ปักไฮไลท์วันแรกการประชุม ASEAN SUMMIT ทรัมป์พบอนุทิน-มาเนต และอื่นๆ
การประชุม ASEAN SUMMIT 2025 ซึ่งเป็นครั้งที่ 47 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จัดขึ้นเพื่อให้สมาชิกประชุมเพื่อปรึกษาหารือและกำหนดทิศทางความร่วมมือในทุกมิติของประชาคมอาเซียน ทั้งด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมร่วมกัน ธีมในปีนี้คือ “การมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึงและความยั่งยืน” (Inclusivity and Sustainability)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การประชุมครั้งนี้มีผู้นำจากพันธมิตรภาคีเข้าร่วม อาทิ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา, นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, นายกรัฐมนตรีแอนโทนี แอลบาเนซี แห่งออสเตรเลีย, นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ แห่งญี่ปุ่น, ประธานาธิบดีอี แจมยอง แห่งเกาหลีใต้, นายกรัฐมนตรีคริสโตเฟอร์ ลักซอน แห่งนิวซีแลนด์
ในการประชุมใหญ่ของภูมิภาคครั้งที่ 47 วันแรกมีหัวข้อสำคัญเกิดขึ้นดังนี้
ลงนามข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา
ความสำเร็จแรกของการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนคือ การลงนามสันติภาพระหว่างผู้นำไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล และผู้นำกัมพูชา นายฮุน มาเนต โดยมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซียอันวาร์ อิบราฮิม ร่วมเป็นสักขีพยาน
ข้อตกลงฉบับนี้เป็นข้อตกลงต่อยอดการเจรจหยุดยิงเมื่อ 3 เดือนก่อน ในครั้งนี้ผู้นำ 2 ชาติกล่าวถ้อยแถลงร่วมกัน มีสาระสำคัญดังนี้
- ยืนยันความแน่วแน่ต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างสองปรเทศตามที่ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ละเว้นการใช้กำลัง แก้ไขข้อพิพาทโดยสันติ เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ
- แสดงความยึดมั่นตามข้อตกลงในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป
- ลงนามในเอกสารขอบเขตการจัดตั้งกลไกสังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team: AOT) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงได้รับการปฏิบัติอย่างสมบูรณ์ และไทย-กัมพูชาพร้อมให้รัฐสมาชิกอาเซียนเข้ามาให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสม
- ได้ให้คำมั่นที่จะลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ดังนี้:
- ลดกำลังทหาร/อาวุธหนัก: ดำเนินการลดความตึงเครียดทางทหาร และถอนอาวุธหนัก/ทหารระดับสูงออกจากแนวชายแดน ภายใต้การตรวจสอบของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) และ AOT
- ยุติวาทกรรมสร้างความเสียหาย: เน้นการลดการเผยแพร่ข้อมูลหรือคำกล่าวหาที่สร้างความเสียหายผ่านช่องทางทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อลดความตึงเครียดในสังคม
- มาตรการสร้างความเชื่อมั่น: ตกลงดำเนินมาตรการสร้างความเชื่อมั่นอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อฟื้นฟูมิตรภาพ ความเป็นเพื่อนบ้าน และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองราชวงศ์
- การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม: ทั้งสองประเทศจะร่วมมือเพื่อเก็บกู้ทุ่นระเบิดและพัฒนาสังคมเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดน
- ยืนยันการใช้กลไกสันติ: ยืนยันการแก้ไขข้อพิพาทและการจัดทำหลักเขตแดนด้วยสันติวิธีและกฎหมายระหว่างประเทศ โดยใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ (RBC, GBC, JBC) ประสานงานกับท้องถิ่น
- สองฝ่ายยอมรับการสิ้นสุดเป็นปรปักษ์ที่ดำเนินอยู่ และไทยจะปล่อยเชลยศึกทันที
- เพิ่มความร่วมมือ แบ่งปันข้อมูล เสริมสร้างความแข็งแกร่งชายแดน เพื่อป้องกันอาชญากรข้ามชาติ
- ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติตามกฎหมายและหลักการสากล เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นไปในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีในอนาคต
- แสดงความขอบคุณต่อ ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ (สหรัฐฯ) และ นายกรัฐมนตรีอานวาร์ อิบราฮิม (มาเลเซีย) ที่เข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศ
การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของไทย นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 13 ในห้วงการประชุม ASEAN SUMMIT 2025 ย้ำความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียนต่อสหรัฐฯ ในด้านสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ทั้งยังย้ำถึงความร่วมมือ โดยเฉพาะเศรษฐกิจดิจิทัล การศึกษาและการแลกเปลี่ยนระหว่างเยาวชน ตลอดจนการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์และยาเสพติด
นายกฯ แคนาดาวิจารณ์นโยบายการค้าทรัมป์
ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนคร้งนี้ นายกรัฐมนตรีแคนาดา มาร์ก คาร์นีย์ กล่าวพาดพิงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยไม่ได้ระบุชื่อ
“เราให้ความสำคัญกับระบบที่อยู่บนพื้นฐานของกฎระเบียบ เราเคารพข้อตกลงทางการค้าและหลักนิติธรรม เราให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนสินค้า ทุน และความคิดอย่างเสรี” เขากล่าว
การกล่าวพาดพิงเกิดขึ้นหลังจากทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ากับแคนาดาเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากแคนาดาเผยแพร่โฆษณาต่อต้านการขึ้นภาษีในตลาดสหรัฐฯ
จุดยืนของคาร์นีย์คือ ต่อต้านการค้าแบบ "ธุรกรรมทวิภาคี" และการแข่งขันของมหาอำนาจ เป็นภัยคุกคามต่อสถาบันโลก และเน้นย้ำว่าแคนาดาคือหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือของอาเซียน
มอบรางวัล ASEAN Prize เยาวชนกัมพูชา
นอกจากนี้ ในงานประชุมวันแรก ยังมีการมอบรางวัล ASEAN Prize 2025 ให้แก่ สหพันธ์เยาวชนแห่งกัมพูชา (Union Youth Federations of Cambodia: UYFC)
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย และดร. เกา คิม ฮอร์น เลขาธิการอาเซียน มอบรางวัล ASEAN Prize ให้นายฮุน มานี ประธาน UYFC ซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาด้วย
รางวัล ASEAN Prize มีเป้าหมายเพื่อยกย่องบุคคลหรือองค์กรที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่โดดเด่นและมีความหมายในการส่งเสริมกระบวนการสร้างประชาคมภายในภูมิภาค มีเป้าหมายเพื่อยกย่องบุคคลหรือองค์กรที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่โดดเด่นและมีความหมายในการส่งเสริมกระบวนการสร้างประชาคมภายในภูมิภาค ผู้รับรางวัลจะได้รับถ้วยรางวัล ASEAN Prize และเงินรางวัล 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
UYFC เป็นผู้ได้รับรางวัลรายที่ 8 ของรางวัลนี้ เป็นองค์กรเยาวชนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ องค์กรได้รับการยกย่องจากการมีส่วนร่วมที่มีความหมายในการส่งเสริมความเข้าใจและความตระหนักรู้เกี่ยวกับอาเซียนให้กว้างขวางขึ้น ผ่านโครงการที่นำโดยเยาวชนและความริเริ่มด้านวัฒนธรรมที่หลากหลายทั้งในและนอกภูมิภาค
