Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ไฮไลท์ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดใน Motor Show

ไฮไลท์ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดใน Motor Show

21 มี.ค. 68
10:00 น.
|
30
แชร์

BWM บีเอ็มดับเบิลยู เตรียมขนทัพรถยนต์แน่นพื้นที่ ด้วยไฮไลท์ครบจากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46

บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่ เป็นรถยนต์ซีดานปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานความสปอร์ตและความหรูหราได้อย่างลงตัว โดยมาพร้อมกับแบตเตอรี่แรงดันสูง 22.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จไฟสูงสุด 11 กิโลวัตต์ ลดเวลาชาร์จจาก 3 ชั่วโมง 45 นาที เหลือ 2 ชั่วโมง 15 นาที และเพิ่มระยะทางขับขี่แบบไฟฟ้าล้วนสูงสุด 85-101 กิโลเมตร

เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 109 แรงม้า รวมกำลังสูงสุด 292 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ฟังก์ชัน Sport Boost เพิ่มสมรรถนะและอัตราเร่ง เสริมความสปอร์ตยิ่งขึ้น

ภายนอกเสริมความโดดเด่นด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว, ชุดแต่ง M Sport Pro, และสปอยเลอร์ท้าย M ส่วนห้องโดยสารมาพร้อมพวงมาลัยหนัง M, เบาะนั่งสปอร์ต และระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8.5 รวมถึงฟังก์ชันความปลอดภัยและสะดวกสบายหลายระบบ เช่น Active Cruise Control และ Parking Assistant Plus

บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่ มีให้เลือกในสีเทา Brooklyn Grey, น้ำเงิน Portimao Blue, ขาว Mineral White และดำ Black Sapphire พร้อมเบาะหนัง Vernasca ตกแต่งด้วยตะเข็บสีดำหรือน้ำตาลตามสีรถ

บีเอ็มดับเบิลยู M3 Competition M xDrive Touring ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

บีเอ็มดับเบิลยู M3 Competition M xDrive Touring ใหม่ พร้อมเบรกเซรามิค
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

บีเอ็มดับเบิลยู M3 Competition M xDrive Touring ใหม่ เป็นรถยนต์ทัวริ่งที่ผสมผสานสมรรถนะจากสนามแข่งกับความอเนกประสงค์ในชีวิตประจำวัน เครื่องยนต์ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร M TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า และแรงบิด 650 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ BMW M xDrive ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมรถ

ภายนอกโดดเด่นด้วยไฟหน้า Adaptive LED, กระจังหน้าทรงไตคู่ และชุดแต่ง M Carbon รวมถึงล้อขนาด 19 และ 20 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ส่วนห้องโดยสารมาพร้อมพวงมาลัย M ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหน้า M Carbon bucket seat เสริมด้วยระบบ BMW Operating System 8.5

รุ่นนี้ยังสามารถอัปเกรดเป็นระบบเบรกเซรามิค M Carbon สำหรับประสิทธิภาพการเบรกที่เหนือกว่า มีให้เลือกหลายสีทั้งขาว Alpine White, เหลือง Sao Paulo Yellow, ดำ Black Sapphire และอีกมากมาย รวมถึงสีพิเศษจาก BMW Individua ที่เปิดให้เลือกสรรได้ที่ https://individual.bmw-m.com/en-US/G81-21GB-448

บีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition M xDrive Coupe ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

บีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition M xDrive Coupe ใหม่ พร้อมระบบเบรกเซรามิค
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

บีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition M xDrive Coupe ใหม่ เป็นคูเป้พลังแรงที่ได้รับการปรับโฉมและยกระดับสมรรถนะ พร้อมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร M TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า และแรงบิด 650 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.5 วินาที พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ BMW M xDrive

รถรุ่นนี้มาพร้อมกับแพ็คเกจ M Driver's Package ที่เพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 290 กม./ชม. และสามารถเลือกอัปเกรดเป็นระบบเบรกเซรามิค M Carbon สำหรับประสิทธิภาพการเบรกที่เหนือกว่า รวมถึงระบบกันสะเทือน Adaptive M ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน

ภายนอกมีไฟหน้า Adaptive LED และไฟท้ายเลเซอร์แบบ M4 CSL พร้อมล้อ M ขนาด 19 และ 20 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ พร้อมชุดแต่ง M Carbon เพิ่มความสปอร์ตในทุกมุมมอง ภายในห้องโดยสารมีพวงมาลัย M ทรงตัดขอบล่าง และระบบ BMW Operating System 8.5

บีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition M xDrive Coupe ใหม่ มีให้เลือกในหลายสี เช่น เหลือง Sao Paulo Yellow, ดำ Black Sapphire, ขาว Alpine White และสีพิเศษจาก BMW Individual กว่า 100 สี ซึ่งสามารถเลือกได้ที่ https://individual.bmw-m.com/en-US/G82-21HK-P7B

บีเอ็มดับเบิลยู 530e Inspiring ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

บีเอ็มดับเบิลยู 530e Inspiring ใหม่ คือปลั๊กอินไฮบริดที่มอบประสบการณ์ความหรูหราพร้อมสไตล์สปอร์ตในตัว ซีรีส์ 5 โดดเด่นด้วยชุดแต่ง Titanium Bronze และล้อขนาด 20 นิ้วดีไซน์ Aerodynamic ในโทนสีเดียวกัน ระบบขับเคลื่อนผสานเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 299 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 6.3 วินาที และวิ่งในโหมดไฟฟ้าไกลสูงสุด 102 กม.

ภายในห้องโดยสารมีวัสดุตกแต่งหรูหราด้วยโทนสี Dark Silver และไม้ Dark Oak พร้อมระบบ BMW Live Cockpit Professional หน้าจอ 12.3 นิ้ว ระบบ BMW IconicSounds Electric และฟังก์ชันความสะดวกสบาย เช่น ระบบ Driving Assistant Plus, Parking Assistant Plus และปรับอากาศ 4 โซน

บีเอ็มดับเบิลยู 530e Inspiring ใหม่ มีสีให้เลือก ได้แก่ Black Sapphire Metallic, Mineral White Metallic, Oxide Grey Metallic และ Cape York Green พร้อมเบาะหุ้ม Veganza สีน้ำตาลหรือดำ

บีเอ็มดับเบิลยู M5 Touring ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

บีเอ็มดับเบิลยู M5 Touring ใหม่ พร้อมเบรกเซรามิค
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

บีเอ็มดับเบิลยู M5 Touring ใหม่ ถูกออกแบบเพื่อมอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล รูปทรงของรถมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น พร้อมช่องรับลมใหญ่ กระจังหน้า M และไฟส่องสว่าง BMW Iconic Glow การขับเคลื่อนด้วยระบบ M HYBRID รวมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังสูงสุด 727 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 305 กม./ชม.

M5 Touring ใหม่มาพร้อมแชสซีที่พัฒนาโดยบีเอ็มดับเบิลยู M ช่วงล่าง Adaptive M และระบบ Integral Active Steering เพื่อการขับขี่ที่แม่นยำ ล้ออัลลอย M ขนาด 20 นิ้ว/21 นิ้ว เพิ่มความแข็งแรง ส่วนห้องโดยสารตกแต่งสปอร์ตด้วยพวงมาลัยหนัง M และเบาะ M multifunction พร้อมฟีเจอร์เสริมจาก Bowers & Wilkins และชุดแต่ง Dark Silver M

ระบบ BMW iDrive เวอร์ชันล่าสุดพร้อม BMW Operating System 8.5 รองรับฟังก์ชันต่างๆ ผ่านหน้าจอสัมผัสและเสียง รวมถึงระบบช่วยขับขี่ Driving Assistant Professional และ Parking Assistant Professional ที่ช่วยให้การขับขี่และจอดรถสะดวกยิ่งขึ้น

MINI John Cooper Works Electric ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

MINI John Cooper Works Electric เป็นรุ่นพลังไฟฟ้าล้วนที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้าและแรงบิด 350 นิวตันเมตร พร้อมฟังก์ชัน Electric Boost เพิ่มกำลังอีก 20 กิโลวัตต์ในช่วงเร่งความเร็ว ช่วงล่างได้รับการปรับจูนตามสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ เพื่อมอบความคล่องตัวและการขับขี่ที่มีความสนุกสนานแบบ "Go-Kart feeling" ที่เป็นเอกลักษณ์ของมินิ

การตกแต่งภายนอกโดดเด่นด้วยโลโก้ JCW สีแดง-ขาว-ดำและสปอยเลอร์ท้ายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ พร้อมระยะทางการขับขี่สูงสุดถึง 371 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP ภายในห้องโดยสารมีโทนสีแดง-ดำ ตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียม และมีฟังก์ชัน Go-Kart ในระบบ MINI Experience Modes เพื่อเพิ่มอารมณ์สปอร์ต โดยปรับการตอบสนองของพวงมาลัยและคันเร่ง

MINI John Cooper Works Electric มีให้เลือกในสีเทา Legend Grey, แดง Chili Red II, ขาว Nanuq White, ดำ Midnight Black II และน้ำเงิน Blazing Blue

MINI John Cooper Works Aceman ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

MINI John Cooper Works Aceman ใหม่ คือรุ่นไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 258 แรงม้า (190 กิโลวัตต์) เช่นเดียวกับ MINI John Cooper Works Electric รุ่น 3 ประตู แต่มีห้องโดยสารกว้างขวางและตัวถังที่ยกสูงขึ้น รองรับการขับขี่ในเมืองได้ดีขึ้น โดยมีความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 6.4 วินาที

แบตเตอรี่ขนาด 54.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยให้วิ่งได้ไกลถึง 355 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) และชาร์จเต็มในเวลาเพียง 31 นาทีด้วยระบบชาร์จไฟกระแสตรง 95 กิโลวัตต์

การตกแต่งภายนอกมีลายคาดสปอร์ตสีแดง-ดำ พร้อมหลังคาและฝาครอบกระจกมองข้างที่ใช้โทนสีเดียวกัน ส่วนภายในมีพวงมาลัย JCW, เบาะนั่งสปอร์ต, จอแสดงผล OLED ทรงกลม และฟังก์ชัน MINI Experience Modes พร้อมโหมด Go-Kart

MINI John Cooper Works Aceman ยังรองรับ Digital Key Plus สำหรับการใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจดิจิทัลและฟังก์ชัน Remote Parking สำหรับการจอดรถผ่านสมาร์ทโฟน

มีให้เลือกในสีเทา Legend Grey, แดง Chili Red II, ขาว Nanuq White และดำ Midnight Black II

MINI John Cooper Works ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

MINI John Cooper Works Convertible ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

MINI John Cooper Works และ MINI John Cooper Works Convertible ใหม่ กลับมาในโฉมใหม่ภายใต้แนวทางการออกแบบของ New MINI Family โดยมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานในสไตล์มินิ พร้อมเพิ่มความพิเศษด้วยรุ่นเปิดประทุน

ทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้า (170 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ สำหรับการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.1 วินาที (รุ่นปกติ) และ 6.4 วินาที (รุ่นเปิดประทุน) โดยความเร็วสูงสุดของรุ่น JCW อยู่ที่ 250 กม./ชม. และรุ่น JCW Convertible ที่ 245 กม./ชม. รุ่นเปิดประทุนสามารถเปิดหลังคาผ้าได้ในเวลาเพียง 18 วินาทีที่ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม.

การออกแบบภายนอกโดดเด่นด้วยโลโก้ JCW ใหม่, กระจังหน้าทรงแปดเหลี่ยมสีดำเงา, ช่องรับอากาศขนาดใหญ่, ดิฟฟิวเซอร์สีดำ, และชุดท่อไอเสียกลาง พร้อมล้ออัลลอย John Cooper Works ขนาด 18 นิ้ว แบบ Lap Spoke ทูโทน

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมโหมด Go-Kart ที่ปรับพวงมาลัยและคันเร่งให้ตอบสนองไวขึ้น และแสดงข้อมูลสมรรถนะบนหน้าจอ OLED ทรงกลม พร้อมระบบ MINI Digital Key Plus เพื่อการเข้าถึงตัวรถผ่านสมาร์ทโฟน

ทั้ง MINI John Cooper Works และ John Cooper Works Convertible ใหม่พร้อมให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและน่าตื่นเต้นในทุกๆ การเดินทาง

MINI Cooper Convertible S ใหม่
ประกาศราคาในวันที่ 24 มีนาคม 2568

MINI Cooper Convertible S ใหม่ มาพร้อมประสบการณ์การขับขี่แบบเปิดประทุนในสไตล์คลาสสิกของ MINI ที่ผสมผสานความกะทัดรัดและอิสระในดีไซน์ พร้อมกับฟังก์ชันการเปิดหลังคาที่สามารถเปิดได้ทั้งแบบซันรูฟและเต็มรูปแบบภายใน 18 วินาที ขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. โดยหลังคาจะพับเก็บได้อย่างประหยัดพื้นที่และยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระ 160 ลิตรเมื่อเปิดหลังคา และ 215 ลิตรเมื่อปิดหลังคา

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.9 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 237 กม./ชม. ระบบกันสะเทือนถูกปรับจูนเพื่อเพิ่มความแม่นยำและคล่องตัวในการขับขี่

