Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ลดความเสี่ยง พิชิตโอกาส กระจายการลงทุน ผ่าน Auto Top Funds Portfolio
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ลดความเสี่ยง พิชิตโอกาส กระจายการลงทุน ผ่าน Auto Top Funds Portfolio

28 มี.ค. 68
13:11 น.
แชร์

ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงกว่า 16.43% (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มี.ค.68) จากปัจจัยกดดันทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้การลงทุนในหุ้นไทยมีความเสี่ยงสูงขึ้น หลักทรัพย์บัวหลวง แนะนำควรกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังสินทรัพย์และภูมิภาคอื่น ๆ ผ่าน “การจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ” หรือ Auto Top Funds Portfolio ซึ่งเป็นทางเลือกการลงทุนที่โดดเด่นในการกระจายความเสี่ยงด้วยการบริหารพอร์ตโดยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเลือกลงทุนได้ตามระดับความเสี่ยงและเป้าหมายของนักลงทุน เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นไทย

นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 เป็นต้นมา ตลาดหุ้นไทยได้เผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยลดลงกว่า 17% (ข้อมูล ณ วันที่ 13 มีนาคม 2568) โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่ค้าหลักอันดับหนึ่งของไทย รวมถึงความเสี่ยงจากสงครามการค้ารอบใหม่ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) รวมทั้งไทยด้วย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เงินฝืดและวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการส่งออกของไทย ขณะเดียวกัน ภายในประเทศยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากปัญหาเชิงโครงสร้างต่างๆ เช่น ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และการฟื้นตัวทางธุรกิจที่ยังไม่ทั่วถึง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลต่อประมาณการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีชะลอตัว ดังนั้นนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น การกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในสินทรัพย์และภูมิภาคอื่นๆ จึงถือเป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนในปี 2568

นักลงทุนที่ต้องการพอร์ตลงทุนที่สร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืน เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นไทย กระจายการลงทุนทั่วโลก ด้วย Auto Top Funds Portfolio เป็นทางเลือกที่โดดเด่น ด้วยระบบบริหารการลงทุนปรับพอร์ตให้อัตโนมัติสอดคล้องกับภาวะตลาด โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญกำหนดมุมมองและสัดส่วนการลงทุน พร้อมคัดเลือกกองทุนรวมกว่า 2,000 กองทุนจากบลจ.ชั้นนำของไทย โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการบริหารพอร์ตเพิ่มเติม และไม่ต้องกังวลเรื่องภาษีต่างประเทศ เนื่องจากลงทุนผ่านกองทุนรวมในประเทศไทย ปัจจุบันมีให้เลือกลงทุนทั้งหมด 6 พอร์ตโมเดล ตามระดับความเสี่ยงและเป้าหมายของนักลงทุน

1. พอร์ตเสี่ยงสูง Aggressive Asset Allocation (AAA)

เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง กระจายการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือกเป็นหลัก โดยในปี 2567 สร้างผลตอบแทนที่ 7.41% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2567) ให้ผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงสูงที่มีผลตอบแทน 1.50% และมีค่าความผันผวนพอร์ต (SD) 4.38% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงสูงที่ 10.10%

2. พอร์ตเสี่ยงปานกลาง Moderate Asset Allocation (MAA)

เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง เน้นสัดส่วนการลงทุนในกองทุนรวมหุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก โดยในปี 2567 สร้างผลตอบแทนที่ 5.97% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2567) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงปานกลางที่มีผลตอบแทน 2.19% และมีค่าความผันผวนพอร์ต (SD) 3.53% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงปานกลางที่ 5.54%

3. พอร์ตเงินปันผล Dividend Income Asset Allocation (DAA)

เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และต้องการรายได้จากเงินปันผล โดยเน้นลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ซึ่งในปี 2567 จ่ายเงินปันผลไปแล้ว 9 ครั้ง คิดเป็นผลตอบแทนหลังหักภาษีเงินปันผลอยู่ที่ 1.71% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 ธ.ค. 67) โดยในปี 2567 สร้างผลตอบแทนรวมที่ 5.41% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 ธ.ค. 67) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงสูงที่มีผลตอบแทน 1.50% และมีค่าความผันผวนพอร์ต (SD) 4.29% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงสูงที่ 10.10%

4. พอร์ตเสี่ยงต่ำ Conservative Asset Allocation (CAA)

เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ เน้นลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้เป็นหลัก โดยในปี 2567 สร้างผลตอบแทนที่ 2.79% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2567) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงต่ำที่มีผลตอบแทน 1.95% และมีค่าความผันผวนพอร์ต (SD) 1.43% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงต่ำที่ 2.60%

5. พอร์ตตราสารหนี้ระยะสั้น Fixed Income Saving Package (FIXEDSP)

เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคง และต้องการบริหารสภาพคล่อง เน้นลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น โดยในปี 2567 สร้างผลตอบแทนที่ 2.45% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2567) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีผลตอบแทน 2.30% และมีค่าความผันผวนพอร์ต (SD) 0.11% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มตราสารหนี้ระยะสั้นที่ 0.13%

6. พอร์ตตราสารหนี้ทั่วโลก Fixed Income Dynamic Package (FIXEDDP)

เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง และต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก เน้นลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นและยาว ทั้งในและต่างประเทศ โดยในปี 2567 สร้างผลตอบแทนที่ 1.71% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2567) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มตราสารหนี้ทั่วโลกที่มีผลตอบแทน 0.65% และมีค่าความผันผวนพอร์ต (SD) 1.92% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มตราสารหนี้ทั่วโลกที่ 4.35%

ผลตอบแทนกลยุทธ์ AAA, MAA, CAA ปี 2567 เมื่อเทียบกับ SET

ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยยังซบเซาและมีความไม่แน่นอนสูง การลงทุนในหุ้นไทยเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบ การกระจายพอร์ตการลงทุน ผ่าน Auto Top Funds Portfolio เป็นทางเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ที่ปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าพอร์ตของตนจะได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนคอยกำหนดมุมมองและสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยง พร้อมคัดเลือกกองทุนตัวท็อปที่มีผลงานเด่น และดูแลปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับภาวะตลาดโดยอัตโนมัติ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แอป Wealth CONNEX

แชร์
ลดความเสี่ยง พิชิตโอกาส กระจายการลงทุน ผ่าน Auto Top Funds Portfolio