สรุป 20 เรื่องที่น่าสนใจ! จากงาน " THE HALVING MONTH "

ราคาสินทรัพย์ดิจิตอลที่พุ่งสูงขึ้นดึงดูดให้นักลงทุนมากมายกลับมาสนใจการลงทุนในสินทรัพย์ชนิดนี้อีกครั้ง สังเกตได้จากงาน Bitkub Meet Up ที่จัดมาโดยตลอดก่อนหน้านี้ทุก 3-4 เดือนและมีนักลงทุนเข้าร่วมรับฟังอยู่เรื่อยๆ แต่ครั้งล่าสุดเหมือนจะแตกต่าง! เพราะนี้คือปรากฏการณ์ใหม่ คนจำนวนมากหลั่งไหลเข้าร่วมงาน เข้าแถวล่วงหน้า จนเก้าอี้ในงานแทบไม่พอ (และหลายคนเต็มใจที่จะยืนฟังการอัปเดตตลอดระยะเวลา 3 ชม. จนจบงาน)

ทีมข่าว Spotlight ไม่พลาด ที่จะไปร่วมฟังและเก็บบรรยากาศงานครั้งนี้มาฝากทุกคน ครั้งนี้เหล่า speakers คือคนที่นักลงทุนทุกคนล้วนรู้จักเป็นอย่างดี อย่าง “อาจารย์ตั้ม พิริยะ สัมพันธารักษ์ (Managing Director CDC ChalokeDotCom & Rightshift)  “ท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา (Founder and Group CEO Bitkub Capital Group Holdings)”  “สกุล มณฑา (Chief Product Officer Bitkub Online)”  และคุณ CK Cheong, CPA (Chief Executive Officer Fastwork) จากการรับฟังตั้งแต่ต้นจนจบการสัมมนา ขอให้นิยามสั้นๆสำหรับ Bitkub Meet Up ตอน “THE HALVING MONTH” ครั้งนี้ว่า นี่คือการ Meet Up เชิงสัมมนาที่กำลังบอกทุกคนว่า  "โลกบังคับให้คนต้องเข้ามาลงทุน เพราะเงินมันเก็บไม่ได้" และนี่คือสรุป 20  ประเด็นที่น่าสนใจที่เราได้เรียนรู้จากงานครั้งนี้

แนวคิดที่นักลงทุนรุ่นใหม่ “ควรมี” คืออะไรบ้าง?

1) การทำงานหนัก เพื่อเก็บออมเงินไว้สานฝัน (American Dream) ไม่สามารถใช้ได้แล้วในปัจจุบัน เนื่องจากต่อให้ออมเงินไว้เฉยๆ เมื่อเวลาผ่านไป เงินออมเหล่านั้นจะมีคุณค่าที่ลดลงโดยอัตโนมัติ

2) Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่ควรค่าในการเก็บสะสม เปรียบเสมือน Store of Value (ตัวเก็บรักษามูลค่า) ที่พิสูจน์ตัวเองได้ เพราะมีปริมาณจำกัด ซึ่งจากประวัติศาสตร์การเงิน สิ่งที่มีปริมาณจำกัดจะมีคุณค่าเพิ่มขึ้นเสมอ ไม่เหมือนกับเงินของรัฐฯที่ถูกผลิตเข้ามาในระบบได้เรื่อยๆแบบไม่อั้น (การใช้ระบบทองคำ Back up ถูกยกเลิกไปนานมากแล้ว)

3) การลงทุนทุกสิ่งควรคำนึงว่าลงทุนไปเพื่ออนาคต ต้องมองไปข้างหน้าเสมอ

4) AI คือสิ่งที่มาแรงมากๆ จนตอนนี้กฎหมายสำหรับกำกับดูแลต่างๆถูกพัฒนาไม่ทัน

5) คนที่ชนะขาดในตลาดการลงทุน คือคนที่เริ่มศึกษาในสิ่งที่คนส่วนมากยังไม่ศึกษา

6) Warren Buffett นักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกชอบลงทุนในสิ่งที่คนไม่สามารถหลีกลี่ยงในการจ่ายได้ เช่น Visa/Mastercard บางทีการค่อยๆแกะรอยแนวคิดการลงทุนแบบนี้อาจทำให้เจอสิ่งที่สร้างเงินได้ดี

