เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ต.ค. 64 ที่บริเวณหน้าที่ทำการสายตรวจคลองแม่ลาย ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ชาวบ้านที่กำลังจับจ่ายซื้อของหน้าตลาดกันอยู่ต่างตื่นตกใจเหตุชุลมุล มีชายคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากร้านสะดวกซื้อ และตรงเข้าขวางหน้ารถยนต์เก๋งสีขาว ภายในรถมีหญิงสาวเป็นผู้ขับ พร้อมกับเพื่อนสาวอีกคนที่นั่งมาด้วยกัน
หลังจากชายคนดังกล่าวได้เข้าขวางรถยนต์ไว้ แล้วเกาะติดบริเวณหน้ารถ จนมาถึงบริเวณหน้าที่ทำการสายตรวจ ตำบลคลองแม่ลาย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำการอยู่ภายในป้อมได้เข้าไปห้ามปราม และแจ้งให้หยุดรถ เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายได้
ชายคนดังกล่าวคือ นายธนะสิทธิ์ สุขเกตุ อายุ 59 ปี แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าหญิงสาวที่ขับรถอยู่นั้นคือแฟนสาวของตัวเองชื่อ น.ส.กิ่ง (นามสมมติ) อายุ 27 ปี
ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิด 2 คลิป จากที่ทำการสายตรวจ เวลา 16.00 น. จับภาพขณะรถเก๋งสีขาวเข้ามาจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะมีผู้หญิงกับผู้ชายเดินกอดคอกันเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ เวลา 16.02 น. ผู้หญิงได้วิ่งออกมาก่อน และผู้ชายได้ตามมากระโดดเกาะหน้ารถ เวลา 16.03 น. ฝ่ายชายเกาะหน้ากระโปรงรถ
ล่าสุด วันที่ 4 ต.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ หมู่ 7 ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เพื่อพูดคุยกับ นายธนะสิทธิ์ สุขเกตุ อายุ 59 ปี หนุ่มใหญ่ที่กระโดดเกาะรถ เปิดเผยว่า เมื่อปลายเดือนที่แล้ว น.ส.กิ่งแก้ว แฟนสาวของตนโทรมาบอกว่าวันที่ 30 ก.ย. 64 จะย้ายของมาอยู่กับตน แต่พอถึงวันจริง บอกว่าจะมาวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดขัด แต่ขอให้มาอยู่ด้วยจริง พอถึงวันจริงก็ขอเลื่อน ไม่ยอมมาอีก กระทั่งเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 8.00 แฟนสาวโทรมาหาอีกครั้ง จะขอให้ตนโอนเงินไป 1 หมื่นบาท แต่ตนไม่ยอมโอนให้ เพราะเข็ดจากครั้งก่อนที่พอโอนเงินให้ก็หายไป
ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝ่ายโทรไปหาก่อน เพราะว่านางสาวกิ่งแก้วจะปิดโทรศัพท์ตลอด ไม่สามารถโทรหาเขาได้ เขาจะต้องเป็นฝ่ายโทรมาหาเอง จากนั้น น.ส.กิ่งแก้วได้ขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน ตนจึงเดินไปกดเงินที่ร้านขายของชำให้ 1 หมื่นบาท และจากนั้นตนจะไปธุระข้างนอก ปกติจะเอารถไปคนละคัน แต่ครั้งนี้ขอให้ตนขึ้นรถไปด้วย และจะฝากเพื่อนไว้ที่บ้าน เพื่อนคนนี้ทำธุรกิจสีเทา ตนเลยกลัวจะเอามายัดที่บ้าน จึงบอกให้พากลับไปส่ง
