Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ช้างเอราวัณ ประติมากรรมช้างสามเศียร ขออะไรก็ได้ ยกเว้นเรื่องเดียว

ช้างเอราวัณ ประติมากรรมช้างสามเศียร ขออะไรก็ได้ ยกเว้นเรื่องเดียว

13 มี.ค. 68
11:30 น.
|
2.0K
แชร์

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสมุทรปราการ ผู้คนจำนวนมากนิยมมากราบไหว้ขอพรกับช้างเอราวัณหรือช้างสามเศียร เพื่อขอโชคลาภ ความโชคดี และความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง

ตำนานและคติความเชื่อ ช้างเอราวัณผู้พิทักษ์พระพุทธศาสนา

ในคติทางพุทธศาสนา มักเรียกพระอินทร์โดยทั่วไปในชื่อท้าวสักกะหรือท้าวศักระ เป็นผู้ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ส่วน ช้างเอราวัณ นั้น เรียกใน ภาษาสันสกฤตว่า ไอราวต หรือ ไอราวณ ภาษาบาลี เรียกว่า เอราวณ ส่วนในภาษาไทยเรียกว่า ไอราพต ไอราวัต ไอราวัณ และเอราวัณ ชื่อต่างๆ ทั้งหมดนี้มีความหมายถึง น้ำ เมฆฝน รุ้ง แปลรวมว่ากลุ่มก้อนเมฆที่มีฟ้าแลบ และทำให้เกิดฝนตก โดยมีความสอดคล้องที่ว่า พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณท่องเที่ยวไปบนสวรรค์ แล้วทรงโปรยฝนให้ตกลงมายังโลก

ส่วนตำนานที่เกี่ยวกับช้างเอราวัณนั้นก็มีกล่าวไว้อยู่หลายสำนวน หลายคัมภีร์ บางตำนานก็ว่า พระอิศวรได้ประทานช้างเอราวัณให้เป็นช้างทรงของพระอินทร์ บ้างก็ว่าช้างเอราวัณนั้นเป็นเทพบุตร อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เมื่อพระอินทร์จะเสด็จไปที่ใด เทพบุตรเอราวัณจะแปลงกายเป็นช้างเผือกสีขาว ชื่อว่า เอราวัณ

เอราวัณเป็นช้างที่รูปร่างสูงใหญ่เหมือนภูเขา ผิวกายเผือกผ่อง เป็นช้างที่มีพลังมาก ถือเป็นเจ้าแห่งช้างทั้งหลาย มีหัว 33 หัว แต่ละหัว มีงา 7 งา แต่ละอันยาวสี่ล้านวา แต่ละงามีสระโบกขรณี 7 สระ แต่ละสระมีกอบัว 7 กอ แต่ละกอมีดอกบัว 7 ดอก แต่ละดอกมีกลีบ 7 กลีบ แต่ละกลีบมีธิดาฟ้อนรำอยู่ 7 องค์ แต่ละองค์มีบริวารอยู่อีก 7 นาง รวมได้ว่า ช้างเอราวัณ มี 33 หัว มีงา 231 งา มีสระบัว 1,617 สระ มีกอบัว 11,319 กอ มีดอกบัว 79,233 ดอก กลีบบัว 554,631 กลีบ เทพธิดา 3,882,471 องค์ และบริวารของเทพธิดาอีก 27,176,919 นาง

ความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ก่อตั้งโดย คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ เริ่มต้นจากแบบร่างบนกระดาษ คุณเล็กใช้ทีมช่างเมืองโบราณปั้นรูปจำลองด้วยดินเหนียวขึ้นมาดูก่อน จากนั้นติดต่อสถาปนิกร่วมพัฒนารูปทรงโครงสร้างช้างอีกหลายครั้ง ด้วยวัสดุหลากหลาย ทั้งไฟเบอร์ โฟม และขี้ผึ้ง เพราะโครงสร้างนี้ไม่มีรูปทรงชัดเจนเหมือนการสร้างอาคารทั่วไป หลังจากนั้นจึงเริ่มเขียนแบบแปลน

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2537 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 10 ปี ตัวช้างมีความสูง 29 เมตร โครงสร้างของลำตัวและหัวช้างใช้เหล็กรูปพรรณเป็นรูปตัว H และ I เชื่อมต่อกันคล้ายกับการสานตะกร้อ โครงสร้างตัวช้างเป็นโครงถักเหล็กทรงพาราโบลา 10 วง ส่วนพิเศษที่สร้างยากมากที่สุดคือ เศียรช้าง เพราะเป็นส่วนที่ยื่นออกไปโดยไม่มีเสารับ สถาปนิกและวิศวกรผู้ออกแบบใช้คานโครงเหล็กที่เรียกว่า “Truss” คอยค้ำดึงน้ำหนักของหัวช้างให้ถ่ายน้ำหนักลงมาที่ขาช้างทั้งสี่ขา ส่วนขาช้างทั้งสี่นั้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อรับน้ำหนักตัวช้างและมีอาคารหลักรองรับขาช้างอีกที

