หากพูดถึงรถมือสองที่มีราคาแพงกว่าตอนป้ายแดง ส่วนมากคนจะนึกถึงเหล่าบรรดารถเก่าเคล้าความหลัง หรืออาจจะเป็นรถคลาสิคบางรุ่นที่คนบางกลุ่มนิยมนำกลับมาบูรณะใหม่ แต่ถ้าจะพูดถึงรถยุคใหม่ที่อายุอานามไม่เกิน 5 ปี มีใครรู้บ้างว่ารถอะไรที่มีราคาขายต่อแพงกว่าตอนออกป้ายแดงซะอีก! เป็นไปได้ไง๊
Toyota Majesty รถตู้ระดับ Luxury เปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อสายตาประชาชนไทยครั้งแรกเมื่อ 16 สิงหาคม 2019 ด้วยรูปโฉมที่มีความเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นเป็นอย่างมากในขณะนั้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ จัดมาอย่างครบครันเหนือกว่าคู่แข่ง ด้วยราคาที่ต่ำกว่า Toyota Alphard หลายเท่าตัว จึงไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับผู้ที่อยากครอบครอง
• Toyota Majesty Standard 1,709,000 บาท
• Toyota Majesty Premium 1,899,000 บาท
• Toyota Majesty Grande 2,199,000 บาท
• Toyota Majesty Standard มือสอง ราคา 1,799,000 - 1,999,900 บาท (ป้ายแดง 1,709,000 บาท)
• Toyota Majesty Premium มือสอง ราคา 2,000,000 - 2,290,000 บาท (ป้ายแดง 1,899,000 บาท)
• Toyota Majesty Grande มือสอง ราคา 2,390,000 - 2,690,000 บาท (ป้ายแดง 2,199,000 บาท)
ขุมพลังของ Toyota Majesty เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.8 ลิตร + เทอร์โบ กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตัวเมตร ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Sequential Shift ช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ช่วงล่างหลังแบบโฟร์ลิงค์คอนสปอริง
ถึงแม้ Toyota Majesty จะมีพื้นฐานมาจากรถตู้อย่าง Toyota Hiace แต่แทบมีความหรูหราที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะภายในห้องโดยสารที่มีความกว้างขวาง เบาะนั่งปรับไฟฟ้า ตกแต่งด้วยลายไม้ หน้าจอ Infotainment กลางขนาด 7 นิ้ว มาพร้อมระบบนำทาง ระบบ T-Connect Telematics และจำนวนที่นั่ง 11 ที่นั่ง เบาะแถว 2 เป็นแบบ Capitan Seat พร้อมระบบนวดหลัง และ!! จำนวนที่นั่งนี่แหละครับที่เป็นจุดปัญหา จนต้องทำให้ Toyota Majesty ป้ายแดงหายไปจากประเทศไทยจนถึงตอนนี้
Toyota Majesty มีความจำเป็นต้องถูกยกเลิกการนำเข้า และการจัดจำหน่ายในประเทศไทยไปโดยปริยาย เนื่องจากในขณะที่เปิดตัว Toyota Majesty นำเข้าด้วยอัตราภาษีรถ 11 ที่นั่ง ซึ่งอยู่ในกลุ่มรถรับส่งสาธารณะ ทำให้มีอัตราภาษีที่ต่ำ ส่งผลให้มีราคาจำหน่ายไม่สูงมากเกินไป จึงกลายเป็นกระแสตอบรับชนิดรถไม่พอขายในยุคนั้น แต่ปัญหาของจำนวนที่นั่งตอนหน้าที่เป็นที่นั่งแบบ 3 คน ได้รับการร้องเรียนว่าเบาะนั่งที่ 3 ไม่มีเข็มขัดนิรภัยจึงไม่สามารถเป็นที่นั่งได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นั่นจึงเป็นที่มาว่า Toyota Majesty อาจต้องปรับอัตราภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นมาก จนไม่สามารถทำราคาได้ต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท และนั่นอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทางผู้ผลิตมองว่า หากฝืนนำเข้ามาจำหน่ายด้วยราคาที่สูงขนาดนั้น ความน่าสนใจของ Toyota Majesty น่าจะหายไปจนไม่คุ้มแก่การทำตลาดนั่นเอง
เมื่อทาง Toyota ตัดสินใจเลิกทำตลาด Majesty ในประเทศไทย จึงทำให้ไม่มีรถใหม่ส่งมอบอีกต่อไป แต่ในขณะที่ความต้องการจำนวนมากยังคงอยู่ นั่นจึงเป็นที่มาของตำแหน่ง Rare Item ไปเรียบร้อยสำหรับเจ้า Toyota Majesty เมื่อมีรถมือสองหลุดออกมาสู่ตลาดจึงเป็นที่ต้องตาต้องการของผู้ที่รอจับจ่ายรีบสอยมาเป็นเจ้าของ เป็นที่มาของราคาขายต่อที่แข็งโป๊ก คนขายไม่ได้อยากขายส่วนคนซื้อก็กำลังต่อคิวรอ