กรณีโลกออนไลน์ แชร์คลิปวิดีโอหนึ่งที่ปรากฏภาพสาวประเภทสอง กำลังชกต่อยตัวต่อตัวกับชายหนุ่มรายหนึ่ง เนื่องจากใช้คำพูดดูถูกเพศว่าเป็นสายเหลือง สุดท้ายชายหนุ่มรายนี้ถูกสาวประเภทสองต่อยจนน่วม และเลือดกำเดาไหล ส่วนสาวประเภทสองมีเพียงรอยขีดข่วนเท่านั้น
กระทั่งวันที่ 24 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์นายปากรณ์ ศิริธเนศ หรือ น้องปิ้ง สาวประเภทสองคนดังกล่าว และนายพชร พึ่งพระ หรือ เทส อายุ 18 ปี ส่วนสูง 167 ซม. น้ำหนัก 50 กิโลกรัม คู่กรณีที่ถูกชาวเน็ตถล่มยับจนต้องปิดเฟซบุ๊กหนี
ล่าสุดวันที่ 26 พ.ย.64 ทีมข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทุ่งครุ ได้เรียกตัวทั้งคู่เข้าไปดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากมีการเผยแพร่ภาพความรุนแรง และเป็นภัยต่อสังคม โดยทั้งสองคนยังเป็นเยาวชน เจ้าหน้าที่จึงเปรียบเทียบปรับและให้เจรจาไกล่เกลี่ยกัน กระทั่งจับมือทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
น้องปิ้ง กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้มารับข้อกล่าวหาและเสียค่าปรับตามกฎหมาย ซึ่งตนก็ได้กล่าวขอโทษน้องเทส ที่ต่อยจนน้องหน้าบวม เพราะปัญหาเกิดจากความเข้าใจผิด ตนยืนยันว่าวันนี้ไม่ถือโทษโกรธกันแล้ว และจะเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน และตนก็เอ็นดูน้องเหมือนน้องคนหนึ่ง อีกทั้งตนต้องขอโทษสังคมที่เผยแพร่ภาพความรุนแรง ทำให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่คนอื่น ๆ
นายพชร กล่าวว่า ในวันนี้ใบหน้าของตนก็ยังปูดบวมเขียว จากที่ถูกสาวประเภทสองต่อย ซึ่งตนก็ยอมรับผิดที่ไปท้าตีท้าต่อย เพราะความใจร้อนและความเข้าใจผิด คิดว่าสาวประเภทสองเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่ชายตน และพาผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาที่บ้านในยามวิกาล แต่มาทราบที่หลังว่า แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นพ่อแม่ของแฟนสาวพี่ชาย และเป็นคนขอให้สาวประเภทสองคนนี้พามาที่บ้าน
"วันนี้อยากขอโทษพี่ปิ้งครับ ขอโทษสังคมที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ที่สำคัญต้องขอโทษสาวประเภทสองทุก ๆ คน ที่ผมอาจจะพูดจาเหมือนเป็นการเหยียดเพศ ต่อไปนี้จะไม่เหยียดเพศสาวประเภทสองอีกแล้วครับ" นายพชร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทั้งคู่ก็ได้จับมือกันต่อหน้าสื่อมวลชน และยืนยันว่าจะคืนดีกันจริง ๆ ไม่ได้ดีกันต่อหน้าสื่อเท่านั้น และหากเจอกันข้างนอกก็จะไม่มีปัญหาอะไรกัน แต่จะเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเคย เพราะก่อนหน้านี้ก็รู้จักกันอยู่แล้ว
Advertisement