ก่อนหน้า Hyundai ได้เปิดตัว IONIQ 5 ซึ่งเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าที่คว้ารางวัลระดับโลกมาแล้ว และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์อย่าง IONIQ 6 รถซีดานทรงสปอร์ต และตามมาด้วย IONIQ 5N ที่เผยโฉมไปก่อนหน้า วันนี้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 3,790,000 บาท
ราคา Hyundai IONIQ 5N
Hyundai IONIQ 5N ราคา 3,790,000 บาท
จุดเด่น IONIQ 5N
- โลโล้อลูนิเนียม N
- รูระบายอากาศสำหรับแบตเตอรี่
- เส้นสายสีส้มรอบคัน
- ล้อ Forged Alloy 21 นิ้ว กับดิสก์เบรก 4 พอต ดีไซน์เฉพาะรุ่น N พร้อมยาง Pirelli P-Zero
- พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ตเฉพาะรุ่น N
- ไฟหน้าและไฟท้าย Parametric Pixel LED
- เปลี่ยนเกียร์ และจำลองเสียงเครื่องยนต์ได้ถึง 3 โหมด Ignition Evolution และ Supersonic
- เบาะที่นั่งแบบ Bucket Seat วัสดุหนังกลับ Alcantara พร้อม เสริมความสปอร์ตด้วยไฟ Welcome Light ที่โลโก้ N
- การควบคุมช่วงล่างของตัวรถและกระจายแรงบิดไปแต่ละล้อ เพื่อตอบสนองต่อระบบขับเคลื่อน All-wheel Drive
- กระจกมองหลังดิจิทัล เพิ่มมุมมองที่กว้างกว่าทำให้มองเห็นด้านหลังได้คลอบคลุมให้ภาพคมชัด
ภายใน
- ที่ชาร์จไฟแบบ USB 4 port
- ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ด้านหน้า และด้านหลัง
- ปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ (Eco, Normal, Sport, N Mode)
- เบาะคู่หน้าแบบ N Light Sports Bucket Seat
- เบาะหุ้มด้วยหนังสีดำ Alcantara Suede + Natural Leather Combined
- เบาะคู่หน้าปรับเลื่อนตำแหน่งแบบรรรมดา
- ระบบปรับเบาะอุ่น / เย็น คู่หน้า
- พวงมาลัยปรับระดับ สูง - ต่ำ เข้า – ออก
- พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ตเฉพาะรุ่น N
- Regenerative Paddle Shifters
- ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร Ambient Mood Light 64 สี
- เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับพับได้แบบ 60:40
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 2 โซน (ปรับอิสระแยกซ้าย, ขวา) 12.3" Full Color Display Supervision Instrument Cluster
- ไฟในห้องโดยสารแบบ LED
- ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- กระจกไฟฟ้าปรับขึ้นลงอัตโนมัติพร้อมระบบกันหนีบ
- กุญแจรีโมทพร้อมระบบ Smart Keyless Entry
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- กระจกมองหลังแบบ Digital Center Mirror
- เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold
- Head-Up Display
- V2L ภายใน พอร์ตสำหรับชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากรถยนต์ ให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ
ระบบความบันเทิงการเชื่อมต่อ
- หน้าจอเครื่องเสียงและความบันเทิงแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว
- รองรับ AppleCarPlay / Android Auto แบบไร้สาย
- ระบบเครื่องเสียงพรีเมี่ยม BOSE™ With External Amplifier จำนวน 8 ลำโพง
- ระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสารไร้สาย Bluetooth พร้อมสั่งงานด้วยเสียง
- ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ช่อง USB เชื่อมต่ออุปกรณ์มัลติมีเดีย 1 ช่อง
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (ด้านหน้า x 2, ด้านข้าง x 2, ม่านถุงลม x 2)
- ระบบเบรก ABS (Anti Lock Braking System)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESC (Electronic Stability Control)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control)
- ระบบช่วยหยุดรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ MCB (Multi-Collision Brake)
- ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง TPMS (Tire Pressyre Monitoring System)
- ระบบเซ็นเซอร์กะระยะการเข้าจอด (หน้า – หลัง)
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- ชุดซ่อมยางชั่วคราว TMK (Temporary Mobility Kit)
สมรรถนะ
- กำลังขับเคลื่อนถึง 601 แรงม้า
- การทำงานด้วยโหมด N Grin Boost ซึ่งจะเพิ่มกำลังสูงสุดเป็น 641 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 740 นิวตันเมตร และเพิ่มเป็น 770 นิวตันเมตร ในโหมด N Grin Boost
- อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที
- แบตเตอรี Lithium-Ion ขนาด 84 kWh
- วิ่งได้ระยะทาง 448 กม.ต่อการชาร์จ WLTP
- ความเร็วสูงสุด 260 กม./ชม.