ระหว่างทาง น.ส.กิ่งแก้ว อ้างว่าหิวน้ำและชวนตนลงไปที่ร้านสะดวกซื้อ เดินกอดคอตนเข้าไปในร้าน ถึงที่ร้านก็ทำท่าหยิบของอยู่ข้างหน้าร้าน และขอให้ตนเดินไปหยิบน้ำให้ ขณะที่ตนกำลังเดินไปที่หลังร้าน ตนได้มองกลับมา และเห็นว่า น.ส.กิ่งแก้ววิ่งหนีขึ้นรถไปแล้ว ตนจึงรับกระโดดเกาะกระโปรงรถ โหนไปแบบในหนัง ไม่นึกว่าตัวเองจะกล้าทำ แต่ทำไปเพราะความตกใจ ไม่อยากจะให้เขาหนี ซึ่ง น.ส.กิ่งแก้ว ไม่ได้ขับรถเร็วมาก แต่ขับรถไปกลางถนน จนตำรวจที่อยู่ใกล้เข้ามาบอกให้จอดรถ ไกล่เกลี่ยกันที่สถานีตำรวจ แต่ยังไม่ได้แจ้งความ
สำหรับรถคันที่ตนกระโดดเกาะ น.ส.กิ่งแก้วขอให้ตนซื้อรถคันนี้ให้ โดยถือว่าเป็นของหมั้น ตนจึงให้เงินสดกับพ่อของ น.ส.กิ่งแก้วไป 170,000 บาท จากนั้น น.ส.กิ่งแก้วได้จอให้ตนซื้อทองให้ ตนจึงนำรถไปเข้าไฟแนนซ์ 70,000 บาท ใจหนึ่งที่นำรถไปเข้าไฟแนนซ์ เพราะตนไม่อยากจะยุ่งกับฝ่ายหญิงอีกแล้ว แต่ก็ต้องกลับมาเกี่ยวพันกันอีก เพราะตนไปค้ำประกันให้ และฝ่ายหญิงไม่ยอมจ่ายเงินค่างวดรถ ทั้งที่ตนส่งเงินไปให้
หลังจากที่ซื้อรถให้ น.ส.กิ่งแก้วก็ไม่ค่อยมาหา และทุกครั้งที่มาหาจะถามคำแรกว่า "พี่มีเงินเท่าไร" และบางครั้งพูดทั้งน้ำตา "หนูคิดถึงพี่นะ รักพี่นะ" และเรียกตนทำนองว่า "พ่อ, ผัวขา" พร้อมกับกล่าวว่า "หนูรักพี่มาก" ซึ่งทำให้ตนมีกำลังใจทำงานและรู้สึกใจอ่อน โดยตนเสียเงินให้กับผู้หญิงคนนี้ไปทั้งหมด 6 แสนกว่าบาท ซึ่งทุกครั้งที่ตนให้เงิน เพราะฝ่ายหญิงเป็นคนเอ่ยปากขอ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงเคยหลอกให้ตนโอนเงิน 2 หมื่นบาท ก่อนจะหนีหายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ประมาณ 4 เดือน
ทั้งนี้ตนรู้จักนางสาวกิ่งแก้ว ตอนที่นางสาวกิ่งแก้ว อายุ 20 ปี และขณะนั้นยังเรียนหนังสืออยู่ ทำงานขายของบางอย่าง ตนไม่คิดว่าจะถูกหลอก เลยไปเป็นลูกค้า แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีก เพราะหลังจากนั้นฝ่ายหญิงขอเงินตนประมาณ 3,000 บาท แต่ตนไม่ให้ เลยเลิกข้องเกี่ยวกันมาประมาณ 5 ปีแล้ว กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตนไปขอเบอร์ น.ส.กิ่งแก้ว จากหลานสาว และกลับมาคุยกันอีก เจ้าตัวก็ยอมรับว่ามีสามีมา 3 คนแล้ว แต่ก็ยังพูดกับตนว่า "หนูยังรักพี่นะ พี่ดีกับทุกอย่าง" หลังจากนั้นได้ตกลงคบกัน ระหว่างที่คบหากันตนเคยขอให้ น.