ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งบริหาร กำหนดภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมทั้งหมดในอัตรา 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคมเป็นต้นไป โดยระบุว่าจะไม่มีประเทศใดได้รับการยกเว้นจากภาษีดังกล่าว แต่ทรัมป์อาจจะพิจารณายกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของออสเตรเลียหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซีของออสเตรเลีย เนื่องจากออสเตรเลียขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ
ทรัมป์ยังเปิดเผยว่าเขากำลังพิจารณากำหนดภาษีนำเข้ารถยนต์ ชิป และเวชภัณฑ์ และจะประกาศแผนภาษีตอบโต้ภายในอีกสองวัน ทั้งนี้ มาตรการภาษีรอบใหม่ของทรัมป์จะเป็นการยกเลิกโควต้าการนำเข้าแบบปลอดภาษี สำหรับซัพพลายเออร์เหล็กรายใหญ่ของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น แคนาดา เม็กซิโก และบราซิล ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ทรัมป์เคยเจรจาไว้ในสมัยดำรงตำแหน่งครั้งแรก
หากคำสั่งของทรัมป์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนถึงขั้นบังคับใช้จริงในต้นเดือนมีนาคม จะทำให้อัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เฉลี่ยเพิ่มเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1940 แน่นอนว่าฝ่ายที่ได้รับผลประโยชน์เต็ม ๆ ก็คือรัฐบาลสหรัฐฯ โดย เจฟฟ์ เฟอร์รี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์กิตติมศักดิ์ของกลุ่ม Coalition for A Prosperous America มองว่า รายได้จากภาษีที่เพิ่มมากขึ้นจะช่วยฟื้นฟูและสร้างอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯ ขึ้นมาใหม่ได้
เขามองว่า สหรัฐฯ กำลังขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาล ในปี 2024 ประมาณ1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่า ประเทศที่ทำการค้ากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะประเทศที่มีการค้าเกินดุล ได้ประโยชน์จากสหรัฐฯ มาโดยตลอด ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้เกม เขาเห็นด้วยกับทรัมป์ใช้การขึ้นภาษีเป็นเครื่องมือในการเจรจา แก้ปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายและการลักลอบค้ายาเสพติด
สำหรับประเทศที่เจ็บหนักจากมาตรการนี้ คือประเทศที่ส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมให้สหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก ซัพพลายเออร์เหล็กรายใหญ่ 5 อันดับแรกของตลาดอเมริกาในเดือนมกราคม ได้แก่ แคนาดา รองลงมาคือบราซิล เม็กซิโก เกาหลีใต้ และเยอรมนี แคนาดายังเป็นผู้นำในการส่งออกอะลูมิเนียมไปยังสหรัฐอเมริกา ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รัสเซีย และจีนตามมาห่าง ๆ
ประมาณหนึ่งในสี่ของ เหล็กกล้าทั้งหมดที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาเป็นเหล็กกล้าที่นำเข้า โดยส่วนใหญ่มาจากเม็กซิโกและแคนาดา หรือจากประเทศพันธมิตรใกล้ชิดในเอเชียและยุโรป เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนี ขณะที่สหรัฐอเมริกาพึ่งพาการนำเข้าอะลูมิเนียมมากกว่า โดยอะลูมิเนียมที่ใช้ประมาณครึ่งหนึ่งมาจากการนำเข้าทั้งหมด อะลูมิเนียมที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่มาจากแคนาดา ซึ่งส่งออกอะลูมิเนียมไปยังสหรัฐอเมริกา 3.2 ล้านตันในปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่า 9 ประเทศอื่น ๆ ถึงสองเท่า