N-specialized
- ระบบ N Launch Control
- ระบบ LFB (Left Foot Braking)
- ระบบ N Regeneration Braking
- ระบบ N Drift Optimizer
- ระบบ NGB (N Grin Boost) เพิ่มแรงม้า 40.4 HP เป็นระยะเวลา 10 วินาที
- ระบบ NTD (N Torque Distribution)
- ระบบ NAS+ (N Active Sound+ : Ignition, Evolution, Supersonic)
- ระบบ N e-Shift
- ระบบ High-Performance N Theme Cluster
- ระบบ e-LSD (Electronic Limited Slip Differential)
- ระบบ ECS (Electronic Controlled Suspension)
- ระบบ NRS (N Road Sense)
- ระบบ N Pedal
- ระบบ N Race
- ระบบ NBP (N Battery Preconditioning
Hyundai SmartSense
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Smart Cruise Control with Stop and Go)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LFA (Lane Following Assist)
- ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ FCA (Forward Collision-avoidance Assist)
- ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก FCA-JT (Forward Collision-avoidance Assist Junction Turning)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่เลน LKA (Lane Keeping Assist)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BCA (Blind-spot Collision-Avoidance Assistance)
- ระบบป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง SEA (Safe Exit Assist)
- ระบบกล้องมองภาพจุดอับสายตา BVM (Blind-spot View Monitor)
- ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ RCCA (Rear Cross-traffic Collision-avoidance Assist)
- ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าและเมื่อรถคันข้างหน้าเคลื่อนที่ DAW (Driver Attention Warning)
- กล้องมองรอบทิศทาง SVM (Surround View Monitor
E-Pit สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
แบบ Ultra-fast charging ซึ่งพร้อมให้บริการแล้ววันนี้ที่ IONIQ Lab มาพร้อมกับแรงดันไฟฟ้าสูงสุด 800 โวลต์ / 350 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จไฟเพียง 5 นาที ให้ขับขี่ IONIQ 5 ไปได้ไกลอีก 100 กิโลเมตร นวัตกรรมที่ชาร์จ E-Pit ให้บริการสำหรับลูกค้า IONIQ 5, IONIQ 6 และ IONIQ 5N เท่านั้น โดยยังให้บริการฟรีไม่คิดค่าใช้จ่ายจนถึงสิ้นปี ยังมีแผนขยายจุดให้บริการสถานีชาร์จ E-Pit โดยจะตั้งขึ้นที่ H-Space ในอนาคต
ฮุนไดแพ็กเกจ
- รับประกันแบตเตอรีไฟฟ้าแรงสูงนาน 8 ปี หรือ 160,000 กม.
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปีหรือ 150,000 กม.
- สำหรับลูกค้า IONIQ แพ็คเกจบริการหลังการขาย
- บริการฟรีค่าแรงเช็คระยะนาน 10 ปีหรือ 150,000 กม.
- ฟรีเครื่องชาร์จ Home Charger
- พร้อมฟรีค่าติดตั้ง พร้อมเครื่องชาร์จพกพากระแสไฟฟ้า AC ความยาวสายไฟ 6 เมตรซึ่งรับประกันนาน 3 ปี
- บริการชาร์จไฟ V2L ฟรี 3 ปี
- บริการส่งมอบยานยนต์ถึงบ้านปีละสองครั้ง
- มอบบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ยกรถฟรีไปยังศูนย์บริการฮุนไดหรือสถานีชาร์จที่ใกล้ที่สุด นานสูงสุดเป็นเวลา 5 ปีโดยไม่จำกัดระยะทาง