ในบรรดาผลไม้นานาชนิดที่สรรค์สร้างความสุขให้กับลิ้นของมนุษย์ คงไม่มีผลไม้ชนิดใดที่สร้างความแตกแยกทางความคิดและอารมณ์ได้เท่ากับ "ทุเรียน" ราชาแห่งผลไม้ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกดุดันราวกับอาวุธสงคราม แต่ภายในกลับซ่อนไว้ซึ่งเนื้อสัมผัสอันเนียนนุ่ม รสชาติหวานมันอันเป็นเอกลักษณ์ และกลิ่นที่รุนแรงจนทำให้หลายคนต้องเบือนหน้าหนี ในขณะที่อีกหลายคนกลับหลงใหลคลั่งไคล้จนยากจะถอนตัว
สำหรับประเทศไทยมีทุเรียนมากมายหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้ (อ้างอิงจากกรมวิชาการเกษตรและแหล่งข้อมูลอื่นๆ)
• กลุ่มกบ : มีจำนวนมากที่สุด ลักษณะใบเป็นรูปไข่ขอบขนาน ปลายใบแหลมโค้ง ฐานใบกลมมน ทรงผลมีทั้งกลม กลมรี และกลมแป้น หนามโค้งงอ
• กลุ่มลวง : ลักษณะใบป้อมกลางใบ ปลายใบเรียวแหลม ฐานใบแหลมและมน ทรงผลทรงกระบอกและรูปรี หนามเว้า
• กลุ่มก้านยาว : ลักษณะใบป้อมปลายใบ ปลายใบเรียวแหลม ฐานใบเรียว ทรงผลรูปไข่กลับและกลม หนามนูน
• กลุ่มกำปั่น : ลักษณะใบยาวเรียว ปลายใบเรียวแหลม ฐานใบแหลม ทรงผลทรงขอบขนาน หนามแหลมตรง
• กลุ่มทองย้อย : ผลมีลักษณะเป็นรูปไข่ หนามนูนแหลม
• กลุ่มเบ็ดเตล็ด : เป็นกลุ่มที่ไม่สามารถจัดเข้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้อย่างชัดเจน
สายพันธุ์ทุเรียนหลักและเป็นที่นิยมของคนไทยและต่างชาติ
1.พันธุ์หมอนทอง
• ลักษณะผล: ขนาดใหญ่ ทรงผลค่อนข้างยาว มีบ่าผล ปลายผลแหลม พูไม่เต็มทุกพู หนามแหลมสูง ฐานหนามเป็นเหลี่ยม มีหนามเล็กแซมระหว่างหนามใหญ่ (เขี้ยวงู) ก้านผลใหญ่แข็งแรง
• เนื้อ: สีเหลืองอ่อน เนื้อหนา ละเอียด นุ่ม มีรสชาติหวานมัน กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนมาก เมล็ดลีบเล็ก
• ความนิยม: เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกและบริโภคมากที่สุด ทั้งในและต่างประเทศ
• แหล่งปลูกสำคัญ: จันทบุรี ระยอง ตราด ชุมพร
2.พันธุ์ก้านยาว
• ลักษณะผล: ขนาดปานกลาง ทรงผลกลมรี เห็นพูไม่ชัดเจน ก้านผลยาวและใหญ่กว่าพันธุ์อื่น หนามเล็กสั้นและถี่
• เนื้อ: สีเหลืองทอง เนื้อละเอียด เนียนนุ่ม มีเส้นใยน้อย รสชาติหวานมันอมเปรี้ยวเล็กน้อย กลิ่นหอมเฉพาะตัว ไม่ฉุนมาก เมล็ดค่อนข้างใหญ่
• ความนิยม: เป็นอีกพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมาก มีราคาสูง
• แหล่งปลูกสำคัญ: นนทบุรี (เป็นแหล่งกำเนิดดั้งเดิม), จันทบุรี, ระยอง
3.พันธุ์ชะนี
• ลักษณะผล: ขนาดกลาง ทรงผลรีคล้ายไข่ไก่ ปลายผลแหลม หนามแหลม ฐานหนามโป่ง
• เนื้อ: สีเหลืองเข้ม เนื้อละเอียด นุ่มเหนียว รสชาติหวานมัน กลิ่นค่อนข้างแรง เมล็ดขนาดปานกลาง
• ความนิยม: นิยมนำมาแปรรูป และเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ชอบทุเรียนกลิ่นแรง
• แหล่งปลูกสำคัญ: จันทบุรี ระยอง ตราด
4.พันธุ์กระดุม