ส.กิ่งแก้วมาอยู่ด้วย พร้อมกับบอกว่าถ้ามาอยู่ด้วยไม่ต้องทำอะไร ตนจะให้วันละ 1,000 บาท แต่นางสาวกิ่งแก้วบ่ายเบียง ยอมรับว่า ตนเคยพูดข่มขู่นางสาวกิ่งแก้วจริง ทำนองว่า "อย่ามาหลอกพี่นะ พี่เอาหนูตายนะ" แต่เป็นแค่การข่มขู่เฉย ๆ และไม่เคยพูดว่าจะซื้อปืน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนคงจะไม่กลับไปคบกับผู้หญิงคนนี้แล้ว ขอเพียงว่าอย่าไปหลอกคนอื่นแบบนี้อีก
ระหว่างที่ทีมข่าวพูดคุยกับนายธนะสิทธิ์ มีผู้หญิงคนสนิทรายอื่นโทรมาขอเงินกับนายธนะสิทธิ์ ให้โอนเงินให้ 200 บาท ซึ่งนางธนะสิทธิ์ก็ยินยอมที่จะโอนให้ เพราะเป็นคนใจกว้าง
ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านพัก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร รถคันที่มีปัญหากันคือ รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน กษ8187 นครสวรรค์ บริเวณกระโปรงรถยังพบรอยเท้า น.ส.กิ่งแก้ว (นามสมมมติ) อายุ 27 ปี แฟนสาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณวันที่ 27-28 ก.ย. 64 นายธนะสิทธิ์ได้โทรหาตน และบอกว่า "ถ้าเธอไม่มาหาพี่ในวันนี้ พี่จะไปเผาบ้านเธอนะ" และข่มขู่จะฆ่าพ่อแม่ รวมถึงน้องสาวของตน อีกทั้งยังโทรหาน้องสาวทำนองว่า "มึงพาพ่อมึงนี้นะ ไม่งั้นก็จะฆ่ามึง" เพราะนายธนะสิทธิ์คิดว่าถ้าขู่แบบนี้ ตนก็จะยอมกลับมาอยู่ด้วย
ซึ่งตนอดทนกับเรื่องนี้มาเป็น 100 ครั้งแล้ว และตนพยายามพูดไกล่เกลี่ยทำนองว่า "ถ้าพี่จะให้หนูไปอยู่กับพี่ พี่ต้องเปลี่ยนอารมณ์นะ" แต่นายธนะสิทธิ์กลับไม่เคยฟัง และพูดทำนองว่า "พี่ให้เงินเธอ เธอต้องทำตามสิ" กระทั่งเมื่อวานนี้ นายธนะสิทธิ์ได้โทรมาข่มขู่ว่าถ้าตนไม่ยอมไปหาจะไปหาพ่อ ตนจึงบอกว่า "ไปหาเฉย ๆ ไม่ได้ไปอยู่นะ" ซึ่งนายธนะสิทธิ์ก็บอกว่าค่อยมาคุยกัน โดยทุกครั้งที่ตนไปหานายธนะสิทธิ์ ตนจะพาเพื่อนไปด้วยตลอด เพราะนายธนะสิทธิ์เป็นคนโมโหร้าย และชอบออกคำสั่ง
หลังจากที่ออกมาเจอกัน นายธนะสิทธิ์ได้ยืนด่าตนเป็นชั่วโมง ตนก็ทำได้เพียงรับฟัง และบอกว่าค่อยคุยกัน เพราะตนจะไปส่งเพื่อนก่อน ขณะที่ตนขับรถไปส่ง นายธนะสิทธิ์ได้ลงไปร้านสะดวกซื้อ ตนจึงอาศัยช่วงเวลานั้นขับรถหนี เมื่อนายธนะสิทธิ์เห็นตนก็กระโดดเกาะกระโปรงรถทันที ขณะนั้นตนรู้สึกตกใจมาก แต่บริเวณนั้นเป็นช่วงสามแยก ถนนสายเอกเชีย ซึ่งมีจำนวน 4 เลน ทำให้ตนจอดไม่ได้ ตนขับรถเลยไปประมาณ 200 เมตร และวิ่งรถอยู่เลนซ้าย เพื่อเบี่ยงเข้าข้างทาง ตรงนั้นมีป้อมตำรวจพอดี ตำรวจเลยเข้ามาคุยให้ แต่นายธนะสิทธิ์ยังคงรั้นและไม่ยอมไปไหน ด้วยเหตุนี้จึงลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจ
