"มูนา" ซินเดอเรลลาดูไบ ติดเชื้อไวรัสแต่ไร้อาการ ใช้ยารักษาราคาหลักล้าน

"มูนา อัล ซารูณีย์" ซินเดอเรลลาดูไบ รอดตายเพราะอยากสวย?! ติดเชื้อไวรัสแต่ไร้อาการ โรคหายากที่รักษาด้วยยาราคาหลักล้าน!

เปิดใจ “มูนา อัล ซารูณีย์” ซินเดอเรลลาดูไบ ในรายการ Tuck Talk เผยการใช้ชีวิตแบบเท้าไม่แตะพื้น ลงทุนกับการดูแลตัวเองตั้งแต่หัวจดเท้า บินกลับไทยเพื่อทำสวย? อายุย่าง 73 แต่ยังสาวเหมือน 40 แข็งแรงจิกส้นสูง 6 นิ้วออกงานได้แบบชิล ๆ กับประสบการณ์เฉียดตาย ติดไวรัสตับอักเสบ C แต่ไร้อาการ โรคหายากที่รักษาด้วยยาราคาหลักล้าน!

ชื่นชมมากเลยในเรื่องของการดูแลตัวเอง คุณมูนา ตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้ว ?

คุณมูนา : ย่าง 73 แล้วค่ะ

ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการดูแลสุขภาพมากเลยใช่ไหม ?

คุณมูนา : มากๆ เลยค่ะ ตั้งแต่อาหารการกิน การออกกำลังกาย การตรวจสุขภาพ ทุกอย่าง Full Option ทำหมดอะไรที่ค้นหาข้อมูลแล้วดี

เท่าที่ทราบ คุณมูนา ก็จะอยู่ดูไบ ?

คุณมูนา : อยู่ดูไบเป็นหลักค่ะ 37 ปีแล้ว ถ้ามากรุงเทพฯ ปีหนึ่งก็จะมา 1-2 ครั้ง เพราะว่าตอนนี้มีหลานอยู่ที่โน้นแล้ว อย่างคราวนี้เพิ่งมาได้ 3 เดือน อีก 3 เดือนมาอีกแล้วคิดถึงกรุงเทพฯ

ได้ยินว่าคนดูไบค่อนข้างที่จะทานอาหารเข้มข้นหวานมัน ?

คุณมูนา : ทานอาหารน้ำมันหนามาก ถ้าเป็นแกงเอาช้อนตักขึ้นมาเป็นถ้วยเลย อาหารทุกอย่างเป็นน้ำมันลอยหมด ถึงจะเป็นอาหารผัดผักก็น้ำมันทั้งนั้น ตอนที่มูนาไปอยู่ใหม่ๆ ก็มีความสุขอันนี้ก็อร่อย อันนั้นก็อร่อย ชาก็อร่อย โรตีก็อร่อย น้ำหนักขึ้น 60 โล ตอนไปอยู่ใหม่ๆ หนักแค่ 48 โล ตอนนั้นยังสาวอยู่ กว่าจะลงมาได้อย่างนี้ใช้เวลานานมาก

แล้วคนดูไบเขาแข็งแรงไหม ?

คุณมูนา : ไม่แข็งแรง เขาถึงมีโรงพยาบาลทุกที่เลย รักษาฟรี เป็นมะเร็งก็เยอะมาก แล้วชอบไปฉีดให้ผอม แต่ไม่เข้าใจว่าเขาฉีดอะไรนะคะ กำลังเป็นแฟชั่นที่ฮิตที่สุดเลยตอนนี้ ถ้าใครอยากผอมต้องไปฉีด แต่เราไม่อยากเอยชื่อว่ามันคืออะไร แล้วผอมเร็วด้วย 3 เดือนผอมเลย จากคน 70 โล เหลือ 40-50 โล เพราะว่าวันๆ เขาไม่ทำอะไร ตื่นเช้ามาชา 1 แก้ว บ่ายชา 1 แก้ว ซึ่งชาใส่นมข้นสดๆ เลยนะคะ เย็นชาอีก 1 แล้ว คือไปนั่งที่ไหนก็จะมีถาดชาวาง เสิร์ฟชากันทั้งวัน ขนมหวานวางไว้ แล้วขนมที่นี่หวานมาก

ตอนน้ำหนักขึ้นเยอะทำยังไง ?

