วันที่ 30 ม.ค. 68 นาย พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว หรือ กำนันศักดิ์ ผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ออกมาแฉเรื่องการทุ่มเงินกว่า 200 ล้านบาท ซื้อเสียงหัวละ 500 บาท 4 วันๆ ละ 100,000 หัว รวม 400,000 หัวว่า
ในส่วนของตนเอง และทีมผู้สมัคร ส.อบจ.ยืนยันว่า การลงพื้นที่หาเสียง หรือจัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ผ่านมา พ่อแม่พี่น้องทุกคนที่มารับฟังปราศรัยมากกว่า 7 พันคนนั้น มากันแบบไม่ได้นัดหมาย มาด้วยใจ ไม่มีค่าหัว ไม่มีค่าจ้างอย่างแน่นอน
“ให้รู้กันว่าคนสุราษฎร์ฯมีศักดิ์ศรี ผมจะต่อสู้กับกลุ่มทุนใหญ่ ด้วยความมุ่งมั่นทำงานหนัก เพื่อตอบแทนบุญคุณประชาชนที่ไว้วางใจผมมาตลอด และจะตั้งใจสานงานต่อเพื่อประโยชน์ของชาวสุราฏร์ธานี” กำนันศักดิ์ กล่าว
ขณะที่นาย พลัฏฐ์ นิลเนาวรัตน์ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลและเจ้าหน้าที่ กกต. เพื่อหารือในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง โดยในการประชุม ผอ.กกต.สุราษฎร์ โต้กระแสซื้อเสียง 500 ยังไม่มีมูลร้องเรียน แต่ได้เพื่อวางแผนและกำหนดมาตรการป้องกันการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยกำหนดให้มีการบูรณาการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ทุกอำเภอ เฝ้าระวัง ตั้งจุดสกัด ตรวจค้น ลาดตระเวนเพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำ ความผิดกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตามข้อมูลการตั้งจุดตรวจรักษาความสงบเรียบร้อย ประกอบกับมีการเสนอข้อมูลทางสื่อโซเชียลว่ามีแข่งขันค่อนข้างที่จะรุนแรงและมีการกระทำการที่อาจเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 รวมทั้งมีการซื้อเสียงเกิดขึ้นหลายพื้นที่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ไม่ว่าจะมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงจริงหรือไม่ ประชาชนชาวสุราษฎร์ธานีต่างทราบกันดี เป็นบทพิสูจน์ความไว้เนื้อเชื่อใจ กกต.จังหวัด ว่าจะดำเนินการจัดการกับการทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ. ได้หรือไม่ หรือจะซ้ำรอยกับผลงานในการเลือกตั้งก่อนๆ ที่ผ่านมา ซึ่งหากคำตอบของ กกต.จังหวัดสุราษฎร์ธานี สวนทางกับความจริงที่เกิดขึ้นในพื้นทที่ ทำให้เราต้องตั้งคำถามต่อไปว่า กกต. มีไว้ทำไม ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นการทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่ต้องร่วมมือร่วมใจให้การใช้สิทธิ์ของประชาชนและการหาเสียงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หน่วยงาน กกต.สุราษฎร์ฯ ต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกลไกสำคัญของประชาธิปไตยอย่างเต็มประสิทธิภาพ มุ่งมั่นทำภารกิจให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเป็นแบบอย่างที่ส่งผลกระทบต่อความโปร่งใสและเป็นธรรมของระบบเลือกตั้งในอนาคต
Advertisement