แนวโน้มราคาทอง มีการฟื้นตัว
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำ ได้แก่ แรงขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 2,530 ดอลลาร์ได้ และการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยดัชนี Dollar Index แตะระดับ 101.17 นอกจากนี้นักลงทุนกำลังรอคอยการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนี PCE ในวันศุกร์นี้ ขณะที่กองทุน SPDR ยังคงรักษาระดับการถือครองทองคำไว้เท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะเปิดเผยในคืนนี้ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 2 (ประมาณการครั้งที่ 2) ของสหรัฐฯ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนกรกฎาคม
วิเคราะห์ราคาทอง
การวิเคราะห์ราคาทองคำ คาดการณ์ว่าในวันนี้ราคาทองคำอาจมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 2,520-2,525 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังแรงขายบริเวณแนวต้านดังกล่าว เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคจาก MACD ได้เกิด Bearish MACD โดยสรุป ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวหลังจากการปรับฐาน อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามแนวต้านและปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำต่อไปอย่างใกล้ชิด
แนวโน้มราคาทอง สู่แนวรับ 2,500 ดอลลาร์
ราคาทองปรับตัวขึ้น +5.67ดอลลาร์ คิดเป็น (+0.22%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,517 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
แรงหนุนจากดอกเบี้ยขาลงและความตึงเครียดตะวันออกกลาง
ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐฯ และความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังการปะทะกันระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คืนนี้
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนสิงหาคม ซึ่งตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 100.9 จาก 100.3 ในเดือนกรกฎาคม
แนวโน้มราคาทองคำ
หลังจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน 2,530 ดอลลาร์ ก็เริ่มมีแรงเทขายออกมา สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นบ่งชี้ถึงการปรับตัวลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 2,500 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาทองปรับตัวขึ้น
ราคาทองปรับตัวขึ้น +27.73 ดอลลาร์ คิดเป็น (+1.11%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,512 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ปัจจัยหนุนราคาทอง
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังจากการประชุม Jackson Hole ที่ประธานเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างมาก โดย Dollar index ร่วงลงแตะ 100.69 ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน และจะปรับลดดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม นอกจากนี้ กองทุน SPDR ยังซื้อทองเพิ่ม 1.15 ตันจากสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนกรกฎาคม ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.0% จากที่ลดลง 6.7% ในเดือนมิถุนายน
วิเคราะห์แนวโน้มราคาทอง
แม้ว่าราคาทองคำในช่วงนี้จะมีความผันผวน และมีแรงเทขายออกมาเป็นระยะ แต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน โดยรวมแล้ว แรงซื้อยังคงแข็งแกร่งกว่าแรงขาย สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในระยะสั้น โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 2,520-2,530 ดอลลาร์ ซึ่งนักลงทุนควรจับตาอย่างใกล้ชิด
TBC
แนวโน้มราคาทอง ระยะสั้นฟื้นตัว แต่ให้ระวังแรงขาย
ราคาทองปรับตัวลง (-27.52) ดอลลาร์ คิดเป็น (-1.09%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,484 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
วิเคราะห์ราคาทอง
แนวโน้มราคาทอง Sideways
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
วิเคราะห์ราคาทอง
แนวโน้มราคาทอง ระวังปรับฐาน
ราคาทองปรับตัวขึ้น +9.8 ดอลลาร์ คิดเป็น +0.39%
ปิดตลาดที่ระดับ 2,513 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อทำ All-Time High ใหม่อีกครั้ง แรงหนุนจากเงินดอลลาร์อ่อนค่ามาก Dollar Index อ่อนค่าเหลือ 101.38 ปัจจัยหนุนมาจากตลาดคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 1.73 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
วันนี้ติดตามการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งที่ 4/2567 ส่วนสหรัฐคืนนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ All-Time High ใหม่ แต่รูปแบบของแท่งเทียนคล้ายกับลักษณะ Shooting star ที่เริ่มมีแรงเทขายลากลงมา ส่งสัญญาณให้ระวังการปรับฐานในระยะสั้น ทั้งนี้สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำใน Timeframe 60-240 นาที มีเส้นตัดกันลงมาจาก Modified Stochastic ซึ่งบ่งชี้การปรับตัวลงระยะสั้น
แนวโน้มราคาทอง เคลื่อนไหวกรอบแคบลง
ราคาทองปรับตัวลง (-3.04) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.12%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,503 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
วิเคราะห์ราคาทอง
แนวโน้มราคาทอง มีแรงขายบ้าง แต่ยังเป็นขาขึ้น
ราคาทองปรับตัวขึ้น +51.04ดอลลาร์ คิดเป็น (+2.07%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,506 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงทะลุ 2,500 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์ (All-Time High) จากแรงหนุนเงินดอลลาร์อ่อนค่า ทั้งนี้เงินเฟ้อ PPI และ CPI ต่ำกว่าคาด จึงเป็นแรงหนุนให้เฟดลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. รวมถึงแรงซื้อทองคำ จากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง จากความขัดแย้งที่อาจทวีความรุนแรงมากขึ้นที่อิหร่านอาจเข้าไปเกี่ยวข้อง รวมถึงสงครามในยูเครน ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 8.06 ตัน จากสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนก.ค. โดย conference Board ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.4% จากที่ลดลง 0.2% ในเดือนมิ.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
เกิดแท่งเทียนสีเขียวยาวในวันศุกร์ ซึ่งมีแรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่ง และทะลุผ่านแนวต้านที่สำคัญบริเวณ Head ของรูปแบบ Triple top ทำให้มีแนวโน้มที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ ขณะที่indicator จาก Modified Stochastic ยังไม่เกิดสัญญาณขาย (Sell signal ) อย่างไรก็ตามอาจมีแรงเทขายออกมาบ้างหลังปรับตัวขึ้นแรง
แนวโน้มราคาทองคำย่อตัวลงเล็กน้อย
แนวโน้มราคาทอง Sideways
ราคาทองปรับตัวลง (-17.5) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.70%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,447 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำผันผวน หลังจากที่ราคทองคำขึ้นไปทดสอบแตะ 2,478 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้ระดับ All-Time High แต่ราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ จึงเกิดแรงเทขายออกมา ทั้งนี้สหรัฐได้มีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.9% ต่ำกว่าตลาดคาด แต่ตลาดคาดว่าเฟดอาจจะลดดอกเบี้ยเดือนก.ย. 0.25% ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนส.ค. ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำดีดตัวขึ้นเข้าใกล้ All-Time High แล้วทำรูปแบบ Triple top ก่อนที่จะเกิดแรงเทขายออกมาอย่างรวดเร็วในช่วงกลางคืน ทั้งนี้แรงส่ง (Momentum) เริ่มลดลง อย่างไรก็คาดว่าราคาทองคำจะเริ่มเคลื่อนไหว Sideways ในระยะสั้น โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 2,430-2,465 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาทอง แรงซื้อแข็งแกร่ง
ราคาทองปรับตัวขึ้น +41.1ดอลลาร์ คิดเป็น (+1.69%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,472 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักๆมาจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งรวมถึงความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่กำลังขยายวงกว้างขึ้น และกองกำลังยูเครนได้ฝ่าแนวชายแดนของรัสเซียและรุกคืบเข้าไปในพื้นที่บางส่วนของภูมิภาคเคิร์สก์ทางตะวันตกของรัสเซีย โดยสถานการณ์ดังกล่าวยังได้ส่งผลกระทบต่อราคาเชื้อเพลิงให้ปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนการผลิตทองคำ จึงเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันราคาทองในช่วงที่ผ่านมา
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะมีการประกาศดัชนีราคาผู้ผลิต (Core PPI & PPI) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลงจากครั้งก่อนเล็กน้อย
วิเคราะห์ราคาทอง
หลังราคาทองตอบรับปัจจัยเชิงบวก แนวโน้มกลับมาอยู่ในขาขึ้นอีกครั้ง แม้ระยะสั้นจะยังติดแนวต้านที่ 2,475 $ ซึ่งประเมินว่ามีโอกาสสูงที่ราคาอาจมีการปรับฐานก่อนจะสามารถขึ้นต่อได้ โดยหากราคามีการปรับตัวลงจริงประเมินว่าแนวรับที่ 2,450-2,455 เป็นระดับที่ราคาอาจมีการฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง
แนวโน้มราคาทอง Uptrend
ราคาทองปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปิดตลาดที่ระดับ 2,431 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.99 ดอลลาร์ หรือ 0.16% จากวันก่อนหน้า
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทอง Spot ฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ หลังจากที่ปรับตัวลดลงอย่างมากในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการลดการทำธุรกรรม carry trade ในสกุลเงินเยน ในสัปดาห์นี้ราคาทองมีแนวโน้มที่จะผันผวน เนื่องจากจะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญหลายตัว
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
ไฮไลท์ของสัปดาห์นี้คือการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภค (PPI & CPI), ยอดค้าปลีก, ยอดบ้านใหม่, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
วิเคราะห์ราคาทอง
ในระยะสั้น ราคาทอง spot พบกับแนวต้านสำคัญที่ระดับ 2,431 ดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ดังนั้นอาจมีการพักฐานลงเล็กน้อยก่อนที่จะขึ้นต่อ หากราคาปรับตัวลงจริง คาดว่าแนวรับจะอยู่ที่ระดับ 2,415-2,420 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่ราคาอาจกลับตัวขึ้นอีกครั้ง
ราคาทองพุ่งทะยาน!