ตัวอาคารรองรับมีความสูง 14.60 เมตร โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก น้ำหนักตัวช้างจะกระจายลงบนคานวงแหวนรอบนอกและรอบในบนหลังคาอาคาร ถ่ายน้ำหนักลงเสาแปดเสารอบนอกและเสาสี่เสารอบในของตัวอาคาร โดยตัวช้างรวมทั้งอาคารมีความสูง 43.60 เมตร (เทียบเท่าตึก 14 ชั้น) ความกว้างของช้าง 12 เมตร ความยาวลำตัวช้าง 39 เมตร น้ำหนักของลำตัวช้าง 150 ตัน และน้ำหนักของเศียรช้าง 100 ตัน

การประกอบเศียรช้างนั้น เริ่มประกอบจากเศียรกลางก่อน เมื่อตั้งโครงเหล็กเป็นรูปเศียรช้างแล้ว คนงานจะเคาะแผ่นทองแดงขึ้นรูปเศียรทีละชิ้นจนเป็นรูปเป็นร่าง ดูความถูกต้อง ทำหมายเลขบนแผ่นทองแดงแต่ละชิ้นแล้วถอดแผ่นทองแดงทั้งหมดออกมา หลังจากนั้นจะใช้รถเครนยกโครงเหล็กขึ้นไปประกอบข้างบนโดยมีนั่งร้านเหล็กนับหมื่นชิ้นรับน้ำหนักอยู่ด้านบน และให้ช่างขึ้นไปเคาะแผ่นทองแดงบุผิวช้างทั้งตัว โดยใช้แผ่นทองแดงหนาประมาณ 1.2 มิลลิเมตร มีขนาดต่างๆ กัน ตั้งแต่ 4x8 ฟุต จนถึงแผ่นเล็กสุดขนาดเท่าฝ่ามือ เคาะตกแต่งลวดลายเรียงต่อกันหลายแสนชิ้นด้วยความประณีต ซึ่งช้างเอราวัณตัวนี้เป็นประติมากรรมลอยตัวที่ใช้เทคนิคการเคาะโลหะขึ้นรูปด้วยมือแห่งแรกของโลก โดยได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมอย่างเป็นทางการได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 เป็นต้นมา

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ จัดแบ่งพื้นที่หลักออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งได้แนวคิดมาจาคัมภีร์ไตรภูมิกถา ที่แบ่งภพภูมิ เป็นสามส่วนสำคัญ คือ บาดาล โลกมนุษย์ และสวรรค์ ชั้นล่างสุดเป็นใต้ดินหรือบาดาล เรียกชื่อชั้นนี้ว่า “ชั้นสุวรรณภูมิ” ลำดับที่สองเป็นส่วนอาคารที่รองรับตัวช้างคือ “ชั้นโลกมนุษย์” และชั้นสามคือส่วนในตัวช้างเป็นส่วนที่อยู่เหนือโลกมนุษย์ขึ้นไปตามคติในไตรภูมินั้นคือสรวงสวรรค์ ส่วนนี้ เรียกชื่อชั้นว่า “ชั้นจักรวาล”

วิธีขอพรช้างเอราวัณ

ทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดเตรียม ดอกไม้ ธูปเทียน และตะกร้าผลไม้มงคลไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็น กล้วย อ้อย สาลี่ แอปเปิ้ล สับปะรด เป็นต้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องเตรียมอะไรมาเลย มีแค่ใจที่ศรัทธาเท่านั้นพอ

ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่า ช้างสามเศียรแห่งเมืองสมุทรปราการ มักให้โชคลาภแก่ผู้ที่มีจิตศรัทธา เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นชื่อสามารถขอพรได้ทุกเรื่อง ใครขออะไรก็มักสมความปรารถนา โดยให้ทำตามดังนี้

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (ท่อง 3 จบ)

โอมเอราวะณะ คะขัง ปูเชมิ (ให้ท่อง 3 หรือ 9 จบ)

แล้วบอกชื่อตนเองแล้วอธิษฐานขอพรในสิ่งที่ต้องการ

เคล็ดลับเพิ่มเติม หลังจากอธิษฐานขอพรแล้ว หากอยากให้พรสำเร็จดั่งใจปรารถนา ให้เดินเข้าไปด้านในแล้วขึ้นไปยัง "ชั้นจักรวาล" ซึ่งเป็นชั้นสูงสุด

อย่างไรก็ตาม การไหว้ช้างสามเศียร มีกฎข้อห้ามเด็ดขาดคือ ห้ามขอและห้ามบนบานในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าใครลบหลู่หรือล้อเล่นผลที่ตามมาอาจจะหนักจนรับไม่ไหวเลยก็ว่าได้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ

การเดินทางมาที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ตั้งอยู่ที่ 99/9 หมู่ 1 ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10270

เปิดบริการทุกวัน เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 18.00 น.

สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว, รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ลงที่ สถานีช้างเอราวัณ E17 ออกทางออกที่ 2

Advertisement

แชร์
ช้างเอราวัณ ประติมากรรมช้างสามเศียร ขออะไรก็ได้ ยกเว้นเรื่องเดียว