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมหน้าจอ OLED ทรงกลมและวัสดุทูโทนที่ให้สัมผัสนุ่มสบาย พร้อมกับระบบ MINI Experience Modes และโปรเจคเตอร์สองตัวที่สร้างบรรยากาศในขณะขับขี่ ทั้งยังมีระบบช่วยขับขี่และจอดรถอย่างระบบ Driving Assistant Plus และ Parking Assistant Plus

MINI Cooper Convertible S ใหม่ มีให้เลือกในสีเทา Copper Grey, ขาว Nanuq White และเหลือง Sunny Side Yellow พร้อมเตรียมออกสู่ตลาดไทยเร็วๆ นี้

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS Adventure Option 719

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS Adventure Triple Black

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS Adventure
ราคาประมาณการณ์ ระหว่าง 1,250,000 – 1,350,000 บาท

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS Adventure ใหม่ ถูกออกแบบใหม่เกือบทั้งหมด เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ที่สมบุกสมบัน โดยใช้เครื่องยนต์บ็อกเซอร์สองสูบขนาด 1,300 ซีซี ซึ่งให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้า (107 กิโลวัตต์) และแรงบิด 149 นิวตันเมตร เครื่องยนต์นี้ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีขนาดกะทัดรัด พร้อมระบบ Automated Shift Assistant (ASA) ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปโดยอัตโนมัติ

ระบบกันสะเทือนได้รับการพัฒนาใหม่ โดยมีเฟรมเหล็กกล้าที่แข็งแกร่ง และเฟรมท้ายจากอลูมิเนียมแทนที่ท่อเหล็กในรุ่นก่อนหน้า ระบบ Dynamic Suspension Adjustment (DSA) ช่วยปรับความแข็งของสปริงได้ตามสภาพการขับขี่ ส่วนตัวรถยังสามารถปรับความสูงอัตโนมัติเมื่อขับขี่ที่ความเร็วต่ำหรือขณะจอด

R 1300 GS Adventure ใหม่มาพร้อมกับ 4 โหมดการขับขี่ ได้แก่ Rain, Road, Eco และ Enduro ซึ่งช่วยให้ขับขี่ได้เหมาะสมกับสภาพถนนและสถานการณ์ต่างๆ พร้อมด้วยระบบ Dynamic Cruise Control (DCC) และ Riding Assistant ที่มาพร้อมฟังก์ชันเสริม เช่น Active Cruise Control, Front Collision Warning และ Lane Change Warning

รูปลักษณ์ของรถโดดเด่นด้วยถังน้ำมันอลูมิเนียมขนาด 30 ลิตร และไฟหน้า LED เมทริกซ์ พร้อมไฟเสริมที่ด้านหน้า และชุดไฟเลี้ยว LED ดีไซน์ใหม่ที่ติดตั้งบนแฮนด์การ์ด

บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS Adventure ใหม่มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Triple Black, GS Trophy, Option 719 Karakorum, และ Option 719 ASA (เกียร์อัตโนมัติ)

บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR
ประกาศราคาเร็วๆ นี้

บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ กลับมาพร้อมสมรรถนะที่เหนือชั้นสำหรับแฟนๆ ซูเปอร์ไบค์และสนามแข่ง ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 999cc ที่ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า (154 กิโลวัตต์) และแรงบิด 113 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ได้รับการปรับปรุงให้ตรงตามมาตรฐานมลภาวะ Euro 5+ และตอบสนองคันเร่งได้ดีขึ้นด้วยช่วงชักสั้น

S 1000 RR ใหม่มาพร้อมการอัปเกรดในหลายจุด เช่น ปีก winglet ที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงบนถนน, ฝาครอบล้อหน้าที่มีช่องระบายอากาศเพื่อช่วยทำความเย็นระบบเบรก และแผงด้านข้างที่มีการปรับโฉมใหม่ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น

ฟังก์ชันใหม่ในรุ่นนี้ ได้แก่ โหมด Pro และ Race Pro ที่ช่วยปรับคันเร่งให้ตอบสนองเร็วขึ้น ปรับจูนแรงบิด และการชะลอความเร็วโดยไม่ใช้เบรก ระบบช่วยออกตัวทางชัน (Hill Start Control Pro) และเบรก ABS ที่ปรับได้ถึง 5 ระดับ รวมถึงระบบช่วยควบคุมเบรก Dynamic Brake Control (DBC) ที่เพิ่มเข้ามาเป็นมาตรฐานใหม่

S 1000 RR ใหม่เปิดตัวในประเทศไทยด้วยสีเทา Bluestone metallic และขาว Light white M Motorsport

แชร์
ไฮไลท์ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดใน Motor Show