• ลักษณะผล: ขนาดเล็ก ทรงผลกลมรีคล้ายกระดุม ปลายผลมน หนามเล็กถี่
• เนื้อ: สีเหลืองอ่อน เนื้อละเอียด นุ่ม รสชาติหวานมัน กลิ่นไม่แรงมาก ออกผลผลิตเร็ว (ทุเรียนเบา) เมล็ดค่อนข้างใหญ่
• ความนิยม: เป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเกี่ยวไว
• แหล่งปลูกสำคัญ: ภาคตะวันออก
5.พันธุ์พวงมณี
• ลักษณะผล: ขนาดเล็ก ติดผลเป็นพวงสวยงาม ทรงผลกลมรี หนามเล็กแหลม
• เนื้อ: สีเหลืองเข้ม เนื้อละเอียด เนียนนุ่ม ไม่มีเสี้ยน รสชาติหวานจัด กลิ่นหอมอ่อนๆ เมล็ดเล็ก
• ความนิยม: ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่ชอบทุเรียนรสหวานและกลิ่นไม่แรง
• แหล่งปลูกสำคัญ: ภาคตะวันออก
6.พันธุ์หลงลับแล/หลินลับแล
• ลักษณะผล: ขนาดเล็ก กลมรี หนามโค้งแหลมคม
• เนื้อ: สีเหลืองอ่อนกว่าหลินลับแล เนื้อเหนียวเนียนละเอียด เม็ดเล็ก รสชาติหวานจัด มีกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้
• ความนิยม: เป็นทุเรียนพื้นเมืองของจังหวัดอุตรดิตถ์ มีราคาค่อนข้างสูงเนื่องจากปลูกยากและขนส่งลำบาก
• แหล่งปลูกสำคัญ: อุตรดิตถ์
7.พันธุ์กบชายน้ำ
• ลักษณะผล: ขนาดกลาง ทรงกลม พูเรียงสม่ำเสมอ หนามถี่ละเอียด
• เนื้อ: สีเหลืองเนียนละเอียด ไม่มีใย กลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ป่า รสชาติหวานมัน
• ความนิยม: เป็นทุเรียนพันธุ์โบราณ หายาก และมีราคาสูงมากในบางพื้นที่
• แหล่งปลูกสำคัญ: พบได้บ้างในหลายพื้นที่ แต่ไม่มากนัก
นอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ก้านยาวสาวสวย, ทองย้อยฉัตร, นกหยิบ, เม็ดในยายปราง, จันทบุรี 1-9, ทุเรียนป่าละอู, ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ เป็นต้น ซึ่งแต่ละพันธุ์ก็มีลักษณะเด่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
ทั้งนี้ เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารและพลังงานเป็นจำนวนมาก แต่หากกินมากไปก็จะเกิดอันตรายกับร่างกายได้ ดังนั้นจึงควรเลือกกินให้ถูกวิธี โดยปริมาณที่แนะนำหากรับประทานต่อวัน คือ 2 เม็ดเล็ก หรือประมาณ 100 กรัม เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง นอกจากมีคาร์โบไฮเดรตแล้ว ยังเป็นหนึ่งในผลไม้ไม่กี่ชนิดที่มีไขมันอยู่ด้วย ทำให้ในทุเรียน 100 กรัมมีพลังงานสูงถึง 140-170 กิโลแคลอรี โดยใน 100 กรัมจะมีคาร์โบไฮเดรต ประมาณ 30 กรัม หรือเทียบกับข้าวสวยประมาณ 2 ทัพพี และที่สำคัญยังมีปริมาณน้ำตาลที่สูงถึง 15 กรัม (3 ช้อนชา)
ดังนั้น คนที่ต้องควบคุมปริมาณน้ำตาล อย่างเช่นคนที่เป็นเบาหวาน ควรระมัดระวังปริมาณที่รับประทานและควรแยกจากอาหารมื้อหลักเพื่อเลี่ยงปริมาณน้ำตาลที่มากเกินไป ส่วนคนที่เป็นโรคไต และภาวะหัวใจล้มเหลวที่มีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง ก็ควรระมัดระวังปริมาณการรับประทานเช่นเดียวกัน
Advertisement