สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซารุนแรงหนักสุดในรอบหลายสิบปี เมื่อกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลด้วยจรวดหลายพันลูก ขณะที่อิสราเอลตอบโต้ด้วยปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่ ส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมันในอิสราเอลต้องหยุดการผลิตชั่วคราวและนักลงทุนมีความวิตกกังวล
ความเสี่ยงสงครามอิสราเรล ฮามาส เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน แม้ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีความขัดแย้งกันมานาน โดยฮามาสเป็นกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์ที่เคร่งศาสนาอิสลาม ซึ่งปกครองฉนวนกาซา และได้ทำสงครามกับอิสราเอลหลายครั้งนับตั้งแต่เข้ายึดครองฉนวนกาซาในปี 2007
แต่เหตุการณ์โจมตีที่กลุ่มฮามาสเริ่มต้นขึ้นในวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.2566 ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า จากนั้นอิสราเอลโต้กลับอย่างหนักหน่วง นี่จึงนับเป็นสงครามมเต็มรูปแบบที่รุรนแรงในรอบ หลายสิบปี ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ เที่ยวบินจากประเทศต่างๆ ต้องระงับการบินไปอิสราเอลเพื่อความปลอดภัย
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า แรงงานไทย เสียชีวิตจากการปะทะกันราว 12 คนแล้ว โดยพบว่า มีแรงงานไทยอาศัยอยู่ในอิสราเอลเกือบ 30,000 คน กำลังได้รับการประสานเพื่อช่วยเหลือให้เดินทางกลับประเทศไทยตามความสมัครใจ
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทั้งน้ำมันดิบ WTI และ น้ำมันดิบ BRENT ราคาพุ่งขึ้นกว่า 4 % ในการซื้อขายช่วงเช้าวันจันทร์ทะลุ 90 เหรียญ ส่วนราคาทองคำพุ่งขึ้นทะลุ 2,000 เหรียญเช่นกัน
โดยราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 4% ในช่วงเช้าวันนี้ สูงสุดอยู่ที่ 93.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลขณะที่น้ำมันดิบ Brent ก็พุ่งแรง สูงสุดอยู่ที่ 98.57 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล นักลงทุนกังวลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก
ทั้งนี้นายคริสเตียน มาเลค หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านพลังงาน เจพีมอร์แกน คาดการณ์ว่า มีโอกาสราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวในระดับ 80-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองว่า การโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ของกลุ่มฮามาสอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและซาอุดิอาระเบีย และอาจนำไปสู่การบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านที่เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบ ราคาทองคำ รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นจากความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ตลาดจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าจะขยายวงมากเพียงใด
ด้านราคาทองคำ COMEX GOLD ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2,055.7 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศวันนี้ช่วงเช้าปรับขึ้นรอบแรกขึ้นไปถึง 400 บาท/บาททองคำ และระหว่างวันมีการปรับขึ้นลง 4 ครั้ง โดยราคาทองคำจากสมาคมค้าทองคำล่าสุด
ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 32,400 บาท/บาททองคำ ขายออกบาทละ 32,500 บาท/บาททองคำ
ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 31,820.84 บาท/บาททองคำ ขายออกบาทละ 33,000 บาท/บาททองคำ
ขณะที่บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นฝั่งยุโรปเปิดในแดนลบวันนี้เนื่องจากการโจมตีกันระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ส่งผลให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น พันธบัตรและทองคำ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 444.84 ลดลง 0.09 จุด หรือ -0.02% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดที่ระดับ 15,143.29 จุด ลดลง 86.48 จุด หรือ -0.57% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ 7,041.38 จุด ลดลง 18.77 จุด หรือ -0.27%
.
ขณะที่ตลาดหุ้นไทย SET Index ปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดลงไปต่ำสุดของวันที่ 1,423.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,00 กว่าล้านบาท คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1425 – 1460
สัปดาห์นี้ คาดว่าดัชนี SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1425 – 1460 โดยนักลงทุนยังมองเป็นโอกาสสะสมหุ้นขนาดใหญ่จากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ เน้นที่ หุ้นขนาดใหญ่ (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ส่งออก (TU) กลุ่มการเงิน (MTC TIDLOR)
สิ่งที่ทั่วโลกกำลังจับตากันอย่างใกล้ชิด คือ ท่าทีของสหรัฐฯ นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ประกาศ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินหน่วยจู่โจมและเครื่องบินรบของกองทัพ F-35, F-15, F-16 และ A-10 เข้าประจำการใกล้อิสราเอล เพื่อแสดงการสนับสนุนอิสราเอลในการรับมือกับกลุ่มฮามาส และยังเริ่มจัดหากระสุนและยุทโธปกรณ์ทางการทหารอื่น ๆ ให้กับอิสราเอลตัวอย่างเช่น
ท่าทีดังกล่าวของสหรัฐฯ หลายฝ่ายมองว่า ดูเหมือนจะเล่นใหญ่ จนกังวลว่า หรือแท้จริงแล้ว เบื้องหลังของกลุ่มฮามาส จะเป็น อิหร่านหรือไม่ ที่คอยให้การสนับสนุน จนทำให้สหรัฐต้องมาสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ ขณะที่คณะผู้แทนอิหร่านประจำสหประชาชาติ ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล แต่อย่างใด
นอกจากสถานการณ์สงครามอิสราเอล ปาเลสไตน์ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดแล้ว นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เผยว่า สัปดาห์นี้ นักลงทุนจะจับตารายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) ในวันพฤหัสบดี Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 3.6%YoY 0.3% MoM หากต่ำกว่าที่คาดหมายจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ (PPI) ในวันพุธ โดย Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.3%MoM หากต่ำกว่าคาด ก็มองเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นเช่นกัน
OPEC+ คุมอุปทานน้ำมันดิบต่อเนื่อง ดันราคาน้ำมันพุ่ง บริษัท PTTEP คาดว่า OPEC+ จะยังคงคุมอุปทานน้ำมันดิบต่อเนื่อง เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก โดย EIA ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยไตรมาส 4/23 จะอยู่ที่ US$93/บาร์เรล และ US$88/บาร์เรลในปี 2024
แคมเปญ "เก่าแลกใหม่" หนุนยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า HMPRO เปิดตัวแคมเปญ "เก่าแลกใหม่" ในช่วงวันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2023 เพื่อกระตุ้นยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ลูกค้านำมาแลกคือเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า แคมเปญนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นสัดส่วนยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า (20%-25% ของยอดขายรวม) ขึ้นได้ 1%-2%
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แถลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2566 ว่า กำลังติดตามสถานการณ์ในอิสราเอลและฉนวนกาซาอย่างใกล้ชิด และยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ
โฆษกของ IMF กล่าวว่า "เราเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียชีวิต เรากำลังติดตามสถานการณ์ที่น่ากังวลนี้อย่างใกล้ชิด" และกล่าวเสริมว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจใดๆ