ธุรกิจการตลาด

AIS จับมือ Oracle ทุ่ม 8,000 ล้าน เปิดไฮเปอร์สเกล คลาวด์ แห่งแรกในไทย

1 ส.ค. 67
AIS จับมือ Oracle ทุ่ม 8,000 ล้าน เปิดไฮเปอร์สเกล คลาวด์ แห่งแรกในไทย
ไฮไลท์ Highlight

ในยุคที่ ‘ดิจิทัล’ คือ หัวใจสำคัญในการใช้ชีวิต ที่เพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพจากการใช้งาน ‘คลาวด์’ จึงกลายเป็นเทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน ที่ช่วยผลักดันให้กลุ่มผู้ใช้งานระดับองค์กร และระดับประเทศสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ที่มีทั้ง AI การวิเคราะห์ข้อมูล กระบวนการอัตโนมัติของหุ่นยนต์ และ IoT

‘AIS’ จึงประกาศความร่วมมือกับ ‘Oracle Alloy’ ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลก เปิดตัว ‘AIS Cloud’ บริการคลาวลด์ระดับ Hyperscale Cloud ที่แรกและแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่ ‘ไทย’ จะเป็นเจ้าของ Hyperscale Cloud ที่ใช้ภายในประเทศ ด้วยมูลค่าการลงทุนมูลค่าขั้นต่ำ 8,000 ล้านบาท และอาจสูงถึง 10,000 หมื่นล้านบาท

โดย AIS Cloud จะเปิดพร้อมให้บริการในไตรมาสที่ 1/2568 สำหรับองค์กรทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ สามารถเข้าถึงบริการคลาวด์ของ Oracle (OCI) ที่มีมากกว่า 100 บริการ รวมถึง ความสามารถด้าน AI ซึ่งจะตอบโจทย์ ดังนี้ : 

  1. เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย: โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและแอปพลิเคชันที่ทำงานบนคลาวด์ จะสามารถทำให้ไทยสามารถก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลแข่งในระดับโลกได้ ผ่านบริการ Hyperscale Cloud
  2. การทรานสฟอร์มด้านดิจิทัลและแรงงาน: มีการถ่ายทอดความรู้ในระดับมหาวิทยาลัยเพื่อให้แรงงานมีทักษะ และพร้อมทราสฟอร์มด้วย 
  3. ที่อยู่ของข้อมูล: ข้อมูลภายใต้ Hyperscale Cloud ทั้งหมดจะอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นความลับ ซึ่งมีการปรับแต่งให้สอดคล้องกับกฎหมายในประเทศไทยด้วย

ทั้งสามประการนี้ สอดคล้องกับการทำดิจิทัลทรานสฟอร์เมชัน ด้วยระบบ และบริการ Sovereign Cloud ที่มีความปลอดภัย และการปกป้องข้อมูลตามข้อกำหนดด้านการจัดเก็บข้อมูลของประเทศไทย รวมถึงความพร้อมในการทำระบบสำรองและกู้คืนข้อมูล ในกรณีที่ระบบหลักเกิดความเสียหาย เพื่อให้ใช้ข้อมูลที่สำรองไว้มาทำงานต่อได้ทันที

การเป็นผู้นำด้านเครือข่ายของ AIS

กว่า 34 ที่ AIS เปิดให้บริการมา บริษัทได้มุ่งพัฒนาโครงสร้างด้านดิจิทัลเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกับกลุ่มผู้บริโภคและลูกค้าองค์กร ผ่านการพัฒนาและเปิดตัวบริการดิจิทัลทั้งหลาย ที่ช่วยส่งเสริมชีวิตของคนไทยให้เข้าใกล้โลกดิจิทัลมากขึ้น นับตั้งแต่ปี 2016 ที่มีการเปิดตัว ‘AIS Business Cloud’ และ ‘โซลูชั่นด้านไอที’ รวมทั้งในปี 2020 ที่ชนะการประมูลเครือข่าย 5G

