ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีค่าและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน เก็บสะสม หรือแม้แต่การนำมาทำเป็นเครื่องประดับต่างๆ แต่ทราบหรือไม่ว่า
ทองคำที่เราคุ้นเคยกันในประเทศไทยนั้น มีความแตกต่างจากทองคำที่ซื้อขายกันในตลาดโลก? และทองคำแต่ละประเภทที่วางขายในประเทศไทยมีความแตกต่างกันอย่างไร?
วิธีซื้อขายทองคำในไทยฉบับสมบูรณ์ ครบจบทั้ง ราคา, ชนิด, และวิธีคำนวณ
สำหรับท่านที่เป็นนักลงทุนทองคำหน้าใหม่ทุกๆท่านบทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของทองคำ ตั้งแต่ความแตกต่างระหว่างทองคำไทยและทองคำโลก ไปจนถึงชนิดของทองคำที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมไขข้อข้องใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างทอง 96.5% และ 99.9% รวมถึงวิธีการคำนวณราคาทองคำไทยจากราคาทองคำโลก และช่องทางการติดตามราคาทองคำโลกที่นักลงทุนยุคดิจิทัลไม่ควรพลาด
รู้หรือไม่ทองไทย ทองโลก ความต่างที่มากกว่าแค่ชื่อ
ในความเป็นจริงแล้ว ทองคำที่ซื้อขายในประเทศไทยมีความแตกต่างจากทองคำในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในเรื่องของความบริสุทธิ์
- ทองคำโลก: ทองคำที่ซื้อขายในตลาดโลกโดยทั่วไปจะมีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.99% หรือที่รู้จักกันในชื่อทอง 24K ซึ่งหมายความว่าในทองคำ 10,000 ส่วน จะมีสิ่งเจือปนไม่เกิน 1 ส่วน อย่างไรก็ตาม ทองคำที่มีความบริสุทธิ์สูงนี้มีคุณสมบัติอ่อนตัว ทำให้ยากต่อการนำมาขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับ
- ทองคำไทย: เพื่อให้ทองคำมีความแข็งแรงทนทานและง่ายต่อการขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับ จึงมีการนำทองคำ 99.99% มาผสมกับโลหะอื่นๆ เช่น ทองแดงและเงิน ส่งผลให้มาตรฐานความบริสุทธิ์ของทองคำที่ซื้อขายในประเทศไทยอยู่ที่ 96.5%
คำถามที่ตามมาคือ ทำไมประเทศไทยต้องนำเข้าทองคำ ทั้งๆ ที่มีเหมืองทองในประเทศ?
- เหมืองทองในประเทศไทย: เหมืองทองส่วนใหญ่ในประเทศไทยดำเนินการโดยบริษัทต่างชาติ
- กระบวนการหลอม: เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีโรงงานหลอมที่ได้รับรองมาตรฐานสากล ทองคำที่ขุดได้ในประเทศจึงต้องส่งไปหลอมให้มีความบริสุทธิ์ 99.99% ที่ต่างประเทศ
กล่าวโดยสรุป ทองคำไทยมุ่งเน้นการใช้งานเพื่อการผลิตเครื่องประดับ ในขณะที่ทองคำโลกมุ่งเน้นความบริสุทธิ์สูงเพื่อการลงทุน ผู้ที่สนใจซื้อขายทองคำควรให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ของทองคำเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
ทองคำกี่ชนิดที่วางขายในประเทศไทย
ในประเทศไทยมีทองคำหลายชนิดที่วางขาย โดยมีความแตกต่างกันในเรื่องของความบริสุทธิ์ของทองคำ และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ดังนี้
1. ทองคำแท่ง 96.5%
- ความบริสุทธิ์: มีทองคำบริสุทธิ์ 96.5% ส่วนที่เหลือ 3.5% เป็นโลหะอื่น ๆ เช่น เงินและทองแดง
- วัตถุประสงค์: ใช้สำหรับการลงทุนเป็นหลัก เนื่องจากมีราคาใกล้เคียงกับราคาทองคำในตลาดโลก
- ข้อดี: ซื้อขายง่าย มีสภาพคล่องสูง
- ข้อเสีย: ไม่สามารถนำมาทำเป็นเครื่องประดับได้
2. ทองรูปพรรณ 96.5%
- ความบริสุทธิ์: มีทองคำบริสุทธิ์ 96.5% ส่วนที่เหลือ 3.5% เป็นโลหะอื่น ๆ
- วัตถุประสงค์: ใช้ทำเครื่องประดับ
- ข้อดี: มีความสวยงาม ทนทาน ราคาไม่สูงมากนัก
- ข้อเสีย: อาจมีค่ากำเหน็จ (ค่าแรงในการทำทอง) เพิ่มเติมจากราคาทอง
3. ทองรูปพรรณ 90%
- ความบริสุทธิ์: มีทองคำบริสุทธิ์ 90% ส่วนที่เหลือ 10% เป็นโลหะอื่น ๆ
- วัตถุประสงค์: ใช้ทำเครื่องประดับ
- ข้อดี: มีความแข็งแรงกว่าทอง 96.5% ทำให้ทนทานต่อการสึกหรอได้ดีกว่า
- ข้อเสีย: สีจะออกเหลืองซีดกว่าทอง 96.5% ราคาขายคืนอาจต่ำกว่า
4. ทองรูปพรรณ 50% และ 40%
- ความบริสุทธิ์: มีทองคำบริสุทธิ์ 50% หรือ 40% ส่วนที่เหลือเป็นโลหะอื่น ๆ
- วัตถุประสงค์: ใช้ทำเครื่องประดับ
- ข้อดี: ราคาถูกกว่าทองที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่ามาก
- ข้อเสีย: สีจะซีดกว่าทองที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่ามาก ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
5. ทองรูปพรรณ 99.99%
- ความบริสุทธิ์: มีทองคำบริสุทธิ์ 99.99%
- วัตถุประสงค์: ใช้ทำเครื่องประดับและทองคำแท่ง
- ข้อดี: มีความบริสุทธิ์สูงมาก เหมาะสำหรับการลงทุนและสะสม
- ข้อเสีย: ราคาสูง มีความอ่อนตัวมาก ทำให้เป็นรอยง่าย ไม่เหมาะสำหรับทำเครื่องประดับที่ต้องใช้งานหนัก
สรุป การเลือกซื้อทองคำชนิดใดขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน หากต้องการลงทุน ควรเลือกทองคำแท่ง 96.5% หรือทองรูปพรรณ 99.99% หากต้องการทำเครื่องประดับ ควรเลือกทองรูปพรรณที่มีความบริสุทธิ์เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการใช้งาน
คนไทยนิยมซื้อทองชนิดไหนมากที่สุด
ทองคำที่คนไทยนิยมซื้อมากที่สุดน่าจะเป็น ทองรูปพรรณ 96.5% ด้วยเหตุผลหลายประการดังนี้
- วัตถุประสงค์หลักในการซื้อทองคำของคนไทย: คนไทยส่วนใหญ่มักซื้อทองคำเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับ และทองรูปพรรณ 96.5% ตอบโจทย์นี้ได้อย่างลงตัว
- ความสวยงามและทนทาน: ทองรูปพรรณ 96.5% มีความสวยงามและทนทานต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน
- ราคาไม่สูงมากนัก: เมื่อเทียบกับทองคำที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่า ทองรูปพรรณ 96.5% มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า
- สามารถขายคืนได้: แม้ว่าจะมีค่ากำเหน็จเพิ่มเติมจากราคาทอง แต่ทองรูปพรรณ 96.5% ยังคงสามารถขายคืนได้ ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในทองคำควบคู่ไปกับการใช้งานเป็นเครื่องประดับ
นอกจากนี้ ทองคำแท่ง 96.5% ก็เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ต้องการลงทุนในทองคำ เนื่องจากมีราคาใกล้เคียงกับราคาทองคำในตลาดโลก และมีสภาพคล่องสูง ซื้อขายได้ง่าย
ไขข้อข้องใจ! ความต่างระหว่างทอง 96.5% กับ 99.9% ที่คุณอาจไม่เคยรู้
- ทองคำ 96.5%: ถือเป็นมาตรฐานทองคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย โดยมีทองคำบริสุทธิ์ 96.5% และส่วนผสมอื่นๆ อีก 3.5% เช่น เงินและทองแดง การผสมโลหะอื่นๆ นี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและความทนทาน ทำให้ทองคำ 96.5% เหมาะสำหรับการนำไปผลิตเป็นเครื่องประดับต่างๆ อาทิ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน และจี้ทองคำ ราคาทองคำ 96.5% ในประเทศไทยอ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ โดยมีส่วนต่างระหว่างราคารับซื้อและราคาขายออกอยู่ที่ 100 บาท
- ทองคำ 99.9%: เป็นมาตรฐานทองคำสากลที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.9% และมีส่วนผสมอื่นๆ เพียง 0.1% ทองคำ 99.9% มักซื้อขายเป็นหน่วยกิโลกรัม และมีสภาพคล่องสูงกว่าทองคำ 96.5% หมายความว่าสามารถซื้อขายได้ง่ายและรวดเร็วกว่า อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำ 99.9% อาจมีความผันผวนน้อยกว่าทองคำ 96.5%
สรุปได้ว่า ทองคำ 96.5% เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อทองคำเพื่อนำไปผลิตเป็นเครื่องประดับ ในขณะที่ทองคำ 99.9% เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำที่มีสภาพคล่องสูงและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล การเลือกซื้อทองคำประเภทใดจึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานและระดับความเสี่ยงที่ผู้ซื้อยอมรับได้
วิธีคำนวณราคาทองโลกเป็นราคาทองไทย
ก่อนจะลงมือคำนวณ มาทำความเข้าใจกับตัวเลขสำคัญในสูตรกันก่อน
- 32.148: น้ำหนักทองคำ 1 กิโลกรัม เมื่อเทียบเป็นออนซ์ (ทองคำต่างประเทศมีความบริสุทธิ์ 99.99%)
- 0.965: เปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ของทองคำในประเทศไทย
- 65.6: น้ำหนักทองคำ 96.5% จำนวน 1 กิโลกรัม เมื่อเทียบเป็นน้ำหนัก 1 บาท
เมื่อเข้าใจความหมายของตัวเลขเหล่านี้แล้ว มาดูสูตรคำนวณกันเลย
สูตรคำนวณราคาทองไทย
ราคาทองไทย = (Gold Spot + 2) x 32.148 x ค่าเงินบาท x (0.965 / 65.6)
- Gold Spot: ราคาทองคำโลก ณ เวลาปัจจุบัน (หน่วยเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์)
- + 2: ส่วนต่างราคาที่บวกเพิ่มเข้าไป เพื่อสะท้อนต้นทุนการนำเข้าและค่าดำเนินการอื่นๆ
- ค่าเงินบาท: อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ณ เวลาปัจจุบัน
ทำไมต้องมีการคำนวณ?
