ส่องดีเทล ! ALTIPLANO SKELETON HIGH JEWELLERY MÉTIERS D’ART ศิลปะชิ้นเอกจากเพียเจต์ที่ผลิตขึ้นเพียง 8 เรือนเท่านั้น
เรือนเวลา Altiplano High Jewellery ถือเป็นงานศิลปะชิ้นเอกอีกชิ้นที่ เมซงเพียเจต์ สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิคหัตถศิลป์เก่าแก่หลากหลายแขนง โดยดีไซน์สุดพิเศษครั้งนี้นับเป็นความท้าทายอีกขั้น เพราะนอกจากโครงสร้างจักรกลแบบ ‘Skeleton’ ที่ประดับด้วย เพชรและแซฟไฟร์ ซึ่งถือเป็นคีย์หลักยังคงอยู่ในอิดิชั่นนี้แล้ว การตกแต่งหน้าปัดด้วยวิธีการ
ลงยาแบบ Grand Feu และ Cloisonné ก็ถูกหยิบมาถ่ายทอดลงบน Altiplano High Jewellery Métiers d'Art รุ่นใหม่ได้อย่างน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 8 เรือนเท่านั้น ผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่าง Ateliers de l'Extraordinaire แหล่งบ่มเพาะเหล่าช่างฝีมือชั้นเลิศของ เพียเจต์ และ Anita Porchet ปรมาจารย์ด้านอีนาเมลชื่อดัง ที่ร่วมงานกับเมซงมาตั้งแต่ปี 2006
ย้อนกลับไปปี 1874 "เพียเจต์" เป็นเพียงโรงงานผลิตชิ้นส่วนกลไกที่เริ่มต้นจากเวิร์คช็อปขนาดย่อมในโรงนาของครอบครัว ณ หมู่บ้าน La Côte-aux-Fées
ทั้งยังขึ้นชื่อด้านการรังสรรค์กลไกและเรือนเวลาที่มีความเพรียวบางเป็นพิเศษ แต่ถึงกระนั้นความอุตสาหะของเมซงในการท้าทายขีดจำกัดเพื่อส่งมอบความหลากหลายให้กับผู้สวมใส่ยังปรากฏให้เห็นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อมร.อีฟ เพียเจต์ เข้ามามีบทบาท
จากจุดเริ่มต้นของคำกล่าวสั้นๆ ที่ว่า “A watch is first and foremost a piece of jewellery.” กลายเป็นอีกจุดเปลี่ยนที่แบรนด์ประกาศชัยชนะอย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ว่าจะเป็น การริเริ่มนำ Ornamental stones มาคอนทราสต์กับวัสดุทองคำ โดยไม่ลดทอนความเพรียวบางของนาฬิกา
สำหรับ Altiplano High Jewellery Métiers d'Art ล่าสุดนี้ เปรียบดั่งพื้นที่สร้างสรรค์แห่งใหม่ที่ให้เหล่าช่างฝีมือของเมซงมาแสดงเสน่ห์แห่งกูตูร์
โดยผนวกชั้นเชิงและหัตถศิลป์อันละเมียดละไมทั้งในเรื่องศาสตร์ของเรือนเวลาและเครื่องประดับชั้นสูงไว้ครบครัน ตั้งแต่การตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยเพชรและแซฟไฟร์สีน้ำเงินลงบนกลไกสเกเลตัน Calibre 1201D1 กลไกล่าสุดที่ได้รับการพัฒนามาจากกลไกแบบไขลานอัตโนมัติ Calibre 1200D รุ่นก่อนหน้า
หลังท้าทายขีดจำกัดมานับไม่ถ้วน ทั้งการประดับอัญมณีบนกลไกสเกเลตัน ไปจนถึงการสะท้อนความหลงใหล Métiers d'Art ลงบนชิ้นงาน ดังที่ปรากฏในเรือนเวลาและจิวเวลรี่ที่ผ่านมา ล่าสุดเพียเจต์ ยังคงขีดเขียนตำนานบทใหม่ โดยผสมผสานความเชี่ยวชาญทั้ง 2 แขนงเข้าเป็นหนึ่งเดียว ทั้งยังหล่อหลอมจิตวิญญานที่ขับเคลื่อนเพียเจต์มากว่า 150 ปี อย่าง “Always do better than necessary” ไว้อย่างเหนียวแน่น
ซึ่งครั้งนี้ Anita Porchet เลือกใช้เฉดสีน้ำเงิน, เขียว และม่วง มาถ่ายทอด โดยนำเสนอลวดลายบนพื้นหน้าปัดและขอบ
ตัวเรือนผ่านเทคนิคการลงยาแบบ Grand Feu และ Cloisonné ขณะที่ด้านหลังได้รับการตกแต่งด้วยโทนสีน้ำเงินไล่เฉด
ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เมซงนำเสนอการลงสีบนด้านหลังของพื้นหน้าปัดอีกด้วย องค์ประกอบทุกชิ้นถูกจัดวางอย่างพิถีพิถันเพื่อส่งมอบความแม่นยำสูงสุด รวมไปถึงเหล่าอัญมณีทรงบาแก็ตต์ที่ไล่เรียงเฉดสีอย่างสวยงามบนขอบ ตัวเรือน
Altiplano High Jewellery Métiers d'Art มาพร้อมตัวเรือนขนาด 40 มม. ผสมผสานความบางขั้นสุดเข้ากับกลไก
สเกเลตัน ส่งมอบความหนาเพียง 7 มม. ซึ่งหนากว่ากลไกสเกเลตันประดับเพชรเวอร์ชั่นก่อนหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เรียกได้ว่าผลงานชิ้นล่าสุดนี้หลอมรวมหัตถศิลป์อันน่าทึ่งไว้อย่างครบครัน ตั้งแต่โครงสร้างจักรกลแบบ ‘Skeleton’ อันเลื่องชื่อ, การฝังอัญมณี และการลงยาแบบ Cloisonné
Advertisement