ในจำนวนนี้มีเศรษฐีรุ่นใหม่มากกว่าครึ่ง หรือ 53% ที่มีสินทรัพย์ในรูปแบบคริปโตอย่างน้อย 50% ในพอร์ทการลงทุน ขณะที่อีกเกือบ 1 ใน 3 มีสินทรัพย์ในสัดส่วนเกือบ 3 ใน 4 เป็นบิทคอยน์ อีเธอเรียม และคริปโตสกุลอื่นๆ
ตัวเลขดังกล่าวนับว่าตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับนักลงทุนรุ่นก่อนๆ โดยหากเทียบกับเศรษฐีในรุ่น Baby boomer หรือคตนในช่วงวัย 57 - 75 ปี จะพบว่ามีการลงทุนคริปโตเพียง 4% เท่านั้น ขณะที่เศรษฐีในยุคเจน X หรือช่วงวัย 41 - 56 ปี สัดส่วนมากกว่า 3 ใน 4 ยอมรับว่าไม่มีคริปโตในพอร์ทเลยสักเหรียญเดียว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของความมั่งคั่งระหว่างวัยมาก
ขณะเดียวกัน แม้ว่าราคาคริปโตเช่น บิทคอยน์ จะปรับตัวลดลงมากจากราคาสูงสุดเมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ผลสำรวจยังคงพบว่า เศรษฐีเจน Y ยังคงเชื่อมั่นในอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลชนิดนี้ โดย 48% มีแผนจะลงทุนเพิ่มอีกภายใน 12 เดือนข้างหน้า ส่วนอีก 39% มีแผนจะคงพอร์ทลงทุนคริปโตในระดับเดิม และมีเพียง 6% เท่านั้นที่มีแผนจะลดสัดส่วนการลงทุนคริปโตในปีหน้า
CNBC ระบุว่า ยิ่งคนยุคมิลเลนเนียลและเจน Z ตั้งตัวเป็นเศรษฐีเงินล้านได้จากคริปโต และแม้แต่เศรษฐีใหม่ที่ได้มรดกมาจากครอบครัวก็นิยมนำเงินไปลงทุนในคริปโต ก็ยิ่งทำให้การลงทุนนี้มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็จะเป็นปัญหาให้บรรดาธุรกิจจัดการความมั่งคั่งทั้งหลายเช่นกัน หากยังปรับตัวตามไม่ทัน เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่ซึ่งเป็นหน่วยย่อยของธนาคารพาณิชย์ ยังไม่มีพอร์ทการลงทุนคริปโต เพราะการลงทุนนี้มีความเสี่ยงสูงและยังมีข้อจำกัดทางกฎหมายในหลายประเทศ