เนื่องจากทองคำที่ซื้อขายในประเทศไทยมีระดับความบริสุทธิ์ 96.5% ซึ่งแตกต่างจากทองคำในตลาดโลกที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% การคำนวณนี้จึงเป็นการแปลงราคาทองคำโลกให้สอดคล้องกับราคาทองคำไทย โดยพิจารณาจากความแตกต่างของความบริสุทธิ์และต้นทุนที่เกี่ยวข้อง
- ส่งที่ควรรู้ : ราคาทองคำโลกและอัตราแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น ราคาทองคำไทยที่คำนวณได้จะเป็นราคา ณ เวลานั้นๆ นอกจากนี้ สูตรนี้อาจมีความแตกต่างเล็กน้อยขึ้นอยู่กับแหล่งข้อมูลและวิธีการคำนวณที่ใช้
3 ช่องทางติดตามราคาทองคำ ฉบับนักลงทุนยุคดิจิทัล
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนทองคำมือใหม่หรือมือเก๋า การติดตามราคาทองคำโลกอย่างใกล้ชิดถือเป็นหัวใจสำคัญ วันนี้เราจะพาคุณไปสำรวจ 3 ช่องทางหลักที่คุณสามารถเช็กราคาทองคำโลกได้แบบเรียลไทม์
- สอบถามราคาทองคำ ณ ร้านทอง : วิธีคลาสสิกที่ยังคงได้รับความนิยม นอกจากจะได้ทราบราคาทองคำปัจจุบันแล้ว คุณยังสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนในทองคำกับผู้เชี่ยวชาญได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจเหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ร้านทอง หรือสะดวกเดินทางไปสอบถามด้วยตนเอง
- เช็กราคาผ่านแอปพลิเคชัน :ในยุคดิจิทัลนี้ มีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยให้คุณเช็กราคาทองคำได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส แนะนำให้เลือกแอปที่สามารถเช็กได้ทั้งราคาทองคำแท่งและทองรูปพรรณ มีการอัปเดตราคาแบบเรียลไทม์ และมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น แอปของร้านทองชั้นนำ หรือแอปที่พัฒนาโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกับวงการทองโดยตรง เช่น GOLD MAX, HUASENGHENG, หรือ AUSIRIS GOLD INVESTMENT เป็นต้น
- ตรวจสอบราคาจากเว็บไซต์สมาคมค้าทองคำ : เว็บไซต์ของสมาคมค้าทองคำ (https://www.goldtraders.or.th/) เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเป็นทางการ โดยสมาคมฯ จะประกาศราคาทองคำครั้งแรกของวันประมาณ 9.20 - 9.40 น. นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังมีข่าวสารและความรู้เกี่ยวกับการซื้อขายทองคำให้อัปเดตอยู่เสมอ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก ไม่ว่าคุณจะเลือกช่องทางใด อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล และหมั่นติดตามราคาทองคำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสในการลงทุนที่ดีที่สุด!
สรุป
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความน่าสนใจและซับซ้อนกว่าที่หลายคนคิด ไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามที่เปล่งประกาย แต่ยังมีเรื่องของความบริสุทธิ์, ชนิด, ราคา, และวิธีการซื้อขายที่แตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจโลกของทองคำได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนที่ต้องการแสวงหาผลกำไร หรือผู้ที่หลงใหลในความงามของทองคำรูปพรรณ การมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อขายทองคำได้อย่างมั่นใจและชาญฉลาด
จำไว้ว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน และอย่าลืมติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสในการลงทุนที่ดีที่สุด!
อ้างอิงจาก goldtraders,chinhuaheng,goldmax,aurora และ huasengheng