กองทัพกะเหรี่ยงประชาธิปไตยผู้มีใจเมตตา หรือ DKBA ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 ก.พ.) แจ้งเตือนให้ชาวจีนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับแก๊งสแกมเมอร์ ขบวนการหลอกลวงออนไลน์ กาสิโน และอุตสาหกรรมอาหาร ออกจากเมืองพญาตองซู ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายแดนเมียนมา-ไทย ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
กองบัญชาการปฏิบัติการที่ 2 ของ DKBA ระบุว่า ทางกลุ่มต้องการป้องกันไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาตั้งรกรากในพื้นที่ และเตือนว่าจะมีบทลงโทษที่รุนแรงหากใครเพิกเฉยต่อคำสั่งดังกล่าว
คำเตือนดังกล่าวนี้มีขึ้น ขณะที่รัฐบาลจีนเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลทหารเมียนมาและรัฐบาลไทย ให้เร่งปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ที่ก่อเหตุฉ้อโกงประชาชนแนวชายแดน และพุ่งเป้าไปที่คนจีนด้วยกัน
กองทัพกะเหรี่ยงประชาธิปไตยผู้มีใจเมตตา (DKBA) เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) มีฐานปฏิบัติการหลักในรัฐกะเหรี่ยง และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านโสนซีเมี่ยง อำเภอเมียวดี แต่บางกลุ่มก็แยกตัวออกไปต่อต้านรัฐบาลทหารตั้งแต่เกิด รัฐประหารในปี 2021
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ DKBA มีเป้าหมายเพื่อสร้างความไว้วางใจกับรัฐบาลไทยอีกครั้ง และต้องการเข้าถึงแหล่งพลังงาน เช่น ไฟฟ้าและเชื้อเพลิง ที่มาจากจังหวัดกาญจนบุรี
ทั้งนี้ ตั้งแต่กลางปี 2023 เป็นต้นมา DKBA เข้ามาบริหารปกครองและดูแลความมั่นคงส่วนใหญ่ของเมืองพญาตองซู ขณะที่กองกำลังรัฐบาลทหารเมียนมาส่วนใหญ่ถูกจำกัดให้อยู่แต่ในฐานที่มั่นของตน โดยเมืองพญาตองซูตั้งอยู่ในหุบเขาใกล้กับบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ของไทย
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว แก๊งหลอกลวงออนไลน์ได้ย้ายฐานปฏิบัติการจากศูนย์กลางเดิมในเขตชเวโก๊กโก่ เมืองเมียวดี ไปยังเมืองพญาตองซู และอีกหลายเมืองใกล้เคียง แต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ตัดการจ่ายไฟฟ้า เชื้อเพลิง และอินเทอร์เน็ตไปยังพื้นที่ชายแดน 5 แห่ง รวมถึงเมืองเมียวดี ท่าขี้เหล็ก และพญาตองซู ซึ่งล้วนเป็นแหล่งปฏิบัติการหลักของแก๊งสแกมเมอร์ ส่งผลให้ราคาน้ำมันในเมืองชายแดนพุ่งสูงขึ้น ประชาชนต้องต่อแถวยาวที่ปั๊มน้ำมันเพื่อเติมเชื้อเพลิง
ในแถลงการณ์อีกฉบับเมื่อวันอาทิตย์ DKBA แจ้งต่อประชาชนว่า ทางกลุ่มจะดำเนินการช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูการเข้าถึงไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และเชื้อเพลิงโดยDKBA เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความไว้วางใจกับรัฐบาลไทย ด้วยการพิสูจน์ให้เห็นว่าเมืองพญาตองซูไม่มีขบวนการต้มตุ๋นออนไลน์