เข้าสู่ฤดูฝน ฝนตกอยู่ทุกวัน สำหรับหน้าฝนทุกปี ผู้ที่ใช้รถทุกต้องใช้อุปกณ์อยู่ตัวหนึ่ง เมื่อเกิดฝนตกในยามขับขี่ ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้มักถูกละเลยที่จะตรวจดูว่าการทำงาน ประสิทธิภาพยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่ คือ “ใบปัดน้ำฝน” มีวิธีดูแลอย่างไร เพื่อให้หน้าฝนนี้ใช้ใบปัดน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หน้าฝนนี้ไม่นึกถึงอุปกรณ์ที่มีความจำตัวนี้ สำหรับรถยนต์ทุกคัน คือ “ใบปัดน้ำฝน” ทำหน้าที่ปัดน้ำ, ปัดเศษต่างๆ หรือแม้กระทั่งฝุ่นละอองต่างๆ ที่เกาะอยู่บนกระจกรถยนต์ หรือติดที่ไฟหน้ารถ หรือแม้แต่กระจกหลังรถยนต์ เพื่อทำความสะอาด ทัศนวิสัยการขับขี่ที่ดี
สำหรับอายุการใช้งานตามปกติของใบปัดน้ำฝนอย่างมีประสิทธิภาพจะอยู่ที่ 1 ปี แต่ส่วนใหญ่ผู้ใช้รถจะลืมเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน แม้มันจะเสื่อมสภาพแล้ว การใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ จะทำให้กระจกหน้า-หลัง หรือกระจกหน้ารถยนต์บางรุ่นเป็นรอยได้ และที่สำคัญการใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมในขณะที่ฝนตกหนัก จะทำให้มองทางไม่ค่อยเห็น ซึ่งอันตรายมาก
ถึงเวลาเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนหรือยัง ให้ดูง่ายๆ ว่าการทำงานของใบปัดน้ำฝนนั้นปัดสะอาดหรือไม่ ลักษณะของการปัดน้ำฝนไม่สะอาดเนื่องจากการใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ หรือติดตั้งผิดวิธี คือ เกิดละอองน้ำเป็นสันครึ่งวงกลมหรือแถบเส้น หลังจากที่ปัดกระจกแล้วยังมีละอองน้ำเป็นเส้นสันครึ่งวงกลม หรือเมัว เกิดจากการใช้ยางปัดเสื่อมสภาพ มีอาการแข็งจนกรอบแตก ทำให้ไม่สามารถปาดน้ำจากกระจกด้านหน้าได้สะอาด ไม่สามารถจะรีดเอาน้ำออกจากกระจกได้หมด อีกอาการคือ มีเสียงดังรบกวน ใบปัดจะมีเสียงดังเอี๊ยดๆ และมีอาการกระตุกขณะทำงานซึ่งเกิดจากการเสียดสีระหว่างใบปัดน้ำฝนกับหน้ากระจก
วิธีการดูแลใบปัดน้ำฝน แม้ว่าใบปัดน้ำฝนจะไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ ก็มีโอกาสชำรุดหรือเสื่อมสภาพได้ เช่น การจอดรถตากแดดนานๆ เป็นประจำจะทำให้ยางปัดน้ำฝนแข็งกรอบ ขาดความยืดหยุ่น เพราะยางต้องแนบกับกระจกที่รับความร้อน กรณีเช่นนี้จึงมีหลายท่านสงสัยว่า ถ้าหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดไม่ได้ การยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นจะดีหรือไม่ ขอบอกว่าการยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นค้างไว้ทุกวันๆ บ่อยๆ จะทำให้สปริงที่ก้านใบปัดน้ำฝนมีโอกาสเกิดอาการล้า ผลคือ แรงกดบนกระจกบังลมลดลง อาจทำให้ประสิทธิภาพในการควบคุมการปัดน้ำฝนลดลง ซึ่งหากเปรียบเทียบกันระหว่างราคาค่าเปลี่ยนสปริงกับใบปัดน้ำฝน แล้วค่าเปลี่ยนสปริงจะสูงกว่าราคาใบปัดน้ำฝนมากเลยทีเดียว