คุณมูนา : ตอนนั้นก็ไม่รู้ตัว พอมารู้ตัวอีกทีตอนเราจะไปงานแต่งงานว่าเดี๋ยวฉันจะมาใส่ชุดนี้ ปรากฏว่าพอมาใส่ซิปมันห่างมาก ฉันอ้วนขนาดนั้น เราเริ่มรู้สึกแล้ว อายุ 46-47 เริ่มแล้ว ต้องลดแล้ว เพราะแต่ก่อนขยันทำกับข้าวให้ลูกๆทานทุกวัน ตอนหลังไม่ล่ะ ก็เริ่มหัดมาออกกำลังกาย เต้นซุมบ้าอยู่ในห้อง เพราะที่ดูไบผู้หญิงผู้ชายออกกำลังกายรวมกันไม่ได้ แล้วก็เดินด้วย เต้นแบบสนุกสนาน เปิดเทปแล้วเต้นตามให้เหงื่อออก 40 นาที ดีมาก ช่วยให้สรีระเราดีด้วย แล้วก็มากรุงเทพฯ ดีอย่างหนึ่งได้เดินทุกเช้าในหมู่บ้าน 45 นาที ตอน 07:00–07:30 แดดออกพอดีได้วิตามินดี เพราะอยู่ดูไบไม่ได้เดินเลย ด้วยวัฒนธรรมหนึ่ง บ้านมูนากว้างนะจอดรถได้เป็น 20 คัน พอจะลงมา พอจะลงมาผู้ชายคนนี้เดิน คนนี้ล้างรถ ลงมาเดินไม่ได้สามีไม่ได้ลงมาเขาบอกมาใส่ชุดนอนกางเกงฟิตๆ แล้วมาเดินให้ผู้ชายเห็นได้ยังไง แต่เราก็ไม่อยากจะเถียงสามี

การกินอาหารที่ดูไบปรับเปลี่ยนยังไงบ้างคะ ?

คุณมูนา : ทานอาหารไทยเป็นหลักค่ะ มีพ่อครัวมีสองคน คนหนึ่งทำอาหารแขก อีกคนทำอาหารจีน เราก็จะสอนเขาให้ทำต้มยำกุ้ง ผัดกะเพรา ผัดเผ็ดไก่ ผัดเห็ดหอม ปลาหมึกกระเทียม ไก่กระเทียม ได้เท่านี้ก็โอเคแล้ว เราก็จะสั่งทุกวันเช้ามา วันนี้เอาอันนี้นะแล้วก็เอาข้าวใส่น้ำด้วย คือเขาไม่รู้จัก ข้าวต้ม ชอบทานข้าวต้ม

เทคนิคการกินของคุณมูนาเป็นยังไงบ้าง ?

คุณมูนา : ตอนตื่นมาต้องเป็นคอลลาเจน 1 แก้วก่อน ตื่นเช้ามาไข่ต้ม 2 ลูก กล้วยหอม 1 ลูก น้ำผลไม้คั้นสด 1 แก้ว กาแฟดำ 1 แก้ว อาหารกลางวันทานประมาณบ่าย 2 - 3 ค่ะ เพราะคนดูไบเขาชอบนอน มื้อเย็นก็ประมาณ 3-4 ทุ่ม ปกติเขาทาน 4 มื้อ ตอนดึกก็ตี 4-5 อีก เพราะว่าดูไบคนรวยเขาไม่ทำงาน เขาก็จะนอนตื่นประมาณ 4-5 โมง แต่นอน 6-7 โมง นั่งคุยกันดื่มชาทั้งผู้หญิงผู้ชายเป็นยังงี้หมดแล้วขนมก็เสิร์ฟไม่หยุด

