นับวันค่าฝุ่นจิ๋วขนาดเล็กอย่าง PM2.5 จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ กับภัยร้ายที่มาแบบเงียบๆ ด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และรุนแรงลุมลามไปจนถึงขั้นทำให้เป็น “มะเร็งปอด” โรคที่มาเงียบๆ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ปาเข้าไประยะที่ 3 บางคนถึงระยะ 4 อย่างที่เห็นในข่าวเมื่อไม่นานมานี้ มะเร็งปอด คร่าชีวิตของคนที่ดูแลสุขภาพตัวเองดี อย่าง หมอ หรือ ตำรวจ ที่ไม่ใช่ผู้สูงวัยเท่านั้น ในวัยไหนๆ ก็คืบคลานเข้ามาถึงตัวได้ ส่งกระทบไปถึงผู้คนในวงกว้างที่เพียงแค่ก้าวขาออกนอกบ้าน รวมไปถึงผู้ใช้รถใช้ถนน
หน้าที่ของไส้กรองแอร์ คือ ดักจับฝุ่น เพื่อไม่ให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรก เข้าสู่ห้องโดยสารภายในรถยนต์ ทำให้การหายใจโล่ง โปร่งสบาย หลายปีมานี้ในบ้านเรา เป็นที่ทราบกันดีว่า PM 2.5 ฟีเว่อร์ ภัยร้ายจากฝุ่นเล็กๆ กับโรคมะเร็งปอดที่เป็นภัยเงียบอย่างที่กล่าวไปข้างต้น นับวันจะมีผู้คนเป็นโรคนี้เยอะมากขึ้น ปัญหาฝุ่นจิ๋วขนาดเล็กที่กลายเป็นเรื่องใหญ่ ถึงกับต้องเช็คแอพวัดค่าฝุ่นกันวันต่อวันก่อนออกจากบ้านเลยทีเดียว ซึ่งส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรง การแก้ไขในเบื้องต้นที่เราทำได้ง่ายสุด คือ ออกจากบ้านใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นได้แล้วยังป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ที่ลอยมากับอากาศ รวมไปถึงการใช้เงินแก้ปัญหา อย่างในบ้านเรือนที่พักอาศัย ก็ซื้อเครื่องกรองอากาศมาใช้ซะเลย เพื่อกรองฝุ่น ติดเข้าไปหลายๆ ตัว
ส่วนในรถยนต์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน การนั่งโดยสารในรถเป็นเวลานานๆ ก็แก้ปัญหาด้วยการนำเครื่องกรองอากาศขนาดเล็กมาติดไว้ก็ช่วยได้นะ แต่ในรถยนต์เองมีระบบกรองอากาศอยู่ในตัว ซึ่งไส้กรองอากาศ หรือที่เรียกกันว่า Air Filter นี่แหละ ก็เป็นชิ้นส่วนที่สำคัญ ที่เป็นตัวช่วยในการทำหน้าที่ช่วยกรองและดักจับฝุ่นละออง รวมไปถึงสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าสู่ห้องโดยสาร ซึ่งหากกรองแอร์มีการอุดตัน นอกจากทำให้ระบบแอร์ทำงานผิดปกติแล้ว ยังทำให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา หากต้องโดยสารรถยนต์เป็นเวลานานๆ
ขณะที่นั่งโดยสารในรถยนต์ ลองสังเกตว่ามีกลิ่นแปลกๆ ที่ออกมาจากช่องลมแอร์ ไม่ใช่กลิ่นอาหารในรถ อาจเป็นกลิ่นอับชื้น และการรู้สึกได้ถึงลมแอร์ที่เบาลงจากเดิมและแอร์มีเสียงดัง เครื่องยนต์ตก สั่น กินน้ำมันมากกว่าเดิม
ศึกษาได้จากคู่มือของรถยนต์ ส่วนใหญ่ผู้ใช้รถนิยมเปลี่ยนอยู่ที่ 1 ปี หรือประมาณ 10,000 - 20,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการใช้รถด้วยว่ามากน้อยแค่ไหน หากขับรถในทางที่มีฝุ่นเสมอ ไม่ต้องรอให้ถึงอายุการใช้งาน จะเปลี่ยนไวขึ้นก็สามารถทำได้ หรือหากไม่มีความชำนาญมากพอก็ไปให้ช่างถอดตู้แอร์มาเช็ค เพื่อดูว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน บำรุงรักษากันแล้วหรือไม่ หากไม่อยากให้เกิดการอุดตัน หมั่นตรวจเช็คอยู่เสมอ
ไส้กรองแอร์เป็นส่วนที่สำคัญของรถยนต์อยู่ไม่น้อย นอกจากดักจับฝุ่นละอองต่างๆ ทำให้การหายใจขณะโดยสารภายในรถยนต์ดีขึ้นด้วย ควรหมั่นดูแลทำความสะอาดให้สม่ำเสมอ ยิ่งถ้าใช้งานในยุคฝุ่นเยอะแบบนี้แล้ว ก็ควรจะดูแลมากขึ้นเพื่อสุขภาพของตัวเองรวมไปถึงผู้โดยสารภายในรถด้วยเช่นกัน