ราคาทองปรับตัวขึ้น +44.2 ดอลลาร์ คิดเป็น +1.85%
ปิดตลาดที่ระดับ 2,426 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองคำพุ่งทะยาน! แรงซื้อหนุนนำ ดันราคาปิดบวก 1.85% ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง +44.2 ดอลลาร์ หรือ +1.85% ปิดตลาด ณ ระดับ 2,426 ดอลลาร์ โดยมีราคาสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 2,427 ดอลลาร์ และราคาต่ำสุดอยู่ที่ 2,380 ดอลลาร์ ในขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศก็ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 40,300 บาท และราคาต่ำสุดอยู่ที่ 40,200 บาท
ภาพรวมการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรง คือ การคาดการณ์ของตลาดว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% ในการประชุมเดือนกันยายน ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของสถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่ง นอกจากนี้ ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางก็เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย รวมถึงการที่กองทุน SPDR Gold Trust เข้าซื้อทองคำเพิ่ม 2.87 ตัน ก็เป็นอีกปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งอาจทำให้ตลาดซึมลงได้บ้าง
วิเคราะห์ราคาทอง
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค พบว่าแนวโน้มราคาทองคำยังคงเป็นไปในทิศทางบวก โดยเกิดแท่งเทียนสีเขียวยาวเต็มแท่ง และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 วัน บ่งชี้แรงซื้อที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ราคาทองคำยังดีดตัวขึ้นจากบริเวณ Neckline ของรูปแบบ Double Top และทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (SMA20) ซึ่งเป็นสัญญาณบวก แนวรับแรกอยู่ที่ 2,400-2,410 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเป็นไปได้ของแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังจากราคาปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
แนวโน้มราคาทองคำ: ทรงตัว
ราคาทองคำปรับตัวลดลง 6.8 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดตลาดที่ระดับ 2,382 ดอลลาร์
ราคาทองคำตลาดโลก
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ภาพรวมความเคลื่อนไหว
ราคาทองคำลดลงต่อเนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและ Bond Yield เพิ่มขึ้น โดย Bond Yield พุ่งขึ้นหลังผลการประมูลพันธบัตรบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ และตลาดไม่กังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอล นักลงทุนรอติดตาม CPI สหรัฐสัปดาห์หน้า ขณะที่กองทุน SPDR ขายทอง 4.02 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะลดลง 8,000 รายสู่ระดับ 241,000 ราย
วิเคราะห์ราคาทอง
คาดว่าราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบ 2,367-2,412 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้บริเวณ Neckline ของรูปแบบ Double Top โดยมีแนวรับที่สำคัญที่ไม่ควรหลุดคือ 2,360-2,367 ดอลลาร์ หากหลุดอาจทำให้เกิดรูปแบบ Double Top
แนวโน้มราคาทอง แนวรับสำคัญ 2,360 เหรียญ
ราคาทองปรับตัวลง (-20.1) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.83%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,389 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวลดลง 20.1 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดตลาดที่ระดับ 2,389 ดอลลาร์ โดยมีราคาสูงสุดและต่ำสุดอยู่ที่ 2,418 และ 2,381 ดอลลาร์ตามลำดับ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศเคลื่อนไหวในกรอบ 40,300 - 40,600 บาท
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
การปรับตัวลดลงของราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และการพุ่งขึ้นของ Bond Yield สหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐหลายรายแสดงความไม่เห็นด้วยกับมุมมองที่ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกรกฎาคมของสหรัฐที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดนั้น เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม กองทุน SPDR ยังคงเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 3.16 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำ
นักวิเคราะห์มองว่า ราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงขาลง หลังจากเกิดรูปแบบ Double Top โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,360-2,366 ดอลลาร์ หากราคายังไม่หลุดจากแนวรับดังกล่าว แนวโน้มราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ แต่หากหลุดแนวรับนี้ ราคาทองคำอาจปรับตัวลงแรง และเปลี่ยนทิศทางเป็นขาลงอย่างชัดเจน
แนวโน้มราคาทอง ฟื้นตัว
ราคาทองปรับตัวลง (-32.88) ดอลลาร์ คิดเป็น (-1.34%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,409 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองคำเกิดรูปแบบ Double Top โดยปรับลงมาสู่ Neckline แต่มีแรงซื้อกลับเข้ามาบริเวณดังกล่าวและดีดตัวขึ้นปิดเหนือ 2,400 ดอลลาร์อีกครั้ง หากราคาไม่หลุดแนวรับ 2,360-2,366 ดอลลาร์ แนวโน้มราคาทองคำยังคงเป็นบวก โดยคาดว่าช่วงกลางวันนี้อาจมีการฟื้นตัวขึ้น
ราคาทองคำปรับตัวลง 32.88 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดตลาดที่ระดับ 2,409 ดอลลาร์ โดยระหว่างวันมีราคาสูงสุดที่ 2,458 ดอลลาร์ และต่ำสุดที่ 2,364 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 40,550 - 40,650 บาท
ราคาทองคำเผชิญแรงเทขายอย่างหนักในช่วงกลางคืน เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงแรง อย่างไรก็ตาม ทองคำยังคงได้รับแรงซื้อกลับ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง ประกอบกับการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย
ในคืนวันนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูลดุลการค้าเดือนมิถุนายน ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะขาดดุล 72.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 75.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพฤษภาคม