คุณวางแผนเกษียณไว้แบบไหนครับ...จะเลิกทำงานตอนอายุเท่าไหร่ และอยากใช้ชีวิตหลังจากนั้นยังไงบ้าง ไม่ว่าแผนของคุณจะเป็นยังไง ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้มันเกิดขึ้นได้ก็คือเงินใช่มั้ยครับ
วันนี้ผมเลยอยากมาบอกวิธีเบื้องต้นที่จะทำให้คุณมี Passive Income หรือมีรายได้เข้ามาแบบที่ไม่ต้องทำงานแล้ว ก็ยังเพียงพอที่จะรองรับชีวิตหลังเกษียณได้ ที่สำคัญ คุณสามารถเริ่มลงมือทำได้ตั้งแต่วันนี้ครับ
วิธีนั้นคืออะไร หากพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
แต่ก่อนจะไปถึงสิ่งที่ต้องทำ เรามาตั้งเป้าหมายกันก่อนครับ
สิ่งแรกก่อนจะเริ่มต้นกำหนดเป้าหมาย เราต้องรู้ก่อนว่าเรามีระยะเวลาอีกกี่ปีกว่าจะไปถึงวัยเกษียณที่ต้องการ และเมื่อเกษียณแล้วคุณคิดว่าเงินที่จะเข้ามาในแต่ละเดือนควรอยู่ที่เท่าไร โดยสรุปแล้ว
สิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือ
เหล่านี้คุณต้องหาคำตอบให้ตัวเองก่อนนะครับ
แต่วันนี้ผมจะลองคิดตัวเลขคร่าวๆ เพื่อใช้เป็นตัวกำหนดเป้าหมายของแผนวันนี้ โดยสมมติว่าปัจจุบันคุณมีอายุ 30 ปี ผมว่าเป็นจังหวะชีวิตที่กำลังดี สำหรับใครหลายคนที่ยังไม่เคยคิดเรื่องเกษียณ ก็ควรวางแผนและตั้งเป้าได้แล้วครับ อย่าลืมว่าเรื่องลงทุน ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดีนะครับ
เพราะความเป็นจริงเราไม่มีทางรู้อนาคตได้เลยครับ แต่การเตรียมตัวไว้ตั้งแต่ตอนนี้ก็ทำให้อนาคตตอนเกษียณของคุณมีทางเลือกในการใช้ชีวิตมากขึ้น ในแผนนี้ผมสมมติให้ว่าคุณจะเกษียณตอนอายุ 60 ปี แล้วกันครับ ยึดตามมาตรฐานสากล ณ ปัจจุบัน และมีอายุยืนยาวไปถึง 80 ปี
สำหรัรบเป้าหมายตัวเลข Passive Income ที่คุณอยากให้เข้ามหลังเกษียณอยู่ที่เท่าไร ผมไม่รู้ แต่สำหรับแผนนี้ ผมวางไว้ที่ 30,000 บาทต่อเดือนน่าจะพอไหวนะครับ สรุปแล้ว แผนนี้จะคำนวณจากอายุปัจจุบันที่ 30 ปี จะเกษียณตอนอายุ 60 ปี และหลังจากเกษียณแล้วอยากมีเงินใช้เดือนละ 30,000 บาท ไปอีก 20 ปี
เอาล่ะครับ เริ่มคำนวนตามผมมาได้เลยครับ
30,000 บาท x 12 เดือน x 20 ปี x อัตราเงินเฟ้อ 3% (1.03 ยกกำลังด้วยอายุเกษียณลบอายุปัจจุบัน)
เท่ากับว่าคุณต้องเตรียมเงินไว้ 17,476,290 บาท*ครับ โดยมีเวลา 30 ปี (อายุเกษียณลบอายุปัจจุบัน)
อย่าเพิ่งขนลุกแบบนั้นสิครับ...จำนวนเงิน 17 ล้านกว่า อาจจะดูเป็นไปได้ยากใช่ไหมครับ แต่เชื่อผมว่ามันเป็นไปได้ครับ
เพราะวิธีที่จะทำให้คุณมีเงินไว้ใช้หลังเกษียณคือ…การลงทุนนั่นเอง และที่สำคัญกว่าการลงทุนให้ถึงเป้าหมาย คือการ DCA (Dollar Cost Averaging) แค่เพิ่มวินัย DCA เติมพลังให้พอร์ตสักหน่อย เป้าหมาย 17 ล้านก็ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ เรียกได้ว่า DCA คือคีย์เวิร์ดสำคัญของความสำเร็จทั้ง 3 แผนก็ว่าได้ เพราะวินัยในการ DCA ไม่ใช่แค่ทำให้การลงทุนของคุณดีขึ้น แต่เป็นบันไดสู่เป้าหมายอย่างแท้จริง ที่สำคัญคือการ DCA จะช่วยให้เงินงอกเงยได้โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องโลดโผนไปกับสินทรัพย์ที่เสี่ยงเกินจำเป็น นั่นเอง
อย่าลืมนะครับเรากำลังพูดถึงเงินที่จะใช้ในชีวิตหลังเกษียณ วัยที่เราไม่สามารถรับความเสี่ยงได้มากนักแล้วทีนี้คุณอาจจะค้านว่า คุณรับความเสี่ยงได้มาก ไม่ต้องกังวล
ไม่เป็นไรเลยครับ ผมจะจำลองแผนการลงทุน 3 แบบ เพื่อการเกษียณด้วยความเสี่ยงที่ไล่ระดับจากต่ำไปสูงเพื่อเป็นทางเลือกแล้วกันครับ สมมติคุณเริ่มต้นการลงทุนทั้ง 3 แผนนี้ด้วยเงินเก็บ 10,000 บาท
การลงทุนในตลาดเงิน (Money Market) เรียกว่าความเสี่ยงต่ำที่สุด ผลตอบแทนก็ต่ำที่สุดเช่นกัน ผมยกตัวอย่างผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุน Jitta Money ที่ระดับ 5.16% ต่อปี ด้วยผลตอบแทนระดับนี้ คุณต้อง DCA เดือนละ 23,180 บาท เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายใน 30 ปีข้างหน้า
ลงทุนใน ETF ที่มีส่วนผสมของหุ้นและตราสารหนี้ ความเสี่ยงสูงขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเทียบกับตลาดเงิน แต่หากคุณจัดสัดส่วนของพอร์ตให้มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีทั้งหุ้นและตราสารหนี้ ผมว่า ความเสี่ยงก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้นะครับ ผมยกตัวอย่างกองทุน Global ETF (เติบโต) ที่มผลตอบแทนที่คาดหวังระดับ 8% ต่อปี ด้วยระดับผลตอบแทนเช่นนี้ คุณต้อง DCA เดือนละ 14,015 บาท
ลงทุนธีมเมกะเทรนด์โลก หุ้นแห่งอนาคตที่มีความเสี่ยงในระดับสูงสุดจากทั้ง 3 แผนนี้ แต่ผลตอบแทนสูงสุด ผมขอยกตัวอย่างผลตอบแทนย้อนหลัง ของกองทุน Thematic Optimize ที่ระดับ 12.40% ต่อปี ด้วยผลตอบแทนที่สูงเช่นนี้ คุณสามารถใช้เงินในการ DCA ที่ต่ำลงมาเหลือเดือนละ 6,050 บาท
ทั้ง 3 แผนนี้จะทำให้คุณมี Passive Incom เข้ามาได้ที่เดือนละ 30,000 บาทต่อเดือนหลังเกษียณแต่ถ้าหากในวัยที่คุณมีอายุ 60 แล้วยังไม่จำเป็นต้องใช้เงิน เงินก้อนนี้ก็จะเติบโตเพิ่มไปเรื่อยๆ ครับ…ด้วยมหัศจรรย์ของผลตอบแทนทบต้น
คุณเห็นอะไรไหมครับ หากลงทุนด้วยสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงที่สูงกว่า คุณจะใช้เงิน DCA ที่น้อยกว่า เพราะผลตอบแทนช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่า
ถ้าปัจจุบันคุณอายุมากกว่า 30 ปีแล้ว หรืออยากได้เงินเก็บไว้ใช้หลังเกษียณมากขึ้น ก็สามารถ DCA เพิ่มขึ้นได้ครับ
หรือถ้าคุณอายุน้อยกว่า 30 ปี คุณก็จะมีเวลาให้ DCA มากขึ้น จำนวนเงิน DCA ก็อาจลดลงกว่านี้ได้ มีเวลาให้พลังแห่งผลตอบแทนทบต้นทำงานได้มากขึ้น เหมือนที่หลายๆ คนพูดครับว่า ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งได้เปรียบ
ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นตอนอายุเท่าไหร่ การ DCA จะช่วยให้คุณได้สะสมเงินต้น เสริมพลังผลตอบแทนทบต้นให้พอร์ตโตไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นครับ นาฬิกาไม่เคยหยุดเดิน เวลาที่มีก็น้อยลงเรื่อยๆ ครับ ดังนั้น เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ดีที่สุดครับ
เกษียณอย่างมีความสุขไปด้วยกันนะครับ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. จิตตะ เวลธ์ จำกัด