ภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นเครื่องมือหลักในการผลักดันเศรษฐกิจของไทยต่อไป รัฐบาลนายกฯเศรษฐา ประกาศชัดจะผลักดันให้การท่องเที่ยวไทยกลับมาช่วยฟื้นเศรษฐกิจอีกครั้ง นอกเหนือจากการอัดฉีดเงินครั้งใหญ่ ด้วยนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท
มาตราการล่าสุดคือ การฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน สามารถเข้ามาพำนักในประเทศไทยได้เป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและความเชื่อมโยงระดับประชาชน รวมทั้งมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐคาซัคสถาน
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา คาดหวังว่า ในช่วง ต.ค.-ธ.ค. 66 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเพิ่มอีกประมาณ 7 แสนคน
ขณะที่นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินว่า นโยบายฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มเข้ามา 30% จากเดิมที่ไม่มีฟรีวีซ่าอยู่ที่ 3.6-3.7 ล้านคนต่อปี เป็น 4.1-4.4 ล้านคนเมื่อมีฟรีวีซ่า
ขณะเดียวกันททท.ได้รับการตอบรับจากเอเยนต์ท่องเที่ยวและสายการบิน หรือ Online Travel Abgency (OTA) อย่าง Booking.com ดีมาก ราคาตั๋วโดยสารเริ่มแพง อาจต้องมีการเติมที่นั่งของสายการบิน และการจัด slot การบินเพิ่มขึ้น โดย Seat Capacity เที่ยวบินจีน ช่วง 1 ต.ค.66-31 มี.ค.67 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 2.52 ล้านที่นั่ง หรือเท่ากับ 38%ของปี 62 ก่อนโควิด และคาดอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) น่าจะอยู่ที่ 85% ทั้งนี้อาจจะเพิ่มที่นั่งได้มากขึ้นกว่าเดิม หรืออาจมีการจัดเครื่องบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลท์)
ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานให้นายกรัฐมนตรี พบกับนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีของจีน ในช่วงวันที่ 7-10 ต.ค.นี้ ซึ่ง ททท.เตรียมพาผู้ประกอบการรายใหญ่ร่วมคณะไปด้วย เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวไทย
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ก็เตรียมความพร้อมเต็มที่เพื่อให้สนามบินที่อยู่ความรับผิดชอบกระทรวงฯ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินภูเก็ต มีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาอย่างเต็มที่
สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้าหมายเชิงท้าทาย ทั้งตลาดในและต่างประเทศ 4 ล้านล้านบาทให้ได้เร็วที่สุด โดยแบ่งเป็นรายได้การท่องเที่ยวเฉพาะตลาดต่างประเทศ 3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ก่อนโควิดระบาดที่สร้างรายได้ราว 2 ล้านล้านบาท ส่วนรายได้ตลาดในประเทศวางเป้าไว้ที่ 1 ล้านล้านบาทตามเดิม
ส่วนในปี 67 กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน หรือเท่ากับ 100% ในปี 62 หรือก่อนโควิด โดยเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท และในประเทศ 1 ล้านล้านบาท ที่ตั้งเป้า 180 ล้านคน/ครั้ง
นี่เป็นบัญญัติ 10 ประการ ที่จะมา restart ครั้งใหญ่การท่องเที่ยวของไทย ให้เป็นเครื่องจักรที่ช่วยทำรายได้เข้าประเทศ หรือเป็น Quick win New Income หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจให้กลับมาอีกครั้ง