ปกติถ้าไม่ทำเองก็สั่งอาหารไทยจากร้าน ส่งถึงบ้าน มีทุกอย่างตั้งแต่ส้มตำปูปลาร้า ผัดกะเพรา อร่อยมากแต่แพง ถ้าทำเองก็จะทำง่าย ๆ เช่น ปลาแห้ง ไข่เจียว ไก่ผัดเห็ด แล้วก็กินข้าวน้อยมาก ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะค่ะ อยากกินอะไรทานหมดเลยทอดหรือไม่ทอดแต่อย่างละ 1-2 ชิ้น ทานให้หายอย่าง ส่วนมื้อเย็นก็จะเป็นกล้วยหอมอีกลูก แล้วก็กาแฟดำ 1 แก้ว ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่นมค่ะ

ตอนนี้น้ำหนักเท่าไหร่ ?

คุณมูนา : ตอนนี้น้ำหนักประมาณ 51 กิโล สูงแต่ก่อน 165 ซม. ตอนนี้เหลือ 158 ซม. ค่ะ

ในวัยนี้รู้สึกยังไงกับร่างกายของตัวเองคะ?

คุณมูนา : แข็งแรงมากเลยค่ะ เดินขึ้นเขาได้ ใส่รองเท้าส้นสูง 6 นิ้วได้ เวลาออกงานก็แต่งตัวจัดเต็ม เต้นก็กระโดดได้ ต้องฝึกขาให้แข็งแรงไว้ตลอด

คุณมูนาเคยมีปัญหาสุขภาพร้ายแรงไหม ?

คุณมูนา : มีค่ะ ช่วงที่จะไปดึงหน้าพยาบาลมาตรวจเลือด ทำศัลยกรรมดึงหน้า คุณหมอให้ตรวจเลือดก่อน แล้วพบว่าค่าไวรัสสูงมาก เจอไวรัสตับอักเสบ C ทั้งที่ไม่มีอาการเลย เป็นภัยมืดจริง ๆ ค่ะ พอไปดูไบก็ต้องไป รักษาหมอบอกว่าติดมาจากเลือด คุณเคยผ่าตัดไหม อาจจะเป็นเพราะที่เราฉีดโน้น จิ้มนี่ เราก็ไม่รู้ เป็นไปได้หมดจากเลือด รักษาด้วยยาที่แพงมาก ล้านห้าต้องสั่งจากอเมริกา พอกินยาได้สองเดือน ตอนนี้พอไปตรวจสุขภาพหมอบอกคุณแม่ครับ คุณแม่เป็นคนอายุ 73 ที่เลือดดีที่สุดและไวรัสไม่มีแล้ว เพราะปกติมูนาจะตรวจสุขภาพทุกครั้งแต่เราไม่เคยตรวจอันนี้ อยากจะบอกทุกคนว่าอันนี้มันเป็นภัยมืด คนที่เป็นมะเร็งตับแล้วไม่รู้ตัว อาจจะมาจากไวรัสตับอักเสบ C

คุณมูนาทำศัลยกรรมอะไรบ้างคะ ?

คุณมูนา : ตอนแรกอายุ 65 อยากจะดึงหน้า เราก็ไปหาข้อมูลทุกที่ ดึงคิ้ว ตัดใต้คิ้ว เก็บใต้ตาอีก ใส่จมูกอีก คือเคยเสริมมาตั้งแต่ตอนสาวๆ แล้วแหละ แต่สมัยก่อนมันจะแข็งๆ โด่งๆ แล้วก็เย็บปีกจมูก แล้วก็เย็บปากให้ขึ้นมาเชิด เย็บใต้จมูก เก็บเหนียงใต้คาง ตัดเส้นที่คอออก 2 เส้น แล้วก็ดึงคอ ใช้เวลาตัดสินใจ 5 ปี ลูกไม่อยากให้ทำเพราะกลัวเรื่องวางยา แต่สุดท้ายก็ทำเพราะทนไม่ไหวกับความเหี่ยวค่ะ พอทำออกมาแล้วไม่เจ็บใช้เวลา 6 ชั่วโมง สมัยนี้การทำศัลยกรรมมันไม่ต้องไปปิดบัง เราทำแล้วสบายใจ ทำแล้วสวย ทำแล้วไม่ลำบากกระเป๋าเรามีทำ โอเค