7) Intellectual Humility (การเป็นคนน้ำไม่เต็มแก้ว) เป็นคุณสมบัติที่ทำให้นักลงทุนทุกคนประสบความสำเร็จในการลงทุนเสมอ เพราะเป็นคุณสมบัติของการเปิดใจยอมรับโลกที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา การเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ = โอกาสในการพบเจอสิ่งใหม่ๆเพื่อการลงทุน

8) นักลงทุนต้องรู้จักหน้าตักตัวเอง (Cashflow) เสมอเพราะสิ่งนี้เปรียบเสมือนเลือดในร่างกาย หากบริหารจัดการไม่ดีจะทำให้เกิดอันตราย ต่อให้มีสิ่งที่อยากได้แค่ไหน แต่ถ้าฝืนทำทุกวิถีทางให้ได้มันมาสุดท้ายหากมันมาแบบไม่พร้อม เมื่อบริหารหน้าตักไม่ได้ นักลงทุนมักต้องจำใจขายสินทรัพย์นั้นไปเพื่อนำเงินมาใช้เสมอ

9) Productive Assets (สินทรัพย์ที่เราอยู่เฉยๆแต่มันให้ผลผลิตเรา เช่น อสังหาฯ ที่ปล่อยเช่าได้ หรือหุ้นปันผล)  & Non-productive Assets (สินทรัพย์ที่อยู่นิ่งๆ ไม่ได้ให้ผลผลิตแต่คนให้คุณค่ามัน ซึ่งสามารถแยกได้ต่ออีกว่ามีไว้เพื่อการ investment และ speculation) .... Assets สองสิ่งนี้คือสิ่งสำคัญที่นักลงทุนต้องเข้าใจ และแนะนำว่าหากใครก็ตามมีเงินสดก้อนใหญ่ก้อนแรก ควรนำเงินก้อนนั้นไปลงทุนต่อในสินทรัพย์ประเภท productive เพราะสิ่งนี้จะก่อให้เกิด cashflow และทำให้นักลงทุนนำเงินที่ได้รับไปต่อยอดได้

10) Circle of Competence (ความเชี่ยวชาญในด้านการลงทุนของตัวเอง) คือสิ่งสำคัญที่นักลงทุนต้องค้นหาให้เจอ คนเราถนัดไม่เหมือนกัน แต่หากเจอความเชี่ยวชาญเฉพาะของตนเอง สิ่งนี้จะทำให้นักลงทุนคนนั้นๆประสบความสำเร็จ

11) หลีกเลี่ยงการลงทุนตาม influencers คิดเสมอว่าไม่มีใครรักเงินเราเท่าตัวเราเอง คนที่ออกมาให้ข้อมูล (หรือแม้แต่กองทุนขนาดใหญ่หลายที่) ล้วนมีแผนกระจายข้อมูลเพื่อผลักตลาดให้เป็นไปในทิศทางที่ฝั่งตนอยากให้เป็น

12) มีโอกาสควรเลือกศึกษาการลงทุนต่างๆด้วยตนเอง การลงทุนผ่านกองทุนอาจจะทำให้เกิดรายได้จริงบางครั้ง แต่ผู้ลงทุนจะไม่มีความรู้ติดตัวเลย

13) เวลาคือสิ่งที่มีค่าที่สุด ช่วงวัย 20, 30 คือช่วงเวลาที่มีคุณค่ามหาศาล เพราะมันหมายถึงโอกาสในการ take risk (ทดลองเสี่ยง) ที่ดีที่สุด หากผิดพลาด ยังมีโอกาสเริ่มใหม่ได้เสมอ

และในสภาวะตลาดที่สินทรัพย์ดิจิตอลกำลังเป็นขาขึ้น ณ ตอนนี้ Bitkub มีความพร้อมแค่ไหนและแนวโน้มราคา Bitcoin ปี 2024 จะเป็นอย่างไร?

