อาวดี้ ประเทศไทย (AUDI Thailand) เปิดตัว The all-new Audi A5 Plug-in Hybrid ครั้งแรกในประเทศไทย ยกระดับเซกเมนต์พรีเมียมด้วยเทคโนโลยีล้ำและสมรรถนะที่โดดเด่น เปิดตัวพร้อมกัน 4 รุ่นย่อย ทั้งในรูปแบบ Avant และ Sportback ราคาเริ่มต้นที่ 3.299 ล้านบาท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถยนต์พรีเมียมในประเทศไทย
The all-new Audi A5 มากับภาษาการออกแบบใหม่ (New Design Language) ด้วยขนาดที่กว้างและยาวขึ้น ใกล้เคียงกับ Audi A6 เพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด 1,424 ลิตร (เฉพาะรุ่น Avant) เสริมความพรีเมียมด้วยชุดแต่ง Black Edition และ S line ล้ออัลลอยขนาด 19 และ 20 นิ้ว ไฟหน้า Matrix LED ที่สามารถปรับการทำงานได้ 8 รูปแบบ และไฟท้าย Audi Digital Rear Lights
The all-new Audi A5 มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอก 5 สี ได้แก่ Horizon Blue (สีใหม่), Daytona Grey, Glacier White, Mythos Black และ Grenadine Red เสริมเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยไฟ Projector LED บริเวณกระจกมองข้างและประตูหน้า
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบ E3 (อีคิวบ์) 1.2 electronics architecture รองรับการทำงานที่รวดเร็วและแม่นยำ หน้าจอแสดงผล Curved MMI Panoramic Display ขนาด 14.5 นิ้ว พร้อม Audi Virtual Cockpit Plus ขนาด 11.9 นิ้ว เพิ่มความสะดวกสบายด้วย Smart Door Panel ระบบเครื่องเสียงพรีเมียมจาก Bang & Olufsen กำลังขับ 685 วัตต์ พร้อมระบบเสียง 3 มิติ
นอกจากนี้ The all-new Audi A5 รุ่น Tech Pro ยังมาพร้อมหลังคากระจกพาโนรามิคที่สามารถปรับระดับความโปร่งแสงได้ถึง 6 รูปแบบ พร้อม UV Sun Screen ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดภายนอก หน้าจอสัมผัส MMI front passenger ขนาด 10.9 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหน้าด้วย
พละกำลังสูงสุด 367 แรงม้า Audi A5 ใหม่ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน Plug-in Hybrid 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 367 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม. พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro และช่วงล่าง S Sport สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนไกลสุดถึง 114 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) และ 86 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) ซึ่งเป็นระยะทางที่มากที่สุดในกลุ่ม PHEV ของ Audi
The all-new Audi A5 มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ Premium Platform Combustion (PPC) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ ลดเสียงรบกวน และทำให้ตัวรถมีความประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น รองรับการชาร์จไฟได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยรองรับกำลังไฟสูงสุด 7.4 kW ชาร์จไฟ 0-100% ในเวลา 90 นาที ทำให้ขับขี่เดินทางได้ไกลขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงาน
The all-new Audi A5 มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง ได้แก่ Adaptive Cruise Control, Lane Departure Warning, Lane Change Warning, Front Cross Traffic Assist, Rear Cross Traffic Assist และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Front Emergency Brake Assist) เป็นต้น เสริมด้วยระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา ระบบแจ้งเตือนขณะเปิดประตูรถ ระบบช่วยเลี้ยวฉุกเฉิน และระบบช่วยเบรกขณะเข้าโค้ง ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน