เปิดตัว The New Range Rover Sport รุ่น Dynamic SE Plug-In Hybrid 510PS พร้อม Range Rover Care นาน 5 ปี ประกอบด้วย การรับประกันคุณภาพ บริการบำรุงรักษาตามระยะ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี ซื้อผ่านระบบออนไลน์ทาง www.landrover.co.th
New Range Rover Sport ใช้เครื่องยนต์เบนซิน Ingenium 6 สูบ 3.0 ลิตร ของ Land Rover ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง 105kW และแบตเตอรี่ 38.2kWh กำลังขับทั้งระบบอยู่ที่ 510 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.4 วินาที ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าสูงสุด 113 กม. และระยะการขับขี่จริงที่คาดไว้คือ 88 กม. ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 18 กรัม/กม. ระยะทางวิ่งได้รวมรวม 740 กม. ของการขับขี่ด้วยระบบเบนซินและไฟฟ้า
ดีไซน์ภายนอกแสดงเอกลักษณ์ของความเป็น Range Rover Sport กระจกมีระดับความลาดเอียงเหมาะสมของทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านหลังของรถ กระจังหน้าและชุดไฟ Digital LED ดีไซน์ใหม่ ไฟ Daytime Running Light สีตัวถังแบบแบ่งครึ่งตามแนวนอนที่ทำให้ตัวรถดูกว้างยิ่งขึ้น เสริมด้วยการใช้สีดำในการเพิ่มรายละเอียด ด้านหลังของรถสลักลายที่ประตูท้าย กราฟิกไฟ LED มือจับประตูได้รับการออกแบบใหม่ หลังคาที่เชื่อมด้วยเลเซอร์ ประสิทธิภาพของระบบแอโรไดนามิกของ New Range Rover Sport มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอยู่ที่ระดับ 0.29
การตกแต่งภายในแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยเทคโนโลยี Range Rover Command Driving Position ห้องโดยสารออกแบบเหมือนห้องนักบิน คอนโซลกลางลาดเอียงในแนวสูง ระบบอินโฟเทนเมนท์ Pivi Pro หน้าจอสัมผัสแบบโค้ง ขนาด 13.1 นิ้ว
ระบบ Cabin Air Purification Pro รุ่นล่าสุด คุณสมบัติในการกรองฝุ่น PM2.5 และเทคโนโลยี nanoeTM X ลดกลิ่นอับ แบคทีเรีย และสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ รวมไปถึงไวรัส SARS-CoV-23 อุปกรณ์ nanoeTM X ตัวที่สองได้รับการติดตั้งไว้ในบริเวณแถวที่สองเ และฟังก์ชันการจัดการคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ภายในห้องโดยสารก่อนการเดินทาง ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงรุ่นล่าสุดที่เรียกว่า Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) ระบบเบรกฉุกเฉิน กล้อง 3D รอบทิศทาง เซ็นเซอร์จอดรถด้านหน้าและด้านหลัง ระบบ Wade Sensing ระบบ ClearSight Ground View4 และไฟเลี้ยวที่มีระบบควบคุมการขับขี่อัตโนมัติ ระบบตรวจสอบสภาพคนขับ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในเลน และระบบจดจำป้ายจราจร
New Range Rover Sport ใช้แชสซีรุ่นใหม่ เป็นโลหะผสมที่มีความยืดหยุ่น MLA-Flex เพิ่มความแข็งแกร่งในการบิดได้สูงกว่า Range Rover Sport รุ่นก่อนหน้านี้ถึง 35 เปอร์เซ็นต์ ระบบ Dynamic Response Pro ทำงานควบคู่กับระบบ Dynamic Air Suspension เจนเนอเรชั่นล่าสุด ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวสปริงลมแบบปรับระดับได้เป็นครั้งแรก ให้การควบคุมการหมุนขั้นสูงสุดผ่านระบบควบคุมการหมุนด้วยพลังงานแอคทีฟอิเล็กทรอนิกส์ 48 โวลต์ สามารถใช้แรงบิดได้สูงสุดถึง 1,400Nm ในแต่ละเพลา
ระบบ Dynamic Air Suspension เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับระบบกันสะเทือน ทำงานโดยการปรับแรงดันของกระบอกโช้คให้สอดคล้องกับพื้นผิวถนน และความลาดชัน ระบบตรวจสอบทิศทางของถนนข้างหน้า โดยใช้ระบบข้อมูลการนำทางที่เรียกว่า eHorizon ทำงานสอดคล้องกับระบบช่วงล่างให้ปรับสภาพตามข้อมูลล่วงหน้าที่ได้รับจากระบบ หรือเมื่อต้องเข้าโค้ง เทคโนโลยี Adaptive Dynamics เพิ่มความสามารถแบบไดนามิกด้วยการควบคุมอย่างต่อเนื่องของระบบ Active Twin Valve Dampers เพื่อช่วยลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นของร่างกายผู้ขับขี่ ระบบนี้ยังสามารถตรวจสอบปัจจัยภายนอกได้สูงถึง 500 ครั้งต่อวินาที
ระบบ All-Wheel Steering ระบบ Torque Vectoring by Braking และระบบ Electronic Active Differential เป็นระบบบังคับเลี้ยวขั้นสูง ระบบ All-Wheel Steering ช่วยให้การบังคับเลี้ยวของล้อหลังทำมุมตรงกันข้ามกับล้อหน้า ได้สูงสุดถึง 7.3 องศา ลดวงเลี้ยวให้แคบลงในความเร็วต่ำและทำมุมขนานกับล้อหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งในช่วงเวลาที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบนี้ทำให้ New Range Rover Sport สามารถสร้างวงเลี้ยวได้เสมือนกับรถประเภทแฮทช์แบค และมีความคล่องตัวบนท้องถนนไม่ต่างจากรถยนต์ขนาดเล็ก
ระบบ Dynamic Response Pro ระบบ All-Wheel Steering ระบบ Electronic Active Differential และระบบ Torque Vectoring by Braking ระบบ Terrain Response 2® ล่าสุดของ Land Rover ระบบ New Adaptive Off-Road Cruise Control เปิดตัวครั้งแรกใน New Range Rover Sport
ดูตัวจริงและทดลองขับ New Range Rover Sport ได้ที่โชว์รูมรถยนต์แลนด์โรเวอร์ พระราม 4 และศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 2