ธนดล ลงพื้นที่เดือด ปะ ฉะ ดะ ไม่สนผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี

ธนดล ลงพื้นที่เดือด ปะ ฉะ ดะ ไม่สนผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี หลังพบมีถือครอง พื้นที่ สปก.ผิดกฏหมาย

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

ในวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2567 นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดสรรที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฎิรูป พร้อมด้วย ปลัดอำเภอด่านช้าง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลด่านช้าง ร่วมกับตำรวจกองบังคับการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี๋ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) และคณะทำงานและติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง ส.ป.ก. ลงพื้นที่ตรวจสอบการครอบครองที่ดินของ ส.ป.ก. ในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ได้รับแจ้งถึงการใช้ที่ดิน สปก.และมีการครอบครองที่ดินโดยมิชอบ

โดยพื้นที่แรกเป็นพื้นที่ที่ได้รับการดำเนินคดีมาแล้วตั้งแต่ ปี พ.ศ.2563 ลวงเลยมาจนถึง ปี พ.ศ.2567 เป็นเวลานานถึง 3 ปี พื้นที่ดังกล่าวได้มีการตรวจสอบ พบว่า มีบ่อน้ำที่มีผู้ประกอบการขุดไว้ทั้งหมด 702 ไร่ ซึ่งได้มีการชดเชยค่าเสียหายเบื้องต้นแล้ว แต่ไม่ถือเป็นการปิดคดีหรือยอมความกันแต่อย่างใด เนื่องจากคดีนี้เป็นบุกรุกที่ดิน สปก และลักทรัพย์โดยขุดดินในที่ดิน สปก สร้างความเสียหายให้กับรัฐไม่สามารถที่ยอมความหรือถอดแจ้งความได้ โดยในอีก 1-2 วันข้างหน้าจะมีการยื่นหนังสือถึง รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ให้จัดเป็นคดีพิเศษตาม พรบ.การสอบวนคดีพิเศษ 2547มาตรา 22 เนื่องด้วยพื้นที่ดังกล่าว มีพื้นที่เกิน 50 ไร่ ซึ่งเกินจากที่ สปก.ได้จัดสรรให้แก่พี่น้องประชาชน ร่วมไปถึงเมื่อได้ลงไปสำรวจตรวจสอบในพื้นที่ที่มีการขุดสระกว่า 8 สระ และอาจจะมีความลึกเกินกว่าที่ทาง สปก.กำหนด โดยเงื่อนไขในการจัดสรรพื้นที่และขุดบ่อนั้น เกษตรกรจะสามารถขุดบ่อได้ที่ความลึกประมาณ 1 เมตร 20 เซนติเมตรเท่านั้น

นอกจากนี้นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ได้ลงพื้นที่บริเวณสันเขื่อนกระเสี่ยว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งที่ได้รับการร้องเรียนว่าเป็นพื้นที่ชองผู้มีอิทธิพล โดยชาวบ้านที่เข้ามาหาหน่อไม้ของป่าแจ้งว่าได้ยินเสียงระเบิด เสียงประทัดและเมื่อเข้ามาตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าว มีการปลูกต้นลำไยประมาณ 200 กว่าไร่ และต่อไปทาง ส.ป.ก. จะมีการเข้ามาตรวจสอบว่าที่ดินที่แปลงนี้ว่าเจ้าของพื้นที่ได้มีการเข้ามาทำประโยนช์จริงไหม หากไม่มีการเข้ามาทำประโยนช์ก็จะต้องมีการดำเนินการเพิกถอน และในส่วนของการเป็นพื้นที่ของผู้มีอิทธิพลในจังหวัดสุพรรณบุรีทางเราก็จะมีการดำเนินคดีอาญาต่อไป นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดสรรที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฎิรูป กล่าว