เบื้องหลังโลโก้ ทำไม ‘แร็พเตอร์’ ถึงเป็นรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง
เมื่อพูดถึงรถกระบะสมรรถนะสูงที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง หนึ่งในชื่อที่ต้องกล่าวถึงคือ ฟอร์ด แร็พเตอร์ ซึ่งได้บุกเบิกนวัตกรรมในการพัฒนารถกระบะสมรรถนะสูงตั้งแต่การเปิดตัว F-150 SVT Lightning ในปี 2536 และเบื้องหลังความแกร่งนี้เกิดจากประสบการณ์ที่สะสมมาจากสนามแข่งตั้งแต่ยุค 80
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฟอร์ดเริ่มต้นความสำเร็จในสนามแข่งออฟโรดเมื่อ แมนนี่ เอสเควร์รา ขับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ลงสนามและคว้าชัยชนะใน SCORE Championships ทั้งในสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกในช่วงปี 80 ต่อมาในทศวรรษ 90 ทีม Rough Riders สานต่อความสำเร็จสร้างประวัติศาสตร์คว้าถ้วยรางวัลมากกว่า 20 รายการภายใน 5 ปี จนกระทั่งในช่วงยุค 2000 ฟอร์ดได้นำความเชี่ยวชาญจากสนามแข่งมาพัฒนาเป็นรถกระบะสมรรถนะสูงที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รุ่นแรก
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2553 และได้รับการตอบรับที่ดีจนคิวจองยาวนานถึงหนึ่งปี โดยการออกแบบรถแร็พเตอร์แต่ละรุ่นได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันออฟโรด ทำให้ฟอร์ดได้สร้างมาตรฐานใหม่ในวงการรถกระบะออฟโรดที่ใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน รถแร็พเตอร์ทุกรุ่นมีความโดดเด่นในด้าน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ฐานล้อที่กว้างขึ้น และ ระบบกันสะเทือนที่ออกแบบใหม่ พร้อมโช้คอัพที่ผ่านการทดสอบในสนามแข่ง
ความแข็งแกร่งและสมรรถนะ
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้รับการพิสูจน์ความแกร่งจากการเข้าร่วม Baja 1000 ซึ่งเป็นสนามแข่งออฟโรดที่ท้าทายที่สุดในโลก แม้จะมีรถรุ่นปรับแต่งพิเศษเข้าร่วมการแข่งขัน แต่ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รุ่นที่ผลิตจากโรงงานและจำหน่ายไปทั่วโลก ก็สามารถคว้าชัยชนะได้ นี่คือการพิสูจน์ว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือรถกระบะแท้จริงในสายเลือดแร็พเตอร์
สมรรถนะในสนามแข่งขัน
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้พิสูจน์สมรรถนะในสนามแข่งอย่างต่อเนื่อง โดยทีม ฟีลลิค อินโนเวชัน มอเตอร์สปอร์ต ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฟอร์ด ประเทศไทย สามารถคว้าแชมป์ประจำปีในการแข่งขัน ไทยแลนด์ แรลลี่ เรด แชมเปี้ยนชิพ 2567 (Thailand Rally Raid Championship - TRRC) ในรุ่น T2.1 และในปีนี้ยังคว้า อันดับ 2 ในรุ่น T2 และ อันดับ 4 Overall ในการแข่งขันสนามแรก
คุณสมบัติเด่นของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
- ช่วงล่างอัจฉริยะ: ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ใช้ โช้คอัพ FOX แบบ Live-Valve Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการขับขี่ถึง 500 ครั้ง/วินาที ปรับตัวรองรับสภาพเส้นทางได้แบบเรียลไทม์
- โครงสร้างแกร่งพิเศษ: ตัวรถได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อการใช้งานในเส้นทางออฟโรดความเร็วสูง พร้อมเสริมความแข็งแรงในจุดสำคัญ
- ฐานล้อกว้างขึ้น: เพิ่มความดุดันและเสถียรภาพในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด โดยฐานล้อกว้างกว่าเรนเจอร์รุ่นมาตรฐาน 90 มม.
- ยางออลเทอร์เรน BF Goodrich ขนาด 33 นิ้ว: พัฒนาเฉพาะสำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เพื่อรองรับการขับขี่ที่ดุดันและเสถียร
- โหมดการขับขี่หลายแบบ: ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มาพร้อม 7 โหมดการขับขี่ที่เลือกปรับได้ตามสภาพพื้นผิว ได้แก่ โหมดปกติ, สปอร์ต, ถนนลื่น, หิน, โคลน, ทราย และบาฮา
- ระบบ Active Valve ท่อไอเสีย: ผู้ขับขี่สามารถเลือกเสียงท่อไอเสียได้ 4 โหมด ตั้งแต่โหมดเงียบจนถึงโหมด Baja ที่ปลดปล่อยเสียงคำราม
การขับขี่ที่ตอบสนองทุกสถานการณ์
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังมีระบบ Trail Control™ ที่ช่วยควบคุมความเร็วในการขับขี่ออฟโรดเสมือนการรักษาระยะห่างอัตโนมัติ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมุ่งมั่นกับการบังคับควบคุมพวงมาลัยได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะในสภาพเส้นทางไหน
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ กับการแข่งขัน
ล่าสุดฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้พิสูจน์สมรรถนะอีกครั้งในสนามแข่งขัน ไทยแลนด์ แรลลี่ เรด แชมเปี้ยนชิพ 2567 (TRRC) ด้วยชัยชนะในรุ่น T2.1 และอันดับที่ดีในรุ่น T2 โดยฟอร์ดยังคงได้รับการยอมรับในวงการแข่งออฟโรดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามชมการแข่งขันสนามถัดไปได้ที่ เฟซบุ๊ก ฟอร์ด ในวันที่ 31 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568 นี้
