้งนี้ บริษัทกำลังสร้างคลังอะไหล่แห่งใหม่ ในพื้นที่ขนาด 18,000 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่กว่าปัจจุบันถึง 4.5 เท่า รองรับอะไหล่สูงสุด 1,000,000 ชิ้น ในพื้นที่บางนา-ตราด ให้เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าถึงผู้จัดจำหน่ายในภูมิภาคต่าง ๆ ภายในเวลา 1-4 วัน โดยคลังอะไหล่ที่นี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน
โปรแกรมใหม่ตอบโจทย์ ส่งต่อรถ EV มือสอง
อีกหนึ่งปัญหาที่น่าปวดใจทั้งกับ ‘คนซื้อ’ และ ‘คนขาย’ รถมือสอง นั่นก็คือ การโดนย้อมแมวขาย และการโดนกดราคา ยิ่งรถยนต์ EV นับว่า เป็นสิ่งใหม่ในตลาด คนยังไม่ค่อยมีความรู้ที่สามารถตรวจเช็คคุณภาพและสภาพรถยนต์ไดด้วยตัวเอง และการหาช่องทางซื้อรถยนต์ EV ที่ไว้ใจได้ยาก
BYD จึงได้ออกโปรแกรม “REVER Inspected” จะเข้ามาเป็นตัวกลางเพื่อตอบโจทย์ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายรถ BYD ด้วยการให้บริการเพื่อตรวจสอบและประเมินสภาพรถยนต์ไฟฟ้า BYD ในทุกด้าน ทั้งสภาพทั่วไป สภาพเทคนิค รวมถึงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจและได้รับความสะดวกสบายในการส่งต่อรถในตลาดรถยนต์มือสองในราคาที่เหมาะสม และผู้ซื้อได้รับรถที่ได้มาตรฐาน พร้อมใช้งานทันที ถือว่าเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่ออกแบบการให้บริการตรวจสภาพพร้อมประเมินประสิทธิภาพแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของ Blade Battery
โปรแกรม ‘RÊVER Inspected ประกอบไปด้วย
1.การประเมินด้านเทคนิคด้วยเครื่องมือพิเศษของ BYD รวม 43 รายการ ประกอบไปด้วย การตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ (SOH), ระบบการจัดการแบตเตอรี่ (BMS), แรงดันแบตเตอรี่รวม (สูงสุด - ต่ำสุด), สถานะการชาร์จ (SOC), โมดูลซ้าย – ขวา - หลัง, โมดูลควบคุมโดเมนพลังงาน, ระบบแรงดันลมยาง (TPMS), คอมเพรสเซอร์ A/C, โมดูลควบคุมกำลังมอเตอร์ (MPC), เซนเซอร์จุดบอด, ตัวแปลงไฟฟ้า AC-DC, ชาร์จเจอร์บนบอร์ด, โมดูลตัวเพิ่มพลังงานอัจฉริยะ (IPB), โมดูลถุงลมนิรภัย, โมดูลชาร์จไร้สาย, โมดูลควบคุมเกียร์เรือ, โมดูลความถี่สูง เป็นต้น
2.การประเมินอุปกรณ์มาตรฐานและประวัติการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ BYD ประกอบไปด้วย การตรวจสอบเอกสารสำคัญ เช่น เอกสารและคู่มือการรับประกัน, สมุดคู่มือการใช้งาน, เล่มทะเบียนและป้ายภาษี, การ์ด SD, กุญแจรีโมท, การ์ด NFC และรายละเอียดการบำรุงรักษาตามระยะเวลาหรือระยะทาง
3.การประเมินสภาพรถยนต์ทั่วไป รวม 98 รายการ ประกอบไปด้วย การตรวจลักษณะภายนอกและโครงสร้างรถ 20 รายการ, รายละเอียดภายใน 29 รายการ, การตรวจใต้ท้องรถและระบบขับเคลื่อน 37 รายการ, การทำงานของอุปกรณ์ทั่วไป 12 รายการ