‘รถติดหล่ม’ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการขับรถยนต์ลุยเข้าไปยังพื้นที่ ที่เป็นดินเนื้อนิ่ม เป็นบ่อ หลุมเล็กๆ ที่ผู้ขับคิดว่ารถจะผ่านอุปสรรคนั้นไปได้โดยง่าย แต่แท้จริงแล้ว ล้อใดล้อหนึ่งที่ติดอยู่ในหลุมนั้นอาจมีการติดอุปสรรค จนทำให้รถไม่สามารถเคลื่อนตัวออกไปได้ มิหนำซ้ำ ยิ่งดันทุรันเหยียบคันเร่งส่ง จะทำให้หลุมที่ว่านี้ลึกลงไปกว่าเดิมอีกด้วย
เมื่อรถติดหล่ม ไม่ต้องตกใจ ขอให้มีสติและลองปฏิบัติตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้
ตรวจสอบรถยนต์ดูก่อนว่าล้อของรถยนต์ ล้อใด ด้านหน้าหรือด้านหลัง กำลังติดหล่มอยู่ หลุมบ่อที่ตกลงไปมีความลึกมากเท่าไหร่ จากนั้นจึงเช็กให้ชัวร์อีกรอบว่า ภายในหล่มที่ตกลงไปนั้นมีเศษดิน หิน ทราย หรือ วัตถุที่ดูเป็นอันตรายต่อล้อรถยนต์หรือไม่ เพราะหากดึงดันที่เร่งเครื่องขึ้นไปโดยไม่ตรวจสอบอะไรเลย นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงที่รถยนต์จะติดหล่มลึกกว่าเดิมแล้ว ล้อรถยนต์และช่วงล่างก็อาจได้รับความเสียหายได้ด้วย
ตรวจสอบล้อทุกล้อ เช็กดูว่าล้อไหนที่ติดหล่มลงหลุม มีอะไรที่ทำให้ล้อเสียหายหรือไม่ หากไม่มีให้ค่อย ๆ ขยับรถทีละเล็กน้อย ขยับเดินหน้าและถอยหลังอย่างช้าๆ และให้ใช้เกียร์ต่ำในการขยับ สำหรับการค่อยขยับรถเดินหน้าและถอยหลังอย่างช้าๆ นี้จะช่วยเพิ่มแรงเหวี่ยงไปที่ล้อรถ หากถ้าไม่ใช่หลุมทีลึกมาก ก็อาจะทำให้รถขึ้นจากหล่มได้
เพื่อให้ล้อสามารถขับต่ออกมาจากหล่มได้ ในเมื่อใช้วิธีข้างต้น ที่ค่อยขยับรถเดินหน้าและถอยหลังแล้ว ยังไม่สามารถผ่านไปได้ ให้มองหาสิ่งของรอบๆ ตัว เช่น ก้อนหิน หรือขอนไม้ ที่พอจะหาได้ละแวกนั้น มาหนุนรองด้านหน้าของล้อที่ติดหล่ม เมื่อจัดวางได้ที่ ให้ลองขยับรถเดินหน้า ให้ล้อไต่หินหรือขอนไม้ขึ้นมาจากหลุมหล่มได้
ถ้าในรถยนต์มีอุปกรณ์เติมลมยาง แต่บริเวณนั้นไม่มีก้อนหิน หรือขอนไม้ขนาดใหญ่ที่พอจะช่วยหนุนล้อได้เลย ให้ลองปล่อยลมยางออก เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นผิวสัมผัสระหว่างหน้ายางกับผิวถนนหล่มนั้นๆ แล้วค่อยๆ ขยับรถ วิธีนี้อาจะทำให้ขึ้นจากหล่มได้
อุปกรณ์รอกที่ติดรถยนต์มา พวกสายลุยชอบแนวออฟโรด จะมีอุปกรณ์พวกนี้ติดรถอยู่ สามารถนำรอกยึดไว้บริเวณด้านหน้ารถ ให้นำเชือกผูกติดไว้กับต้นไม้ใหญ่ๆ ให้ค่อยๆ ดึงรถขึ้น โดยวิธีนี้ถือเป็นการแก้ปัญหารถติดหล่มที่ง่ายและเร็ว ดังนั้น ถ้าต้องเดินทางไปถนนที่เป็นลูกรัง หรือออฟโรด มีอุปกรณ์รอกติดรถยนต์เอาไว้ก็อุ่นใจได้
ข้อห้ามเมื่อรถติดหล่ม
ห้ามเร่งเครื่องยนต์ เนื่องจากจะทำให้พื้นผิวที่สัมผัสกับล้อน้อยลง ทั้งยังเป็นการอัดเศษหินดินทรายเข้าไปที่ดอกยาง และยังเป็นการขุดหลุมฝังล้อไปในตัวอีกด้วย ดังนั้น หากยิ่งเร่งเครื่องมากเท่าไหร่ รถยนต์ก็จะยิ่งติดหล่มมากเท่านั้น
ไม่ควรถ่ายน้ำหนักสัมภาระออกจากรถยนต์ เนื่องจากไม่ได้ช่วยให้รถยนต์น้ำหนักเบาจนสามารถหลุดจากหล่มได้
ไม่ควรขย่มรถยนต์ เนื่องจากไม่สามารถช่วยสร้างจังหวะให้รถยนต์ปีนหล่มออกมาได้ ทั้งยังเสี่ยงที่จะทำให้รถยนต์ติดหล่มมากกว่าเดิมอีกด้วย
หากว่าการเดินทางในครั้งนี้มีผู้โดยสารมาด้วยหลายท่าน ให้ช่วยกันเข็นรถยนต์ดู ถ้ามีคนเพิ่มแรงดันรถมากเท่าไหร่ รถก็จะออกจากหล่นและอุปสรรคได้ง่ายขึ้น ใช้หิน หรือขนไม้หนุน ยิ่งง่ายที่จะขึ้นจากหล่ม
หาว่าลองทุกวิธีรถยังติดหล่อ ไม่สามารถนำขึ้นมาได้จริงๆ ติดต่อหารถที่สามารถช่วยเหลือได้ หรือรถลากในพื้นที่เพื่อทำการช่วยเหลือ
สำหรับใครที่ต้องเจอกับปัญหารถติดหล่ม และยังมีสัญญาณโทรศัพท์ ลองโทรขอความช่วยจากญาติ คนรู้จัก ช่าง ที่อยู่บริเวณนั้นก่อน หากต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานให้โทรได้ที่เบอร์