สำนักข่าว BBC รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศนโยบาย "ยุติการใช้หลอดกระดาษ" โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที และสั่งให้ชาวอเมริกันใช้หลอดพลาสติกแทน
หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์เคยออกมาบอกว่า หลอดกระดาษใช้งานไม่ได้ แถมยังเปื่อยยุ่ยในปากของผู้บริโภค เป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง พร้อมยกตัวอย่างสิ่งที่เขาเคยประสบมาอย่างเช่น “เรากำลังจะกลับไปสู่หลอดพลาสติกอีกครั้ง ผมเคยเจอมาหลายครั้งแล้ว ที่หลอดกระดาษมันพังหรือมันระเบิด โดยเฉพาะถ้าดื่มอะไรร้อนๆ มันจะอยู่ไม่ได้นาน ประมาณไม่กี่นาที บางครั้งก็ไม่กี่วินาที มันเป็นสถานการณ์ที่ไร้สาระอย่างมาก”
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวอ้างการใช้หลอดกระดาษอาจส่งผลต่อสุขภาพ และต้นทุนการผลิตที่แสนแพง "หลอดกระดาษมันไม่สามารถใช้งานได้จริง มันมีสารเคมีที่อาจสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องของต้นทุนการผลิตที่ค่อนค้างแพงกว่าหลอดพลาสติก รวมทั้งบ่อยครั้งที่ผู้ใช้ต้องใช้หลอดมากกว่าหนึ่งอัน"
คำสั่งนี้ถือเป็นการยกเลิกมาตรการที่ลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเคยเรียกมลพิษจากพลาสติกว่าเป็นวิกฤต และจะพยายามยกเลิกแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น การใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวจากบรรจุภัณฑ์อาหาร การดำเนินงาน และกิจกรรมต่างๆ ภายในปี 2570 และจากการดำเนินงานของรัฐบาลกลางทั้งหมดภายในปี 2578
อย่างไรก็ตาม BBC ยังได้ระบุว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงหลอดกระดาษ เพราะตอนที่เขาหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2563 เขาเคยขายหลอดพลาสติกยี่ห้อ “ทรัมป์” ในราคา 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 510 บาท) ต่อแพ็ค 10 ชิ้นมาแล้ว เพื่อทดแทนหลอดกระดาษที่เขาเรียกว่า "หลอดเสรีนิยม"
นอกจากนี้ BBC ยังได้เปิดเผยสถิติอย่างน่าตกใจว่า
อย่างไรก็ตาม การศึกษาบางกรณีแสดงให้เห็นว่าหลอดกระดาษมี "สารเคมีอันตราย" เช่น สารโพลีฟลูออโรอัลคิลหรือ PFAS อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายทศวรรษ ปนเปื้อนแหล่งน้ำ และก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพมากมาย
อ้างอิง : BBC