เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข สนุกสนานกับการเล่นน้ำ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็เป็นช่วงที่ “รถของคุณ” ต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่โหดขึ้น ทั้งน้ำ แป้ง สี และถนนลื่น ซึ่งอาจทิ้งร่องรอยหรือปัญหาไว้โดยที่คุณไม่รู้ตัว
เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว การดูแลรถหลังลุยน้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เราขอแนะนำสิ่งที่ควรทำอย่างละเอียด ดังนี้
ล้างรถให้สะอาดโดยเร็วที่สุด
น้ำสงกรานต์อาจมีแป้ง สี หรือสารเคมีปนเปื้อน หากปล่อยไว้นานอาจทำลายชั้นสีรถ และทำให้เกิดสนิมได้ สิ่งที่ควรทำ ดังนี้
- ล้างภายนอกให้สะอาด โดยเฉพาะใต้ท้องรถ ซุ้มล้อ และบังโคลน ซึ่งเป็นจุดสะสมคราบสกปรกและโคลน
- ใช้น้ำฉีดเบาๆ ที่ส่วนที่มีระบบไฟฟ้า เช่น ฝาครอบไฟหน้า เซนเซอร์ต่างๆ
- ใช้แชมพูล้างรถชนิดอ่อนโยน และล้างแป้งออกให้หมด
- ไม่ลืมเช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะบริเวณที่มีซอกหรือช่องว่างต่างๆ
ตรวจสอบระบบเบรก
น้ำและแป้งอาจเข้าไปเกาะผ้าเบรก หรือคาลิเปอร์ ทำให้เบรกฝืด มีเสียงดัง หรือประสิทธิภาพลดลง สิ่งที่ควรทำ ดังนี้
- ขับรถช้าๆ แล้วลองเบรกเบาๆ ดูว่ารู้สึกปกติหรือไม่
- หากมีเสียงดัง ขณะเบรก หรือเบรกจม แนะนำให้ล้างเบรกหรือนำรถเข้าอู่/ศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กทันที
- สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ ให้ตรวจเช็กดรัมเบรก ผ้าเบรก และจานเบรกว่ามีสนิมขึ้นหรือไม่
ตรวจเช็กระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
การโดนน้ำ อาจทำให้น้ำซึมเข้าไปยังปลั๊กไฟ กล่องควบคุม ECU หรือฟิวส์ ทำให้ไฟติดๆ ดับๆ หรือระบบรวน สิ่งที่ควรทำ ดังนี้
- เช็กไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟถอยหลัง และไฟในห้องโดยสารให้ครบ
- เช็กปุ่มควบคุมที่ประตู กระจกไฟฟ้า ที่ปัดน้ำฝน และระบบแอร์
- ถ้าพบความผิดปกติ ควรรีบตรวจสอบและแก้ไขทันที เพื่อป้องกันความเสียหายระยะยาว
เช็กห้องโดยสารและพรม (สำหรับรถยนต์)
ถ้าน้ำซึมเข้าในรถ อาจทำให้เกิดกลิ่นอับ เชื้อรา หรือทำลายระบบไฟใต้พื้นรถได้ สิ่งที่ควรทำ ดังนี้
- ยกพรมและเบาะเช็กว่ามีน้ำขังหรือไม่
- หากพบน้ำหรือความชื้น ให้ตากแดด เปิดประตู หรือใช้พัดลมช่วยไล่ความชื้น
- ตรวจสอบใต้เบาะว่ามีเสียงซึมหรืออับชื้นหรือไม่ หากมี ควรทำความสะอาดทันที
ตรวจสอบช่วงล่าง ใต้ท้องรถ และท่อไอเสีย
น้ำที่ขังหรือซึมเข้าใต้ท้องรถอาจทำให้เกิดสนิม โดยเฉพาะหากมีน้ำผสมแป้งหรือน้ำทะเล สิ่งที่ควรทำ ดังนี้
- ล้างใต้ท้องรถด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
- สังเกตว่ามีเสียงดังหรือแรงสั่นผิดปกติขณะขับหรือไม่
- ตรวจสอบว่าท่อไอเสียมีน้ำเข้าไหม ถ้าขับแล้วมีควันขาว หรือน้ำหยดออกมาเยอะ อาจต้องให้ช่างดูเพิ่มเติม
ตรวจสอบแบตเตอรี่
น้ำหรือความชื้นอาจทำให้ขั้วแบตเตอรี่ขึ้นคราบขาว หรือเกิดการลัดวงจรได้ สิ่งที่ควรทำ ดังนี้
- เช็กขั้วแบตให้แน่น และไม่มีคราบขาวหรือสนิมเกาะ
- ถ้ามีคราบ ให้ถอดแบตออกแล้วทำความสะอาดด้วยน้ำร้อนผสมน้ำส้มสายชู หรือแปรงขนอ่อน
- ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า ถ้ารู้สึกว่าสตาร์ทยาก หรือไฟในรถอ่อน ควรพาไปให้ร้านตรวจเช็ก
สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ – ต้องหล่อลื่นโซ่และข้อต่อ
หลังโซ่โดนน้ำและแป้ง อาจแห้งและเกิดสนิม หรือมีเสียงฝืดขณะขับขี่ สิ่งที่ควรทำ ดังนี้
- ล้างโซ่ด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้ง
- ใช้น้ำยาหล่อลื่นโซ่พ่นให้ทั่วโดยเฉพาะจุดข้อต่อ
- ตรวจสอบน็อตยึดต่างๆ รอบคัน ว่ายังแน่นดีหรือมีสนิมขึ้นหรือไม่
ตรวจสอบเอกสารหรืออุปกรณ์ที่เปียกน้ำ
บ่อยครั้งผู้ขับขี่ลืมกระเป๋า เอกสารสำคัญ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าไว้ในรถ หรือใต้เบาะมอเตอร์ไซค์ ซึ่งอาจได้รับความเสียหายจากความชื้น สิ่งที่ควรทำ ดังนี้
- ตรวจสอบของภายในรถ เช่น โทรศัพท์, แบตสำรอง, กล้องติดรถ, เอกสารทะเบียน ฯลฯ
- ถ้าเปียก ให้รีบนำออกมาเช็ดให้แห้ง หรือตากแดดทันที
หากพบความผิดปกติ ควรทำอย่างไร?
- ถ้าไม่มั่นใจว่าสภาพรถพร้อมใช้งานหรือไม่ ควรนำรถเข้า ศูนย์บริการหรืออู่ที่น่าเชื่อถือ เพื่อตรวจเช็ก
- สำหรับรถใหม่ที่ยังอยู่ในประกัน ควรเช็กตามเงื่อนไขการรับประกันก่อน เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
- หากเล่นน้ำบ่อยหรือเข้าพื้นที่เล่นน้ำซ้ำ ๆ ควรตรวจเช็กละเอียดอย่างน้อย สัปดาห์ละครั้ง ในช่วงสงกรานต์
หลังจากผ่านช่วงสงกรานต์ ไม่ใช่แค่คนที่ควรฟื้นตัวจากความสนุก แต่ “รถ” ก็ต้องการการดูแลเช่นกัน การตรวจสอบและบำรุงรักษาทันทีหลังขับลุยน้ำจะช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดโอกาสเสียกลางทาง และยังช่วยให้คุณมั่นใจทุกครั้งที่ออกเดินทาง เพราะรถที่ดูแลดี คือเพื่อนร่วมทางที่ปลอดภัยที่สุด