หากเลือกได้ควรเลือกจอดรถในร่มน่าจะดีกว่า และหมั่นตรวจเช็คสภาพความพร้อมและทำความสะอาดยางปัดน้ำฝนด้วยตนเองสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งมีเทคนิคง่ายๆ คือ ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นและใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาด เช็ดรูดไปตามความยาวของยางปัดน้ำฝนในทิศทางเดียว หากพบร่องรอยการฉีกขาดหรือแข็งกรอบ ควรรีบจัดหาเปลี่ยนชุดใหม่ เพราะนอกจากจะปัดไม่สะอาดแล้ว ยังทำให้เกิดเสียงดังและสะดุดขณะปัด หรืออาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนกระจกได้
อีกส่วนที่ต้องดูแลควบคู่ไปกับใบปัดน้ำฝน คือ กระปุกน้ำที่ใช้สำหรับฉีดกระจกนั้นความจริงแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหา น้ำยาอะไรมาผสมลงไป แต่ถ้าท่านต้องการจะให้กระจกสะอาดขึ้นเวลาฉีดล้างกระจกที่มีละอองน้ำมัน-เขม่าควันต่างๆ ก็ลองหามาเติมดูสักนิดก็ได้แต่ต้องระวังอยู่อย่างหนึ่งว่าน้ำยาที่เติมลงไป นั้นจะต้องไม่เป็นอันตรายกับสีของรถ และเวลาเติมจะต้องผสมกับน้ำให้เข้ากันเสียก่อนที่จะ เติมลงในถังส่วนอีกปัญหาที่พบบ่อยก็คือ เวลาที่ต้องการฉีดน้ำล้างกระจกหน้า แต่น้ำที่พุ่งออกมากลับไปคนละทาง หรือไม่ก็ไปฉีดโดนรถคันข้างๆบ้างหรือฉีดไม่ออกแค่ไหลเอื่อยๆอยู่ที่ปากท่อ เท่านั้นถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่ต้องตกใจเพราะท่านเพียงแค่ตั้งรูหัวฉีดเสีย ใหม่ ให้ตรงกับหน้ากระจกเท่านั้นวิธีตั้งก็ไม่ยากแค่หาเข็มหรือจะเป็นปลายไม้ แหลมๆ เสียบเข้าไปที่รูฉีดน้ำแล้วดัดไปทางที่ต้องการโดยลองฉีดน้ำดูเรื่อยๆ เท่านี้ท่านก็ จะได้ล้างกระจกหน้าได้อย่างที่ตั้งใจแล้วยังเป็นการทำความสะอาดหัวฉีดไปด้วย
การเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนนั้นก็มีความสำคัญ ควรเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนที่ผลิตจากวัสดุ และเนื้อยางที่มีคุณภาพดี จะสามารถใช้งานได้นาน ใบปัดน้ำฝนที่ดี ส่วนโครงของใบปัดน้ำฝน ควรจะทำจากวัสดุที่เป็นโลหะทั้งโครง เพื่อช่วยป้องกันการกระพือจากแรงลมในขณะใช้ความเร็วสูง และสามารถเพิ่มน้ำหนักในการรีดน้ำให้เรียบอีกด้วย นอกจากนี้ เนื้อยางของใบปัดน้ำฝนก็มีส่วนสำคัญ ควรพิจารณาเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนที่มีเนื้อยางสูตรเฉพาะ ที่เหมาะสำหรับการใช้ในบ้านเรา ซึ่งจะมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถคงคุณภาพยางไม่ให้เสื่อมเร็วเกินไป ใบปัดน้ำฝนบางชนิดอาจจะมีราคาถูก แต่อาจจะเสื่อมประสิทธิภาพเร็วภายหลังการใช้งาน เนื่องจากผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพต่ำ
รถแต่ละรุ่นจะใช้ใบปัดน้ำฝนขนาดที่แตกต่างกัน ในการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน จึงควรจะดูขนาดที่ระบุอยู่ในคู่มือของรถรุ่นนั้นๆ หรือสามารถเทียบดูรุ่นรถที่ระบุไว้บนกล่องใบปัดน้ำฝนได้เช่นกัน ใน กรณีที่ติดใบปัดผิดขนาด ถ้าเล็กไปจะทำให้รัศมีในการปัดน้อยลง ทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ไม่ดี ถ้าใหญ่ไปใบปัดอาจจะเลยขอบกระจก ทำให้ใบปัดเสีย และอายุการใช้งานน้อยลง การเลือกซื้อยางปัดน้ำฝนที่แนบสนิทกับกระจกบังลมหน้า-หลังได้ดี มีความยืดหยุ่นและมีขนาดพอดีกับก้านปัดน้ำฝนเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน