MG ZS ทำยอดขายทั่วโลกกว่า 1.06 ล้านคัน ส่วนในประเทศไทยโกยยอดขายกว่า 63,000 คันไปแล้ว จุดเปลี่ยนที่ทำให้คนไทยได้รู้จัก MG มากขึ้น คือการบุกเบิกเปิดเซกเมนต์รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก หรือ B-SUV ที่ 10 ปีก่อนยังเป็นตลาดที่การแข่งขันไม่สูงมากนัก และมีแบรนด์เข้ามาทำตลาดเพียงไม่กี่แบรนด์ จนในปี ค.ศ. 2017 MG ส่ง MG ZS มาแจ้งเกิดในฐานะ “สมาร์ทเอสยูวี” หนึ่งเดียวของตลาดขณะนั้น ที่มีระบบปฏิบัติการอย่าง i-SMART สั่งการด้วยเสียงภาษาไทย และวางตำแหน่งให้เป็นรถเอสยูวีที่มีสเปกครบในราคาเข้าถึงได้ไม่ยาก ส่งผลให้ MG ZS ถึงขนาดกลายเป็นโมเดลที่ทำให้ MG เป็นตัวหลักในตลาดเอสยูวีของไทย และทำให้เซกเมนต์รถอเนกประสงค์ขนาดเล็กมีการเติบโตหลายเท่าตัวจในเวลาต่อมา
“ตัวถังใหญ่ กว้าง มาพร้อม i-SMART มีหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาขนาดใหญ่ ออฟชั่นที่ให้มาแบบจัดเต็ม ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย” คือบทสรุปของ MG ZS ที่เปิดตัวในประเทศไทยช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017 กับผลงานที่ทำให้ MG ZS เป็นโมเดลแจ้งเกิดของ MG และสร้างสถิติยอดขายเป็นอันดับต้น ๆ ของตลาด B-SUV ก่อนจะพาแบรนด์ MG ทะยานขึ้นอันดับ 3 ของยอดขายรวมทั้งปีในกลุ่ม B-SUV ปี ค.ศ. 2018 ด้วยยอดขายรวมสูงถึงกว่า 14,669 คัน
และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายโดยรวมโตขึ้นแบบก้าวกระโดด MG ZS ยังสามารถคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี “Car of the Year” 2 ปีซ้อน ในปี ค.ศ. 2018 – 2019 จนมาถึงในปี ค.ศ. 2020 MG ได้ขยับมาตรฐานขึ้นไปอีกขั้น ทำให้ MG ZS เป็นรุ่นแรกของ MG ที่มีระบบ Emergency Call จากตัวรถไปยังเบอร์โทรที่ได้มีการตั้งค่าไว้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีในเวลาฉุกเฉิน นอกจากนี้ ยังได้รับ การรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชน ASEAN NCAP
ระยะเวลากว่า 7 ปี MG ZS กวาดยอดขายรวมสะสมกว่า 58,623 คัน (ข้อมูล MG ZS รุ่นน้ำมันอย่างเดียว ณ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2023) ตอกย้ำความสำเร็จระดับสากลของ MG ZS ด้วยรถยนต์ที่ถูกผลิตและส่งออกกว่า 1 ล้านคัน (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2023) จาก SAIC Motor Corporation ไปยังประเทศ ต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เป็นต้น
ในปี ค.ศ. 2019 MG ได้สร้างจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ด้วยการเป็นแบรนด์แรกที่เข้ามาทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยการส่ง MG ZS EV เข้ามาเปิดตลาด และมันกลายเป็นรถที่เหมือนจุดประกายให้คนไทยเห็นว่าการใช้งานรถไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ “ง่าย” และใช้งานได้ทั่วประเทศ ส่งผลให้ MG ZS EV ขึ้นแท่น เป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมทันที โดยสามารถสร้างยอดขายหลังการเปิดตัวในปีแรกได้มากกว่า 1,000 คัน และมียอดส่งออกไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบันแล้วกว่า 156,000 คัน (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2023) ทั้งยังเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ได้พิสูจน์สมรรถนะการขับขี่บนเส้นทางต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบในประเทศไทยผ่านภารกิจ EV Marathon ตลอดระยะเวลาต่อเนื่อง 7 วัน รวมทั้งหมด 4,880 กิโลเมตร และยังได้รับรางวัลการันตีคุณภาพจากทั่วโลก อาทิ
และ MG ถือเป็นแบรนด์ที่มีเครือข่ายสถานีชาร์จไฟ เป็นของตนเองภายใต้ชื่อ MG SUPER CHARGE มากกว่า 146 แห่งอีกด้วย
นอกจากตลาดรถไฟฟ้า MG ยังคงไม่ทอดทิ้งตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือก ด้วยการเปิดตัว MG VS HEV ในปี ค.ศ. 2022 เพื่อเพิ่มไลน์อัพในกลุ่ม B-SUV ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น กับจุดเด่นของการเป็น “สปอร์ตไฮบริดเอสยูวี” ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกในกลุ่ม B-SUV ที่มี Dual Widescreen Cockpit ที่ให้จอ Widescreen ขนาด 12.3 นิ้ว ติดกัน 2 จอ กระจังหน้าในรูปแบบ Electrified Matrix Grille Design ทำให้ MG VS HEV เป็นรถยนต์ที่มีความครบเครื่องทั้งในเรื่องรูปลักษณ์และสมรรถนะเลยก็ว่าได้
ปีนี้ เอ็มจี ในฐานะโกลบอลแบรนด์จะมีอายุครบ 100 ปี รถรุ่น MG ZS ได้ถูกวางให้เป็นหนึ่งโมเดลสำคัญ ที่จะสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ เราคงต้องรอติดตามความเคลื่อนไหวเร็วๆ นี้ ว่าจะมีการเซอร์ไพรส์ใหญ่เกิดขึ้นหรือไม่?