เจ้าหน้าที่ข่าวกรองทหารยูเครนเปิดเผยว่า การปรากฏตัวของทหารเกาหลีเหนือที่ไปสู้รบร่วมกับกองทัพรัสเซีย เพื่อต่อต้านยูเครน ในภูมิภาคเคิร์สค์ของรัสเซีย ยังไม่ได้มีผลสำคัญใดๆต่อแนวทางของสงคราม
โดยเยฟเกน เยริน โฆษกหน่วยข่าวกรองทหารยูเครน (GUR) กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า การมีส่วนร่วมของทหารเกาหลีเหนือไม่ได้สร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานการณ์ เนื่องจากมีกำลังพลไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม พวกเขากำลังเรียนรู้ และยูเครนจะประเมินศัตรูต่ำเกินไปไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่ยูเครนเริ่มสังเกตเห็นคือ ทหารเกาหลีเหนือเริ่มปรับตัวได้แล้ว ซึ่งการปรับตัวและการเรียนรู้ของฝ่ายตรงข้ามนี่เอง ที่ทำให้ยูเครนยังคงต้องเฝ้าระวังและเตรียมรับมืออย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเปิดเผยว่า มีทหารเกาหลีเหนือกว่า 3,000 นายเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในภูมิภาคเคิร์สค์ของรัสเซีย พร้อมเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจส่งกำลังพลและอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนกองทัพรัสเซีย เขายังวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำโลกที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอเพื่อต่อต้านความร่วมมือทางการทหารระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ
ตัวเลขที่เซเลนสกีระบุเกี่ยวกับความสูญเสียของเกาหลีเหนือ สูงกว่าที่เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของเกาหลีใต้รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า มีทหารเกาหลีเหนืออย่างน้อย 1,100 นายเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ
ส่วนจากการประเมินของยูเครนและพันธมิตรพบว่า เกาหลีเหนือน่าจะส่งทหารประมาณ 12,000 นายไปยังรัสเซีย เพื่อช่วยรบ โดยสหรัฐอเมริกา ยูเครน และเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ทหารเกาหลีเหนือเริ่มเดินทางไปยังรัสเซียเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
บทวิเคราะห์ที่ได้รับการเผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายนโดยมูลนิธิเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ชี้ว่า การที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปร่วมรบ อาจจะทำให้ได้รับค่าตอบแทนจากรัสเซีย เป็นอาหาร น้ำมัน และเงิน โดยสถานีโทรทัศน์ BBC รายงานว่า หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ประเมินว่ารัสเซียจ่ายเงินให้เกาหลีเหนือประมาณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทหารหนึ่งนายในแต่ละเดือน
เอ็ดเวิร์ด ฮาวเวลล์ อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีราห์ว่า สำหรับรัสเซีย การเปิดรับทหารเกาหลีเหนือเข้าร่วมในสงครามยูเครนนั้น สะท้อนให้เห็นว่ารัสเซียต้องการกำลังคนอย่างมาก
แม้ว่ารัสเซียยังไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธเรื่องการมีส่วนร่วมของทหารเกาหลีเหนือในแนวหน้าของสงคราม แต่เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือคนหนึ่งกล่าวว่า การส่งกำลังพลลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมาย