จุดเริ่มต้นของธุรกิจยาดมสมุนไพรหงส์ไทยนั้น เริ่มต้นธุรกิจด้วยการทำแคบหมูและน้ำพริก ก่อนจะมาทำพิมเสนน้ำ แบบไม่มียี่ห้อมาก่อน ถือเป็น ยาดมสมุนไพรหมักเจ้าแรกในประเทศไทย ที่เริ่มขายจากพิมเสนน้ำ
จุดพลิกผันของชีวิต จนทำให้แบรนด์ หงส์ไทย ติดตลาดจนถึงทุกวันนี้ เกิดขึ้นจาก พ่อค้าแม่ค้าคู่หนึ่งในตลาดนัด ให้ลูกชายนำยาดมสมุนไพรของธีระพงศ์ไปขายในโรงงานแห่งหนึ่ง ปรากฏว่า ยาดมสมุนไพรของธีระพงศ์ได้รับความนิยมอย่างมากจึงตัดสินใจเปลี่ยนจากการเดินขายเองเป็นการทำส่งแทน ส่งผลให้ยาดมหงส์ไทยกลายเป็นยาดมสมุนไพรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย
จุดเด่นของยาดมสมุนไพร หงส์ไทย ขวดเขียวนั้น โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมเย็นชื่นใจจากสมุนไพรนานาชนิด สรรพคุณช่วยแก้ลม วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย บรรเทาอาการคัดจมูก
ยาดมสมุนไพรหงส์ไทยมียอดขายล้านชิ้นต่อปี กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ยาดมสมุนไพรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย สำหรับทิศทางผลประกอบการของ บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 100 ล้านบาท
หงส์ไทย เป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เมื่อ 2 หนุ่มจอมพลังนักยกน้ำหนักไทย ฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย (รุ่น 61 กก.ชาย) และ เวฟ วีรพล วิชุมา (รุ่น 73 กก.ชาย) ได้สูดดมหงส์ไทยก่อนยกน้ำหนัก จนทั้งคู่สามารถคว้า 2 เหรียญเงิน โอลิมปิกปารีส 2024 ให้คนไทยได้สำเร็จ ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยบอกว่า “นอกจากเครื่องลางของขลังที่นักกีฬาจะพกไปแข่งขันแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่าง ก็คือ ยาดมหงส์ไทย"
โดยรูปภาพและวีดีโอในช่วงที่ฟ่าง และเวฟ 2 หนุ่มจอมพลัง ได้สูดดมยาดมหงส์ไทยแบบเต็มปอด ในช่วงก่อนขึ้นยก กลายเป็นมีมชั่วข้ามคืน ชาวเน็ตหลายคนต่างเข้ามาแซวถึงความน่ารักของ 2 หนุ่มว่า “นี้ซินะคือเคล็ดรับความสำเร็จของคนไทย” กลายเป็นว่า เราได้รับอานิสงส์ได้โปรโมท soft power ของดี ของดังของประเทศเราไปในตัว ผ่านสายตาของคนทั้งโลก จากการถ่ายทอดสดโอลิมปิก 2024
ไม่นานเพจ บริษัทสมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด –เพจสำนักงานใหญ่ ร่วมแชร์รูปภาพดังกล่าว แสดงว่ายินดี “หงส์ไทยดีใจที่ได้เป็นส่วนร่วมเพิ่มกำลังใจสร้างความสดชื่นเป็นอาวุธลับ อยู่คู่นักกีฬาไทย และอยู่เคียงข้างมุ่งสู่ความสำเร็จของคนไทยทุกคน”
รู้หรือไม่ก่อนที่ ธุรกิจ ยาดมสมุนไพรหงส์ไทย จะประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ มียอดขายหลาย ล้านชิ้นต่อปี มีผลิตภัณฑ์ ยาดม ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค หลายคนอาจคิดว่าเพียงแค่ผลิตยาดมที่มีคุณภาพก็น่าจะเพียงพอ แต่ความจริงแล้ว กว่าจะมาเป็นยาดมสมุนไพร หงส์ไทย อย่างทุกวันนี้ ต้องผ่านอะไรมามากมาย เผชิญความยากลำบากล้มลุกคลุกคลาน จนถึงขั้นเกือบยอมแพ้ แต่อะไรละเป็นสิ่งที่ทำให้ ธุรกิจยาดมสมุนไพรอย่าง หงส์ไทย สยายปีกโดดเด่นไปไกลติดระดับโลก เดี๋ยววันนี้เราจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของธุรกิจยาดมสมุนไพรหงส์ไทยนั้น ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะก่อนที่จะเกิดธุรกิจยาดมสมุนไพรหงส์ไทยนั้น คุณ ธีระพงศ์ ระบือธรรม' เริ่มต้นธุรกิจด้วยการทำแคบหมูและน้ำพริก ฝากขายตามร้านโชห่วย ถึงจะประสบความสำเร็จในช่วงแรก แต่ธุรกิจค่อย ๆ ดิ่งลง จึงหันมาทำพิมเสนน้ำแทน โดยลงคอร์สเรียนทำพิมเสนน้ำจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ในช่วงปี 2542 ทำให้เกิดธุรกิจพิมเสนน้ำแบบไม่มียี่ห้อมาก่อน ถือเป็น ยาดมสมุนไพรหมักเจ้าแรกในประเทศไทย ที่เริ่มขายจากพิมเสนน้ำ โดยตระเวนขายไปตามตลาดนัดต่างๆ เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์กับแบกกระเป๋า 8 ใบ ขับไปตระเวนหาลูกค้าตั้งแต่เชียงใหม่ ไปจนถึง อีสานจังหวัดกาฬสินธุ์ แบบไม่มีออเดอร์เรียกง่ายๆก็คือขายแบบตายเอาดาบหน้า แต่เริ่มต้นไม่ประสบความสำเร็จ จึงเปลี่ยนอาชีพไปทำสารคดี และทำพิมเสนน้ำอยู่บ้าง จนกระทั่งกลับมาวางแผนธุรกิจอีกครั้ง
โดยเปลี่ยนจากฝากขายสินค้ากับร้านโชห่วย มาเป็นวางขายในปั๊มน้ำมันแทน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก จนกระทั่งคู่แข่งเริ่มมีมากขึ้น และตัดราคากัน ทำให้ธุรกิจพิมเสนน้ำ ไปไม่รอด จากคำบอกเล่าของคุณ ธีระพงศ์ ถึงสาเหตุหลักก็คือ คู่แข่งเริ่มตัดราคากัน เจ้านั้นส่ง 25 เจ้านี้ส่ง 20 ส่วนเจ้าโน้นก็ตัดเหลือ 15 บาท ลูกค้าที่เคยสั่งกับเราก็ถามเราว่าส่งได้ไหมในราคานี้ เราลองเอามาดูว่าเขาทำยังไง สรุปว่าคุณภาพไม่มี ถามว่าเราทำให้ได้ไหม ทำได้นะ แต่ต้องไปลดสเปก ลดคุณภาพ เลือกต้นทุนต่ำ แต่จะให้ผมทำผมไม่ทำนะ ทำไปลูกค้าก็ใช้ไม่ได้ ที่สุดตลาดก็ค่อยๆ ซาลงเพราะสินค้าไม่มีคุณภาพ จนทำให้ต้องเลิกขายไปในที่สุด
หลังจากที่ คุณ ธีระพงศ์ ห่างหายจากวงการพิมเสนน้ำไป 2 ปี แต่กลับยังคงได้รับคำถามจากลูกค้ามากมายที่ยังคงถามหาสินค้าของเขา ทำให้เขากลับมาทำธุรกิจนี้อีกครั้ง เพราะแสดงให้เห็นว่าลูกค้ายังให้ความไว้วางใจและชื่นชอบในสินค้าของเขา แม้เขาจะหายไปจากตลาดหลายปีก็ตาม คุณ ธีระพงศ์จึงตัดสินใจกลับมาทำธุรกิจพิมเสนน้ำอีกครั้ง โดยตั้งใจที่จะผลิตสินค้าคุณภาพดีและราคาเหมาะสม เพื่อให้ลูกค้าได้กลับมาใช้สินค้าของเขาอีกครั้ง จนในปี 2549 จึงเป็นการกลับมาของยาดมหงส์ไทยอีกครั้ง โดยเปิดตัวสินค้าใหม่เป็นยาดมกระปุกสีเขียว
