Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รู้จัก ไข้อีดำอีแดง เพจ หมอแล็บฯ เตือน ระบาดบางโรงเรียนต้องหยุดเรียน

รู้จัก ไข้อีดำอีแดง เพจ หมอแล็บฯ เตือน ระบาดบางโรงเรียนต้องหยุดเรียน

27 ก.พ. 68
14:41 น.
|
1.8K
แชร์

รู้จัก ไข้อีดำอีแดง คืออะไร สาเหตุเกิดจากอะไร อาการโรค วิธีรักษา หลังเพจ หมอแล็บฯ เผย ไข้อีดำอีแดงระบาด บางโรงเรียนต้องหยุดเรียน

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน ตำแหน่งผู้ชำนาญการ นักเทคนิคการแพทย์ หัวหน้างานตรวจโรคติดเชื้อทางโลหิตวิธีอณูชีววิทยา ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เผยผ่านเพจ หมอแล็บแพนด้า เกี่ยวกับการ การระบาดของโรคไข้อีดำอีแดง โดยระบุว่า

ไข้อีดำอีแดงระบาด บางโรงเรียนต้องหยุดเรียน !
ไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ มักจะเจอในเด็กวัยเรียน อายุ 5-15 ปี แบคทีเรียชนิดนี้สร้างสารพิษได้ ทำให้เกิดผื่นแดงขึ้นตามตัว

เชื้อนี้สามารถติดต่อผ่าน
• การไอหรือจาม
• การสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก
• การใช้ของร่วมกัน เช่น ของเล่น หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ

อาการ : ผู้ป่วยมักจะแสดงอาการภายใน 1 สัปดาห์หลังติดเชื้อ

• มีไข้สูง
• เจ็บคอ อาจมีหนองหรือจุดเลือดออกที่ต่อมทอนซิล
• ผื่นแดงสากคล้ายกระดาษทราย เริ่มจากลำตัวและกระจายไปแขนขา มักไม่ขึ้นที่ใบหน้า แต่แก้มจะแดงและมีวงซีดรอบปาก
• ลิ้นแดงเป็นปุ่มๆ คล้ายสตรอเบอร์รี่
• อาการอื่น ๆ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น และปวดท้อง

เนื่องจากเป็นเชื้อแบคทีเรีย ก็เลยรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งถ้าไม่รักษาอาจเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น โรคไข้รูมาติก หรือหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันได้

ถ้าพบการระบาดก็ควรให้หยุดเรียนหรือแยกตัวเด็กป่วยออกจากคนอื่นจนกว่าได้ยาปฏิชีวนะไปแล้วอย่างน้อย 24 ชั่วโมงจึงจะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นต่อไปนะครับ

โรคไข้อีดำอีแดง คือ โรคติดต่อ ไม่สามารถหายเองได้ ทั้งยังอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอันตรายถึงชีวิต วิธีป้องกัน

กรมการแพทย์ ระบุว่า โรคไข้อีดำอีแดง เป็นโรคที่สามารถติดต่อได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส ทางเดินหายใจ ทำให้แพร่กระจายได้ง่าย ประชาชนควรดูแลสุขอนามัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ เนื่องจากโรคนี้ไม่สามารถหายได้เองทั้งยังมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นเมื่อมีอาการแสดงที่ผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง

นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ไข้อีดำอีแดงเป็นโรคที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะผู้ป่วยเด็ก ไม่สามารถหายได้เอง และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจทำให้อาการแย่ลงจนส่งผลร้ายต่อร่างกาย

โรคนี้เกิดจากเชื้อสเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ ซึ่งการแพร่กระจายของโรคจากคนสู่คน ผ่านทางละอองฝอย จากสิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วย ได้แก่ เสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ทางการหายใจและการสัมผัสทางเยื่อบุต่างๆ ได้แก่ ตา จมูก ปาก รวมทั้งการสัมผัสใกล้ชิดผ่านทางสิ่งของเครื่องใช้ร่วมกันเช่น แก้วน้ำ ช้อน การดูแลสุขอนามัยในทุกๆ คนอย่างสม่ำเสมอ เช่น การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโดยเฉพาะในการอยู่ร่วมกันของกลุ่มคนจำนวนมาก เช่น สถานศึกษาต่าง ๆ

โรคไข้อีดำอีแดง อาการเริ่มต้น

แพทย์หญิงศิรินดา แจ่มจรรยา นายแพทย์เชี่ยวชาญ สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการเริ่มจากมีไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน หลังจากได้รับเชื้อ 12 ชั่วโมง ถึง 5 วัน ต่อมา 1-2 วัน จะเริ่มมีผื่นที่บริเวณคอ และกระจายไปตามตัว แขนขา ภายในระยะเวลาไม่กี่วัน ลักษณะผื่นจะเป็นผื่นนูนละเอียดคล้ายกระดาษทราย มีอาการคันเล็กน้อย มักพบผื่นจำนวนมากที่บริเวณข้อพับ และพบจุดเลือดออกขนาดเล็กในบริเวณนั้นได้ 3-4 วัน

ต่อมาผื่นจะเริ่มจางและเริ่มลอก ซึ่งมักเริ่มที่หน้า ส่วนฝ่ามือ ฝ่าเท้าอาจเกิดการลอกหลังจากนั้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์ได้ ในช่องปากจะพบการบวมแดงของต่อมทอนซิล อาจพบเยื่อสีขาว เทา หรือเหลืองปกคลุม ในช่วง 2 วันแรกลิ้นจะมีเยื่อขาวปกคลุม หลังจากนั้นเยื่อขาวจะลอกออกกลายเป็นลิ้นสีแดงและเห็นตุ่มลิ้นชัดเจน นอกจากนี้ยังพบต่อมน้ำเหลืองที่คอโต หน้าแดง และรอบปากซีดได้บ่อย

โรคไข้อีดำอีแดง วิธีรักษา

การรักษาที่สำคัญคือ ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ penicillin หรือ erythromycin เป็นระยะเวลา 10 วัน ร่วมกับการรักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ อาการไข้มักจะลดลงภายใน 12-24 ชั่วโมงหลังได้รับ ยาฆ่าเชื้อ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบ ได้แก่ ฝีที่บริเวณรอบต่อมทอนซิล ไซนัสอักเสบ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไข้รูมาติก และไตอักเสบ

การวินิจฉัยโรคอาศัยอาการแสดงที่กล่าวมา และอาจร่วมกับการตรวจยืนยันเชื้อโดยการเพาะเชื้อจากลำคอหรือการตรวจเลือด การพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่ระยะเริ่มแรกเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยควบคุมความรุนแรงของโรค

Advertisement

แชร์
รู้จัก ไข้อีดำอีแดง เพจ หมอแล็บฯ เตือน ระบาดบางโรงเรียนต้องหยุดเรียน