กรณีเรื่องรถตนได้บอกว่า ถ้าเอารถคืนพี่ ตนก็ยอมให้คืน แต่ตอนนี้รถคันดังกล่าวเป็นชื่อของตน และรถติดค่าไฟแนนซ์อยู่ ถ้าตนให้รถไป รถก็จะถูกยึด และตนจะถูกแบลกลิสต์ เนื่องจากตนนำรถเข้าไฟแนนซ์ประมาณ 70,000 บาท เพื่อเอาเงินไปคืนให้นายธนะสิทธิ์ เพราะถ้าจะซื้อรถ ตนไม่อยากจะได้ของเขาฟรี ๆ ตนยืนยันว่านายธนะสิทธิ์ไม่ได้ให้เงินตนครั้งละ 5-6 แสนบาท แต่ให้ครั้งละ 1-2 พันบาท
สำหรับเงินส่วนอื่นที่นายธนะสิทธิ์ให้ เป็นฝ่ายถามตนก่อนเองว่ามีเงินใช่ไหม และตนก็เล่าให้ฟังว่าตนขาดเงินส่วนไหนบ้าง เพราะตนเป็นเสาหลักครอบครัว และดูแลค่าใช้จ่ายของครอบครัวทั้งหมด เช่น ค่าน้ำค่าไฟ ค่าแชร์ ซึ่งหลัก ๆ นายธนะสิทธิ์จะให้เงินเดือนละ 2 หมื่นบาท ให้เงินด้วยความเสน่หาความเป็นห่วง ตนไม่ได้ปฏิเสธ รับเงินด้วยความยินดี โดยเดิมทีตนทำงานเป็นพนักงานที่ จ.สมุทรสาคร แต่ปัจจุบันนี้มีอาชีพขายหนูนา
โดยตอนแรก ตนยอมรับว่าตนตั้งใจจะสร้างครอบครัวกับนายธนะสิทธิ์ และเคยคุยกันมาร่วมปี แต่ตนเริ่มลังเล เพราะนายธนะสิทธิ์อารมณ์ร้อน และต้องการครอบครองตน ทำให้ตนรู้สึกอึดอัด จึงยังไม่ได้ผูกข้อไม้ข้อมือกัน อีกทั้งหลัง ๆ มานี้ช่วง 5-6 เดือน นายธนะสิทธิ์มีอารมณ์รุนแรงขึ้น ไม่เคยทำร้ายร่างกายตน แต่มักจะพูดในทำนองว่าข่มขู่ เช่น ขู่จะทำร้ายคนในบ้าน ไม่ก็ทำทีเป็นโทรหาเพื่อนบอกมาจะขอซื้อปืน ซึ่งทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัว
นายชูศักดิ์ อยู่นาน อายุ 43 ปี ลูกน้องของหนุ่มใหญ่ที่กระโดดเกาะรถ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 11.00 น. นางสาวกิ่งแก้วได้โทรมาหานายธนะสิทธิ์ และบอกว่าจะมาหา จากนั้นตนก็ออกไปข้างนอกก่อน เลยไม่ได้เห็นตอนที่ฝ่ายหญิงมา และมาทราบเรื่องอีกครั้งคือ เกิดเหตุขึ้นแล้ว ทั้งนี้ นางสาวกิ่งแก้วมักจะมาหานายธนะสิทธิ์ที่บ้านพักอยู่บ่อยครั้ง และเวลามาก็อยู่ไม่ค่อยนาน ซึ่งตนเคยเตือนนายธนะสิทธิ์แล้วว่าผู้หญิงคนนี้จะเข้ามาหลอก แต่นายธนะสิทธิ์ไม่ยอมฟัง และมักจะส่งเงินให้ฝ่ายหญิงเป็นประจำ เพราะนายธนะสิทธิ์เป็นคนใจดี ใจกว้าง ใครขออะไรก็ให้หมด แม้แต่ตนเวลาที่ตนไม่มีเงิน นายธนะสิทธิ์ก็ให้ยืม
กระทั่งมาเกิดเรื่องเมื่อวานนี้ที่ไปเกาะรถคนอื่น ตนก็มองว่าไม่ควรทำ เพราะอายคนอื่นเขา แต่ก็คงทำอะไรมากไม่ได้ นอกจากคอยอยู่ให้กำลังใจในฐานะลูกน้อง
Advertisement