Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เทคโนโลยีรถยนต์ใหม่! ฟีเจอร์ช่วยเหลือการขับขี่ที่คนรักและเบื่อสุดๆ

เทคโนโลยีรถยนต์ใหม่! ฟีเจอร์ช่วยเหลือการขับขี่ที่คนรักและเบื่อสุดๆ

6 มี.ค. 68
09:29 น.
|
63
แชร์

เรากำลังอยู่ในยุคที่รถยนต์ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะสำหรับการเดินทางอีกต่อไป แต่ยังเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม บางเทคโนโลยีก็ยังคงมีข้อถกเถียงในหมู่ผู้ใช้ บทความนี้จะพาคุณสำรวจเทคโนโลยีขับขี่ในรถยนต์ยุคปัจจุบันที่ได้รับความนิยมและบางส่วนที่ผู้ใช้ไม่ค่อยชื่นชอบ

ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ (ADAS - Advanced Driver Assistance Systems)

เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ที่ผู้ใช้ชื่นชอบ

1. ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ (ADAS - Advanced Driver Assistance Systems) เทคโนโลยี ADAS เป็นระบบที่ช่วยลดภาระในการขับขี่และเพิ่มความปลอดภัย โดยประกอบไปด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น

  • Adaptive Cruise Control (ACC): ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ปรับตามรถคันหน้าโดยใช้เรดาร์และเซ็นเซอร์ เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่ในการเร่งและเบรก
  • Lane Keeping Assist (LKA) ระบบช่วยให้รถอยู่ในเลนโดยใช้กล้องตรวจจับเส้นแบ่งถนน และสามารถปรับพวงมาลัยอัตโนมัติหากตรวจพบว่ารถกำลังออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ
  • Automatic Emergency Braking (AEB): ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ใช้เซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับวัตถุด้านหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงต่อการชน ระบบจะสั่งให้รถเบรกทันทีเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ

2. กล้องมองรอบคัน 360 องศา & เซ็นเซอร์ถอยจอด

  • กล้องช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นรอบตัวรถได้อย่างชัดเจน ลดจุดบอดและช่วยให้การจอดรถง่ายขึ้น โดยมีการรวมภาพจากกล้องหลายตัวมาสร้างเป็นมุมมองแบบ Bird's Eye View
  • เซ็นเซอร์จะส่งเสียงเตือนเมื่อเข้าใกล้สิ่งกีดขวาง ป้องกันการชนขณะถอยหลัง โดยบางระบบสามารถประเมินระยะห่างและแสดงผลบนหน้าจอเพื่อช่วยให้จอดได้แม่นยำขึ้น

3. Apple CarPlay & Android Auto

  • ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับระบบ Infotainment ของรถยนต์ ทำให้สามารถใช้แผนที่, ฟังเพลง และโทรศัพท์ได้สะดวกขึ้น
  • รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri และ Google Assistant ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน
  • ระบบแสดงข้อความและการแจ้งเตือนบนหน้าจอรถยนต์โดยสามารถอ่านข้อความผ่านเสียงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

4. ระบบตรวจจับจุดบอด (Blind Spot Monitoring)

  • ใช้เซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับรถในจุดอับสายตา และแจ้งเตือนผ่านไฟสัญญาณหรือเสียงหากมีรถเข้ามาใกล้ขณะเปลี่ยนเลน
  • บางระบบสามารถช่วยเบรกหรือบังคับพวงมาลัยเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการชนที่อาจเกิดขึ้น

ระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ (ADAS - Advanced Driver Assistance Systems)

5. ระบบเบรกอัตโนมัติ (Autonomous Braking System)

  • ใช้เซ็นเซอร์และ AI เพื่อตรวจจับวัตถุด้านหน้า และทำการเบรกอัตโนมัติเมื่อมีความเสี่ยงจากการชน
  • ระบบบางรุ่นสามารถตรวจจับคนเดินเท้าและจักรยานเพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุในเมือง

6. โหมดขับขี่ประหยัดพลังงาน (Eco Mode) และ EV Mode

  • โหมด Eco Mode ช่วยปรับการตอบสนองของคันเร่งและระบบปรับอากาศให้ใช้พลังงานน้อยลง
  • EV Mode สำหรับรถยนต์ไฮบริดช่วยให้สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้ 100% ในระยะทางสั้น ๆ ลดการปล่อยมลพิษ

7. ระบบสั่งงานด้วยเสียง (Voice Command System)

  • สามารถควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถ เช่น เปิด-ปิดแอร์ หรือเปลี่ยนเพลง โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย
  • รองรับคำสั่งเสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นในรถรุ่นใหม่

เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ที่บางคนไม่ชอบ

เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ที่บางคนไม่ชอบ

1. เสียงแจ้งเตือนที่มากเกินไป

  • ระบบแจ้งเตือนต่าง ๆ เช่น การคาดเข็มขัดนิรภัย หรือระบบแจ้งเตือนเข้าใกล้รถคันหน้า อาจส่งเสียงรบกวนบ่อยครั้งจนทำให้เกิดความรำคาญ
  • บางรุ่นมีระบบที่สามารถปรับลดระดับเสียงแจ้งเตือนได้ แต่หลายรุ่นเช่นกันที่แม้จะเสียงเบาสุดแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่

2. ระบบดับเครื่องอัตโนมัติ (Auto Start-Stop)

  • แม้ว่าจะช่วยประหยัดน้ำมัน แต่บางคนรู้สึกว่าการดับเครื่องและสตาร์ทใหม่บ่อย ๆ ทำให้รถกระตุกและเสียความต่อเนื่องในการขับขี่

3. หน้าจอสัมผัสที่แทนที่ปุ่มกายภาพทั้งหมด

  • ระบบสัมผัสอาจดูทันสมัย แต่การควบคุมฟังก์ชันบางอย่าง เช่น แอร์หรือวิทยุ ผ่านหน้าจอ อาจทำให้ผู้ขับขี่ต้องละสายตาจากถนนมากขึ้น

4. ระบบช่วยบังคับเลนที่บังคับเกินไป

  • ระบบ Lane Keeping Assist บางรุ่นมีความเข้มงวดมาก ทำให้บางครั้งผู้ขับขี่รู้สึกว่าถูกควบคุมมากเกินไป

เทคโนโลยีในรถยนต์สมัยใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย อย่างไรก็ตาม ความชื่นชอบหรือไม่ชอบขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่ของแต่ละคนและเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลด้วยเช่นกัน ผู้ผลิตรถยนต์จึงต้องหาจุดสมดุลระหว่างเทคโนโลยีและประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นธรรมชาติที่สุด และนั่นคือโจทย์ที่ท้าทายนักพัฒนาเป็นอย่างมาก เนื่องจากในปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ในรถยนต์กลายเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันหลักที่มีการแข่งขันด้านความล้ำหน้าของค่ายรถนั้น ๆ นั่นเอง แล้วคุณละมีระบบไหนที่ชื่นชอบ และไม่ชื่นชอบในรถคันปัจจุบันบ้าง

แชร์
เทคโนโลยีรถยนต์ใหม่! ฟีเจอร์ช่วยเหลือการขับขี่ที่คนรักและเบื่อสุดๆ