สำหรับการกลับของหงส์ไทยในครั้งนี้ คุณ ธีระพงศ์ ตั้งใจพัฒนาสินค้าให้ดีกว่าเดิม ทั้งพิมเสนน้ำเดิม และสินค้าใหม่ตามความต้องการของลูกค้า โดยคุณ ธีระพงศ์ ลงทุนเดินขายในตลาดเพื่อเก็บข้อมูลและความต้องการของลูกค้า พัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด โดยทำทุกอย่างเองตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งตั้งชื่อ โลโก้ แพ็กเกจจิ้ง และการพัฒนาสินค้า ส่งผลให้หงส์ไทยมีสินค้าหลากหลายและตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุดเจ้าหนึ่งในตลาด ทำอยู่อย่างนี้ประมาณก็เกือบ 2 ปี จากตอนแรกจากที่เดินขายในตลาดจากวันละไม่ถึง 1,000 บาท จนเดินขายได้วันละ 26,000 บาท
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ยาดมหงส์ไทยประสบความสำเร็จ เกิดขึ้นจากการที่ธีระพงศ์ได้รู้จักกับพ่อค้าแม่ค้าคู่หนึ่งในตลาดนัด พ่อค้าแม่ค้าคู่นั้นได้ให้ลูกชายนำยาดมสมุนไพรของธีระพงศ์ไปขายในโรงงานแห่งหนึ่ง ปรากฏว่า ยาดมสมุนไพรของธีระพงศ์ได้รับความนิยมอย่างมาก มีคนไปหาซื้อที่ร้านขายสมุนไพร ทำให้ร้านขายสมุนไพรโทรกลับมาหาธีระพงศ์ ธีระพงศ์จึงตัดสินใจเปลี่ยนจากการเดินขายเองเป็นการทำส่งแทน จากการทำส่ง ธีระพงศ์ได้มีโอกาสพัฒนาสูตรยาดมสมุนไพรของตนเอง จนได้สูตรที่ลงตัวและเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน ส่งผลให้ยาดมหงส์ไทยกลายเป็นยาดมสมุนไพรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย
คุณ ธีระพงศ์ เล่าว่าการตอบรับถือว่าเซอร์ไพรส์มากเพราะว่าเราก็ไม่คาดคิดว่าสินค้ามันจะมียอดสั่งซื้อมาตั้งแต่ทำครั้งแรก 32 ขวด ทำไปได้ยังไม่ถึงเดือนเลยมียอด 600 ขวด หลายคนที่สั่งก็นิยมเอาไปแจกเป็นของชำร่วย ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากจุดเริ่มต้นนี้ ทำให้ธีระพงศ์ตัดสินใจขยายธุรกิจและเริ่มทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และสื่อโทรทัศน์ ซึ่งส่งผลให้ยอดขายของยาดมสมุนไพรหงส์ไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงระหว่างโควิด-19 ทางบริษัทจะได้รับผลกระทบ ทำให้ยอดขายตกลงบ้าง แต่ยอดขายก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งธีระพงศ์มองว่าเป็นธรรมชาติของตลาดที่ยอดขายจะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ
เกิดจุดเปลี่ยนอีกครั้งที่เกิดขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังลดลงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ถึงเวลาที่จะลงทุนเพิ่ม แต่มีกูรูนักธุรกิจหลายคนแนะนำให้ปรับสภาพและชะลอการลงทุน แต่หงส์ไทยกลับตัดสินใจทำการตลาดมากขึ้น เช่น โทรหาลูกค้า ทำโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย กลยุทธ์ดังกล่าวประสบความสำเร็จ โดยยอดขายของหงส์ไทยกลับมาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลิตไม่ทันขาย จนต้องขยายสาขาไปยังจังหวัดสกลนครและจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อกระจายสินค้า
ผลจากการทำตลาดอย่างหนักหน่วง ทำให้หงส์ไทยมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ยอดขายทะลุ 50 ล้านบาท และมียอดสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ยาดมสมุนไพรหงส์ไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และกลายเป็นสินค้ายอดนิยมของคนไทยและชาวต่างชาติ
ยาดมสมุนไพรหงส์ไทยขวดเขียวนั้น โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมเย็นชื่นใจจากสมุนไพรนานาชนิด สรรพคุณช่วยแก้ลม วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย บรรเทาอาการคัดจมูก จากคำบอกเล่าของลูกค้าที่ใช้ส่วนมากจะถูกใจเรื่องของ กลิ่นที่มันเป็นสากลทั้งเด็กทั้งวัยรุ่นนักศึกษาทั้งคนทำงานทั้งผู้ใหญ่ทั้งผู้สูงอายุพูดง่ายๆว่าตัวสินค้ากลิ่นตัวนี้กวาดเรียบทั้งหมดเลยเป้าหมายของเราคือต้องการให้ลูกค้าซื้อแล้วได้ใช้จริง
หนึ่งขวดอย่างน้อยใช้ได้ 2 - 4 ปี เรียกว่าใช้กันจน ฉลาดหายไปเลยแต่ถึงกระนั้นตัวยาดมก็ยังหอมอยู่ จนเกิดเป็นสโลแกนที่ลูกค้าเรียกติดปากว่า ยิ่งใช้นาน ยิ่งหอม มันเป็นการที่ตอกย้ำให้ลูกค้ารู้ว่า ถ้าของแท้ที่มีคุณภาพจริงๆต้องอยู่ได้ 2- 4 ปี
ผลิตภัณฑ์ของหงส์ไทยจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มได้แก่
สูตร 1 : มีส่วนผสมของสมุนไพรธรรมชาติ เช่น พิมเสน การบูร และน้ำมันหอมระเหย ช่วยให้รู้สึกสดชื่น
สูตร 2 : มีส่วนผสมของสมุนไพรธรรมชาติ เช่น พิมเสน การบูร และน้ำมันหอมระเหย ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและบรรเทาอาการคัดจมูก
สูตร ยูคาลิปตัส : มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและบรรเทาอาการคัดจมูก
ประมาณการผลประกอบการของบริษัท หงส์ไทย
ปัจจุบัน ยาดมสมุนไพรหงส์ไทยมียอดขายล้านชิ้นต่อปี กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ยาดมสมุนไพรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย สำหรับทิศทางผลประกอบการของ บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 100 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเติบโตจากปี 2565 ถึง 250% สาเหตุหลักมาจากกระแสความนิยมของยาดมหงส์ไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจาก ลิซ่า แบล็กพิงก์ ถือยาดมหงส์ไทยในมือในงานวันเกิดของเธอ ส่งผลให้ยาดมหงส์ไทยกลายเป็นสินค้าไวรัลและเป็นที่พูดถึงอย่างมากในสื่อสังคมออนไลน์และพร้อมจะก้าวสู่การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งด้านคุณภาพของยาดมที่ลูกค้านึกถึงและให้ความเชื่อมั่น
อ้างอิงข้อมูลจาก FB บริษัทสมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด -เพจสำนักงานใหญ่
รูปภาพจาก FB บริษัทสมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด -เพจสำนักงานใหญ่ ,จดอ. JUSTดูIT. ,British Vogue , W KOREA