14) บิทคับพร้อมอัปเดตแอปครั้งใหญ่ต้อนรับ Volume ซื้อ-ขายที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิตอล ปีนี้จะได้เห็นโหมด Pass Key สำหรับฝาก-ถอนเงิน / DCA / Price Alert / Subscription / New UX/UI แน่นอน)

15) บิทคับเก็บสินทรัพย์แบบ 10% ใน Hot wallet (เงินสดฝาก-ถอน) อีก 90% ใน Cold wallet (เงินที่ไม่ถูกเชื่อมกับอินเทอร์เน็ต) และมีประกันดูแลสินทรัพย์ลูกค้าอีก 20,000 ล้านบาท

16) ตอนนี้คริปโตอยู่ในช่วงขาขึ้นมีคนป้อนออเดอร์ที่บิทคับ 700 ออเดอร์/วินาที ซึ่งกำลังของบริษัทฯยังสามารถรับเพิ่มได้อีกหลายเท่า

17) Bitcoin มีทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ การเกิด Halving ที่ถูกพูดถึงตอนนี้ คือปรากฎการณ์ที่รางวัลของการขุด Bitcoin ถูกออกแบบมาให้ลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง เปรียบเสมือนปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุก 4 ปี นั่นคือ 2012, 2016, 2020 และปี 2024 (ในเดือนเมษายนนี้)

18) จากการเกิด Halving ทุกๆรอบตั้งแต่ปี 2012 เรื่อยๆมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ตอนนี้ Bitcoin สามารถถูกขุดขึ้นได้ Maximum ที่ 900 เหรียญ/วัน

19) การเข้ามาของ Spot Bitcoin ETF ส่งผลให้เกิดความต้องการซื้อ Bitcoin ที่ประมาณ 5000 เหรียญ/วัน (และหลัง Halving เมษายนนี้ Bitcoin จะถูกขุดได้เพียง 450 เหรียญ/วัน เท่านั้น เพราะรางวัลขุดถูกออกแบบให้ลดลงครึ่งหนึ่งตามระบบ) ความต้องการที่มากกว่าความสามารถในการผลิตหลายเท่านี้เองที่ทำให้ราคา Bitcoin เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

20) ตลอด 15 ปีที่ผ่านมาแต่ละรอบของการเกิด Halving การสูงขึ้นของราคา Bitcoin เกิดจากเงินของคนกลุ่มเดิมๆ นั่นคือคนทั่วไปที่สนใจลงทุนใน Bitcoin และได้ซื้อเหรียญเก็บ.... แต่ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เงินที่ไหลเข้ามาในตลาดสินทรัพย์ดิจิตอลไม่ได้มีเพียงแค่เงินของคนกลุ่มเดิมแต่กลับถูกเพิ่มเติมด้วยเงินของคนกลุ่มใหม่ นั่นคือเงินของกองทุนต่างๆที่เข้ามา เหล่านี้คือปริมาณเงินมหาศาลที่ยิ่งผลักราคา Bitcoin ให้สูงขึ้น (กองทุนต่างๆอยากลงทุนใน Bitcoin มานานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่มี Spot Bitcoin ETF ที่ซึ่งเปรียบเสมือนใบรับรองสินทรัพย์จากหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐฯว่าสินทรัพย์นั้นๆ สถาบันแต่ละที่ที่รับเงินจากลูกค้าไป สามารถเข้าไปซื้อเพื่อลงทุนได้) เมื่อใบรับรองนี้ผ่านเลยทำให้เกิดการกว้านซื้อ Bitcoin จากกองทุนต่างๆทันที จนทำให้ราคา Bitcoin เกิด All-Time High เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 

และนี่คือทั้งหมดจากงาน  Bitkub Meet Up 2024 ครั้งที่ 2 ตอน "The Halving Month"  มีโอกาสแฟนๆ Spotlight ไม่ควรพลาด เพราะนี้คืองานที่มากกว่าความรู้เรื่องสินทรัพย์ดิจิตอล แต่คืองานที่เป็นโอกาสของการอัปเดตเทรนด์ & แนวคิดใหม่ๆในวงการธุรกิจ