Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
อันตราย! เมื่อรถเสียบนทางด่วน ควรปฏิบัติอย่างไรให้ปลอดภัย

อันตราย! เมื่อรถเสียบนทางด่วน ควรปฏิบัติอย่างไรให้ปลอดภัย

12 มี.ค. 68
16:00 น.
|
64
แชร์

การขับรถบนทางด่วนมีข้อควรระวังหลายประการเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่และผู้ร่วมทาง ในการขับขี่บนทางด่วน สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวและการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ ที่จะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

ก่อนออกเดินทาง ควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อม ทั้งระดับน้ำมัน ยาง ระบบไฟสัญญาณ และเบรก เพื่อให้แน่ใจว่ารถพร้อมสำหรับการเดินทางไกลบนทางด่วน การตั้ง GPS หรือแผนที่ก็เป็นสิ่งที่ควรทำล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการหลงทางระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ ควรใส่เข็มขัดนิรภัยให้ครบทุกคนในรถเพื่อความปลอดภัย

ขับรถบนทางด่วน

เมื่อเริ่มขับขี่บนทางด่วน ควรปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับความเร็วที่มีการระบุไว้บนป้ายสัญญาณต่าง ๆ เช่น 90 กม./ชม. หรือ 120 กม./ชม. โดยไม่ควรขับเกินกว่าความเร็วที่กำหนด และในกรณีที่สภาพอากาศไม่ดี เช่น ฝนตกหรือหมอกลง ควรลดความเร็วลงเพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

การใช้เลนเป็นสิ่งที่ต้องระวังเช่นกัน ควรขับในเลนซ้ายเว้นแต่จะมีการแซง โดยเมื่อแซงรถคันอื่นให้ใช้เลนขวาเท่านั้น และต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยวก่อนทุกครั้งที่ต้องการเปลี่ยนเลน การรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าเป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ควรทำเพื่อให้สามารถเบรกได้ทันในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน ควรรักษาระยะห่างประมาณ 2-3 วินาทีจากรถคันหน้า

หากคุณต้องการแซงรถคันอื่น ต้องระมัดระวังในการแซง โดยไม่แซงในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น ทางโค้งหรือในช่วงที่มองไม่เห็น และควรมีการใช้ไฟเลี้ยวก่อนเสมอ การสังเกตป้ายสัญญาณต่าง ๆ บนทางด่วน เช่น ป้ายจำกัดความเร็ว หรือป้ายเตือนอันตรายก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

การขับขี่ในช่วงกลางคืนก็มีความสำคัญเช่นกัน ควรเปิดไฟหน้าให้เหมาะสมและปรับไฟสูงต่ำเมื่อจำเป็นเพื่อไม่ให้แสงไฟรบกวนผู้ขับขี่คนอื่น นอกจากนี้ต้องระมัดระวังเรื่องการขับขี่ในช่วงที่มืดเพราะการมองเห็นอาจไม่ชัดเจนเท่ากับการขับในตอนกลางวัน

การขับรถบนทางด่วนจะปลอดภัยมากขึ้นหากปฏิบัติตามข้อกำหนดต่าง ๆ และใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

สิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อรถเสียบนทางด่วน

  • ไม่ควรออกจากรถทันที การออกจากรถในขณะที่รถยังจอดอยู่บนทางด่วนเป็นสิ่งที่อันตราย โดยเฉพาะในกรณีที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูง การอยู่ในรถจะปลอดภัยกว่าหากไม่มีการอุบัติเหตุเกิดขึ้น และคุณสามารถป้องกันตัวเองจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากรถคันอื่น
  • ไม่ควรปล่อยให้รถอยู่ในตำแหน่งอันตราย หากรถเสียกลางทางด่วน ควรพยายามนำรถไปจอดในที่ที่ปลอดภัย เช่น ไหล่ทาง หรือจุดจอดที่กำหนดไว้บนทางด่วน โดยเฉพาะหากคุณต้องจอดกลางทางด่วนจริงๆ ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน (ไฟกระพริบ) และวางป้ายเตือนอันตรายให้ชัดเจน
  • ไม่ควรพยายามซ่อมแซมเองบนทางด่วน หากรถเสียบนทางด่วนและไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการพยายามซ่อมแซมเอง เนื่องจากพื้นที่บนทางด่วนมักจะมีการจราจรหนาแน่นและอาจเกิดอันตรายได้ ควรโทรหาบริการช่วยเหลือหรือเจ้าหน้าที่ที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้
  • ไม่ควรขับรถต่อไปเมื่อรถเสีย หากรถเสียและคุณรู้สึกว่าเครื่องยนต์หรือระบบของรถไม่ทำงานตามปกติ อย่าพยายามขับรถต่อไป เนื่องจากการขับรถต่อไปอาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม และอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
  • ไม่ควรหยุดรถในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถในจุดที่มองเห็นได้ยาก เช่น ในโค้งหรือบริเวณที่ไม่สามารถเห็นรถได้จากระยะไกล การจอดรถในที่ไม่ปลอดภัยอาจทำให้รถคันอื่นไม่สามารถเห็นรถของคุณได้ทันเวลา
  • ไม่ควรใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หากรถเสียและต้องการติดต่อขอความช่วยเหลือ ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เนื่องจากการใช้งานโทรศัพท์ขณะขับอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ควรจอดรถให้ปลอดภัยก่อนแล้วจึงโทรขอความช่วยเหลือ
  • ไม่ควรออกจากรถหากไม่จำเป็น หากรถเสียในช่วงเวลาที่มีการจราจรหนาแน่น หรือมีความเสี่ยงจากรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ไม่ควรออกจากรถเพื่อลงไปดูสภาพรถหรือทำสิ่งใด ๆ ที่อาจเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย

สิ่งที่ควรทำ เมื่อรถเสียบนทางด่วน

  • เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน การเปิดไฟกระพริบ (ไฟฉุกเฉิน) ช่วยเตือนผู้ขับขี่คนอื่นให้เห็นรถของคุณจากระยะไกล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชนหรืออุบัติเหตุ
  • พยายามขับรถไปยังจุดปลอดภัย หากยังสามารถขับเคลื่อนรถได้ ให้พยายามขับไปยังไหล่ทางหรือจุดจอดที่ปลอดภัย โดยห่างจากช่องทางหลักให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้รถของคุณขวางทางการจราจร
  • จอดรถให้ห่างจากช่องทางเดินรถ หากไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถไปที่อื่นได้ ให้จอดรถให้ห่างจากช่องทางเดินรถมากที่สุด และพยายามจอดให้อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจนจากผู้ขับขี่คนอื่น
  • เตรียมเครื่องหมายเตือน หากมีป้ายเตือนอันตราย ควรวางป้ายเตือนอันตรายไว้ห่างจากรถของคุณประมาณ 50 เมตร (หรือตามที่กฎหมายกำหนด) โดยเฉพาะในที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อให้รถคันอื่นเห็นได้ชัดเจน
  • หลีกเลี่ยงการออกจากรถ ควรอยู่ในรถจนกว่าจะมั่นใจว่าปลอดภัยจากการจราจรที่อาจมีความเร็วสูง หากจำเป็นต้องออกจากรถ ให้สวมเสื้อสะท้อนแสงหรือเสื้อที่มองเห็นได้ง่าย และออกจากทางด้านข้างของถนนที่ห่างจากช่องทางเดินรถ
  • โทรขอความช่วยเหลือ โทรหาศูนย์บริการช่วยเหลือฉุกเฉินของทางด่วน หรือบริษัทประกันภัยเพื่อขอให้มีการส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ หากจำเป็นให้แจ้งตำแหน่งที่แน่นอนของคุณ และลักษณะของปัญหาที่เกิดขึ้น
  • ใช้โทรศัพท์มือถืออย่างระมัดระวัง หากต้องการโทรศัพท์เพื่อขอความช่วยเหลือ ควรหยุดรถและย้ายตัวเองไปในพื้นที่ที่ปลอดภัยก่อนที่จะใช้โทรศัพท์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ
  • ถ้ารถมีการเสี่ยงเกิดไฟไหม้ หากคุณรู้สึกว่ารถมีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้หรือมีปัญหาทางเทคนิคที่อาจทำให้เกิดอันตราย ควรรีบออกจากรถและห่างจากรถให้ไกลที่สุดในที่ปลอดภัย
  • รอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง พวกเขาจะทำการตรวจสอบและช่วยขับขี่หรือเคลื่อนย้ายรถของคุณไปยังจุดที่ปลอดภัยหรือศูนย์บริการใกล้เคียง

การปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับสถานการณ์ที่รถเสียบนทางด่วนได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและช่วยให้การช่วยเหลือเป็นไปได้รวดเร็วขึ้น

แชร์
อันตราย! เมื่อรถเสียบนทางด่วน ควรปฏิบัติอย่างไรให้ปลอดภัย