บิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 73,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 2,600,000 บาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในวันช่วงเย็นนี้ (13 มี.ค.67)
ภาพจาก https://www.bitkub.com/th/market/btc เมื่อ 13 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 16:45 น.
ราคา Bitcoin (BTC) ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 2,620,000 บาท เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ครั้งประวัติศาสตร์ (All-Time High) บนกระดาน Bitkub Exchange โดยมีราคาต่ำสุดใน 24 ชม. อยู่ที่ 2,499,695.46 บาท เปลี่ยนแปลง +1.81%
ส่วนราคา Bitcoin (BTC) ในฝั่งสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จากเว็บไซต์ Coinmarketcap.com ทำระดับสูงสุดใหม่อยู่ที่ 73,637.47 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีราคาต่ำสุดใน 24 ชม. อยู่ที่ 68,728.85 บาท เปลี่ยนแปลง +1.74% ภาพรวมตลอด 7 วันที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin ยังปรับตัวไปในทิศทางสูงขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงถึง +9.86%
ภาพจาก https://www.bitkub.com/th/market/btc เมื่อ 13 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 16:45 น.
การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาในครั้งนี้ คาดว่าจะมาจากการเข้าซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่องจาก iShares Bitcoin Trust (IBIT) ซึ่งเป็นกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Spot Bitcoin ETFs จาก BlackRock Inc. บริษัทจัดการการลงทุนและสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีทรัพย์สินภายใต้การจัดการ (AUM) ทะลุมูลค่า 14.76 พันล้านดอลลาร์
ส่วนการถือครอง Bitcoin ทั้งหมดของ IBIT ณ วันที่ 11 มีนาคม 2567 อยู่ที่ 203,755 BTC มูลค่า 14.76 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการถือครอง bitcoin ของกองทุนเพิ่มขึ้น 7,769.52 BTC จากวันซื้อขายก่อนหน้า (ข้อมูลจาก news.bitcoin.com )
ภาพจาก https://companiesmarketcap.com/assets-by-market-cap/#google_vignette
เมื่อ 13 มีนาคม 2567
การปรับสูงขึ้นของราคา Bitcoin ยังส่งผลให้มูลค่าตลาด (Marketcap) ของ Bitcoin ขึ้นอันดับ 8 ในกลุ่มสินทรัพย์ทั้งหมดทั่วโลก มูลค่าตลาดได้ปรับสูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ทะลุระดับ 1.439 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเปรียบเทียบบิตคอยน์เป็นบริษัทหนึ่ง ก็นับได้ว่าเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงกว่า Meta เจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook ที่มีมูลค่าตลาดที่ 1.274 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในอันดับ 9 หรือบริษัท Tesla ซึ่งมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 565.42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทางด้านราคาคริปโทเคอร์เรนซีเบอร์ 2 ของโลกอย่าง Ethereum (ETH) สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นรองลงมาจาก Bitcoin ก็ทำราคาเข้าใกล้ All-Time High เดิมที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 อยู่ที่ 4,891.70 ดอลลาร์สหรัฐ และปัจจุบัน ณ วันที่ 13 มีนาคม 2567 มีมูลค่าอยู่ที่ 4,047.73 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีราคาต่ำสุดใน 24 ชม. อยู่ที่ 3,831.89 บาท ภาพรวมตลอด 7 วันที่ผ่านมา ราคาของ Ethereum มีการปรับตัวไปในทิศทางสูงขึ้น โดยมีการเปลี่ยนแปลงถึง +6.03% ท่ามกลางความตื่นตัวของนักลงทุนที่กำลังรอคอยการอัปเกรดครั้งใหญ่ “Ethereum Dencun” ที่จะเกิดขึ้นสำเร็จในช่วงคืนวันที่ 13 มีนาคม 2567 เวลา 20:55 น. ตามเวลาประเทศไทย สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://blog.ethereum.org/th
โดยบิตคอยน์ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่
- การที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ให้การอนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF
- ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย.นี้
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้
- ล่าสุดจากการที่อังกฤษเปิดทางซื้อขายตราสารหนี้ที่มีมูลค่าอิงตามคริปโทเคอร์เรนซี
ด้าน Financial Conduct Authority (FCA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของอังกฤษ ประกาศอนุญาตให้แพลตฟอร์มการลงทุนที่ได้รับการรับรองสามารถเปิดตัวทำการซื้อขาย Exchange Traded Notes (ETNs) ที่มีมูลค่าอิงตามคริปโทเคอร์เรนซี
ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE) ออกแถลงการณ์ระบุว่า LSE พร้อมรับคำขอสำหรับการซื้อขาย ETNs ที่มีมูลค่าอิงตามบิตคอยน์และอีเธอเรียมตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ETNs เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงิน และมีมูลค่าอิงตามสินทรัพย์ที่ระบุไว้
ขณะที่ FCA ยังระบุอีกว่า การซื้อขาย ETNs ที่มีมูลค่าอิงตามคริปโทเคอร์เรนซี จะจำกัดเฉพาะนักลงทุนแบบมืออาชีพ เช่น บริษัทด้านการลงทุนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำการซื้อขายในตลาดการเงินเท่านั้น พร้อมกับ เตือนว่า ETNs ที่มีมูลค่าอิงตามคริปโทเคอร์เรนซี จะสร้างความเสี่ยงต่อนักลงทุนรายย่อย
ทั้งนี้ การดำเนินการของ FCA มีขึ้น หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ให้การอนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF เมื่อวันที่ 10 ม.ค.
ข้อมูลจาก www.bitkub.com