ในขณะเดียวกัน ทางรัฐบาลได้เน้นย้ำถึงการก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างจริงจัง AIS จึงนำศักยภาพโครงข่ายของบริษัท ร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย ให้สามารถทำดิจิทัลทรานสฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับขีดความสามารถในสร้างการเติบโต ที่จะนำไปสู่การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับประเทศได้อย่างยั่งยืน

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า ตามรายงานของ GlobalData กลุ่มธุรกิจในตลาดไอซีทีองค์กรไทยที่จะมีการเติบโตมากที่สุด คือ กลุ่มคลาวด์ โดยตั้งแต่ปี 2022-2027 คาดว่าจะมีการเติบโตสูงถึงปีละ 23% และในขณะเดียวกัน กลุ่มลูกค้าที่ AIS ให้ความสำคัญในตอนนี้ คือ ลูกค้าระดับองค์กร ที่ปัจจุบัน AIS มีลูกค้าระดับองค์กรกว่า 75% ของประเทศ 

ปัจจุบัน เทคโนโลยีคลาวด์ เข้ามามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการรองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขององค์กร AIS จึงทำงานร่วมกับ Oracle ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ระดับโลก เพื่อให้ประเทศไทยมีบริการระดับ Hyperscale Cloud เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกผ่านบริการ AIS Cloud บน AIS Data Center 

โดยบริการ AIS Cloud ช่วยให้การทำดิจิทัลทรานสฟอร์มเมชันมีประสิทธิภาพทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และเปลี่ยนแปลงการทำงานขององค์กรดังกล่าวให้มีศักยภาพพร้อมรับมือทุกโอกาส ความท้าทาย และการแข่งขัน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขัน ดึงดูดนักลงทุน และติดสปีดเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยให้มีแรงขับเคลื่อนเพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน

Oracle เล็งเห็นถึงศักยภาพของไทย

Oracle ดำเนินการในประเทศไทยมานานกว่า 30 ปี เนื่องจากไทยเป็นตลาดสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ รวมทั้งมีทรัพยากรจำนวนมาก บริษัทจึงต้องการปฏิวัติประเทศไทยให้สามารถแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัลได้ โดยเฉพาะกับบริการคลาวด์ภายในประเทศ ให้มีความมั่นคงและเสถียรภาพสูงภายใต้ขอบเขตข้อบังคับทางกฎหมายของประเทศ เพื่อตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยของข้อมูล

นายการ์เร็ตต์ อิลจ์ รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ของ Oracle กล่าวว่า ความร่วมมือ Oracle Alloy กับ AIS จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมของประเทศ ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ AIS กลายเป็นผู้ให้บริการ Hyperscale Cloud สามารถพัฒนาบริการใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น

พร้อมทั้งยังนำเสนอ Sovereign Cloud และความสามารถด้าน AI ให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศ ภายข้อกำหนดด้านกฎหมายด้านมาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลที่แตกต่างกัน ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ AIS สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ด้วยประสบการณ์ของ AIS ที่เป็นผู้นำด้านบริการดิจิทัลในไทยซึ่งมีความเชี่ยวชาญในตลาดภายในประเทศ ทำให้ AIS สามารถส่งมอบบริการที่เหมาะสมต่อลูกค้าแต่ละรายที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า

ด้าน นางสาวแดฟนี่ ชุง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยบริการคลาวด์และซอฟต์แวร์ IDC เอเชีย/แปซิฟิก กล่าวว่า IDC คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้าน Sovereign Cloud จะเพิ่มขึ้นปีละ 31.5% ต่อปี สำหรับกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิค (ไม่รวมญี่ปุ่น) จากการสำรวจด้านคลาวด์ในพื้นที่ พบว่า 19% ขององค์กรคาดการณ์ว่า การใช้จ่ายสำหรับ Sovereign Cloud จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์คลาวด์แบบผสมผสาน (Hybrid Cloud) ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยหน่วยงานกำกับดูแลและกฎระเบียบ รวมทั้งความต้องการที่จะทำให้กระบวนการทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT