ทองแท่ง รับซื้อ 42,450.00 (บาท) ขายออก 42,550.00 (บาท)
ทองรูปพรรณ รับซื้อ 41,690.00 (บาท) ขายออก 43,050.00 (บาท)
Gold Spot 2,563.50
แนวโน้มราคาทอง ปรับลงสู่ 2,550 $
ราคาทองปรับตัวลง (-25.45) ดอลลาร์ คิดเป็น (-0.97%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,572 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,618 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,572 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 42,950 บาท
ต่ำสุด – 42,850 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวน โดยช่วงกลางวันราคาทองคำมีการฟื้นตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน 2,620 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเกิดแรงเทขายออกมา และปิดตลาดที่จุดต่ำสุดของวัน ซึ่งราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 2.6% เท่ากับตลาดคาด แต่เร่งสูงขึ้น ตลาดให้น้ำหนักมากขึ้นถึง 82.8% ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. จากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 58.7% ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 2.01 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% จากที่เพิ่มขึ้น 0.0% และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3,000 รายสู่ระดับ 224,000 ราย
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำได้มีการฟื้นตัวขึ้น แต่ก็ไม่สามารถผ่านบริเวณแนวต้าน 2,610-2,620 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ จึงเกิดแรงเทขายออกมาบริเวณดังกล่าว ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงแรง คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงได้ต่อ และมีโอกาสไปสู่แนวรับ 2,540-2,550 ดอลลาร์
ทองแท่ง รับซื้อ 43,000.00 (บาท) ขายออก 43,100.00 (บาท)
ทองรูปพรรณ รับซื้อ 42,220.60 (บาท) ขายออก 43,600.00 (บาท)
Gold Spot 2,624.00
แนวโน้มราคาทองระยะสั้นยังมีแนวโน้มลง
ราคาทองปรับตัวลง (-65.07) ดอลลาร์ คิดเป็น (-2.42%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,618ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,686 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,618 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 43,450 บาท
ต่ำสุด – 43,350 บาท
ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลง ขณะที่กองทุน SPDR ยังคงมีแนวโน้มลดการถือครองจากสัปดาห์ก่อน โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ราคาทองปรับตัวลงในรอบนี้เกิดจากแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการที่นักลงทุนกังวลว่าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลต่อนโยบายการเงินของ Fed โดยล่าสุดตลาดคาดว่ามีโอกาสเพียง 66% ในการปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งปรับตัวลงจากช่วงก่อนที่ ทรัมป์ จะคว้าชัยในการเลือกตั้งในช่วงสัปดาห์ก่อน
คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่ติดตามการแถลงของประธานเฟดสาขาริชมอนด์
คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อในระยะสั้น หลังจากที่หลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 2,643 $ ลงมา แต่ประเมินว่ามีโอกาสที่ราคาทองโลกอาจฟื้นตัวจากแนวรับสำคัญที่ 2,600 $ ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยาด้วย
ทองแท่ง รับซื้อ 43,900.00 (บาท) ขายออก 44,000.00 (บาท)
ทองรูปพรรณ รับซื้อ 43,115.04 (บาท) ขายออก 44,500.00 (บาท)
Gold Spot 2,750.50
แนวโน้มราคาทอง เกิดสัญญาณขาย
ราคาทองปรับตัวลง (-40.86) ดอลลาร์ คิดเป็น (-1.46%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,745 ดอลลาร์
Gold spot
สูงสุด – 2,789 ดอลลาร์
ต่ำสุด – 2,731 ดอลลาร์
ราคาทองคำแท่ง
สูงสุด – 44,550 บาท
ต่ำสุด – 44,350 บาท
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวลงแรง หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All-time high โดยสหรัฐได้มีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงเหลือ 216,000 ราย ต่ำกว่าตลาดคาด ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตลาดคาด ส่วนกองทุน SPDR ขายทองคำ 0.86 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 108,000 ตำแหน่งจากที่เพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้สหรัฐจะเปิดเผยอัตราการว่างงานเดือนต.ค. ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนต.ค. และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค.โดย ISM
วิเคราะห์ราคาทอง
มีแรงเทขายออกมามาก และสัญญาณเทคนิคจาก MACD เกิด Bearish MACD รวมถึงเกิด Sell Signal จาก Modified Stochastic ซึ่งบ่งชี้เกิดสัญญาณขาย โดยราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงระยะสั้น ทั้งนี้ราคาทองคำมีแนวรับ 2,730 ดอลลาร์