เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 หนุ่มใหญ่วัย 60 ปี สุดช้ำเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสมาคมนักข่าวนักสื่อสารมวลชนจังหวัดสระแก้ว ช่วยเป็นสื่อกลาง เผยความรู้สึกเข็ดกับชีวิต หลังถูกสาวเสริมสวยหลอกเอาเงินเอารถไปจำนำแถมออกรถเก๋งให้ก่อนหน้านี้แล้วกว่า 3 ล้านบาท
ขณะได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว โดยตำรวจรับแจ้งความ พร้อม แนะนำหาหลักฐานร้องศูนย์คุมครองสิทธิ์และเสรีภาพประชาชนจังหวัดสระแก้วเพื่อช่วยฟ้องแพ่งเรียกเอาทรัพย์สินคืนไว้เลี้ยงชีพในยามแก่ชรา
วันที่ 8 ธ.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่หมู่ 13 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว บ้านพักของหนุ่มใหญ่วัย 60 ปี มีความกว้างประมาณ 2 งาน 10 ตารางวา ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเพียงคนเดียว พร้อมกับสุนัขอีก 5 ตัว
โดยบ้านพักดังกล่าว เป็นบ้านน็อกดาวชั้นเดียวยกสูง มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัว ภายในห้องนอน พบว่ายังมีของใช้ของนางสาวริน อดีตคนรัก เช่น กรอบรูปภาพที่เคยไปถ่ายที่ธาตุพนม ตุ๊กตา ซึ่งเก็บไว้ดูต่างหน้า ส่วนด้านหลังบ้านทำเป็นลานนั่งเล่น และพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์ รวมถึงปลูกต้นไม้ โดยของมีค่า ที่เป็นยานพาหนะ ตอนนี้ได้นำไปรีไฟแนนซ์หมดแล้ว แม้แต่รถซาเล้งคันสุดท้าย ทรัพย์สินที่มีติดตัวในตอนนี้ เลยเหลือเพียง หม้อหุงข้าว และครก กับสากเท่านั้น
นายสันต์ทัศ ทองอบอุ่น หรือ ทูล อายุ 60 ปี เผยว่า ช่วงต้นปี 2562 นางสาวรินได้ส่งข้อความมาสอบถามตนเรื่องซื้อบ้านเอื้ออาทรต่อจากตน แต่ตอนที่พูดคุยกันนางสาวรินไม่มีเงิน จึงยังไม่ได้ขาย และจากนั้นก็ยังพูดคุยกันต่ออีก โดยนางสาวรินได้ส่งรูปภาพดอกไม้มาให้ตนทางไลน์ตลอด และพูดคุยในทำนองจีบตนทำให้ตนรู้สึกใจอ่อนและเริ่มคบกัน ช่วงแรกที่คบหา นางสาวรินเคยขอเงินตนประมาณ 50,000 บาท โดยอ้างว่าติดหนี้นอกระบบ และอ้างว่าตั้งครรภ์กับตนด้วย ตนจึงยินยอมให้เงิน และจากนั้นก็ให้เงินตลอด สัปดาห์ละประมาณ 1,000-10,000 บาท พอ 2 เดือนต่อมา นางสาวรินก็อ้างว่าแท้งลูก พร้อมกับส่งรูปเด็กมาให้ดู ซึ่งตนก็ไม่ได้เอะใจ ระหว่างที่คบหากัน นางสาวรินจะมีปัญหาเรื่องเงินตลอด ตนจึงต้องหาเงินมาให้เสมอ
ช่วงต้นปี 2562 นำที่ดิน 7 ไร่ไปจำนำในราคา 350,000 บาท และช่วงกลางปี 2562 ได้นำรถยนต์สีแดงไปรีไฟแนนซ์ในราคา 500,000 บาท และเดือนถัดมาได้นำรถดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาวไปรีไฟแนนซ์ในราคา 450,000 บาท ก่อนจะนำรถไถคูโบต้าไปรีไฟแนนซ์ในราคา 6 แสน กระทั่ง เดือน ก.พ. 2563 นางสาวรินได้ขอให้ตนซื้อรถฮอนด้าซิตี้สีขาวให้ ตนจึงซื้อให้ในราคาผ่อน แต่หลังจากที่ผ่อนไปได้เพียง 6 เดือน นางสาวรินก็ขอนำรถไปรีไฟแนนซ์ โดยอ้างว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุ ตนจึงยินยอม และครั้งนั้นได้รีไฟแนนซ์ในราคา 530,000 บาท ซึ่งก่อนที่จะนำรถเก๋งไปรีไฟแนนซ์ ตนได้นำรถซาเล้งคันสุดท้ายในชีวิตไปรีไฟแนนซ์ด้วย ในราคา 17,000 บาท
ด้วยเหตุนี้ เงินที่เคยเก็บสะสมไว้จึงเริ่มลดน้อยลง แต่หนี้สินที่จะต้องใช้ค่ารีไฟแนนซ์กลับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ทำให้ตนเริ่มเครียด และทำให้นางสาวรินเริ่มตีตัวออกห่าง จนตนจับได้ว่ามีคนใหม่ และถึงแม้ว่าจะมีคนใหม่ ตนก็ยังคงทนคบต่อไป จนคนใหม่ของนางสาวรินจับได้ และเลิกกันในวันที่ 8 พ.ย. 2564 ทั้งนี้ นางสาวริน เป็นภรรยาคนที่ 3 ของตนและตอนแรกที่คบกันนางสาวรินก็สัญญาอย่างดีว่า จะดูแลกันจนกว่าจะตาย ตนจึงเชื่อใจ
กระทั่งมาถูกชิ่งเงินไปเช่นนี้ และตนกำลังจะถูกยึดบ้านที่อาศัยอยู่ ที่ดินพื้นที่ขนาด 2 งาน 10 ตารางวา ตนจึงอยากจะให้นางสาวรินนำเงินมาช่วยชดใช้ ในฐานะที่ตนนำเงินที่รีไฟแนนซ์ไปให้จ่ายหนี้ อย่างน้อยนำมาช่วยชดใช้ 5 แสนบาทก็ยังดี เพราะตอนนี้ตนลำบากมาก อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าตนไม่ใช่คนแรกที่เคยถูกหลอกเงินไป และจากนี้ตนคงจะไม่กลับไปคบหากับนางสาวรินอีกแล้ว
ทีมข่าวได้พยายามโทรติดต่อ นางสาวริน สาวคู่กรณี แต่ไม่มีใครรับสายกระทั่ง เวลาประมาณ 15.00 น. นางสาวรินได้โทรไลน์มาหาพ่อทูลอีกครั้ง โดยเริ่มแรกได้ให้คนรู้จักเป็นคนพูดคุยก่อน คนรู้จักพยายามบอกให้พ่อทูลยกเลิกข่าวทุกอย่าง เพราะสร้างผลกระทบ
ซึ่งระหว่างที่ทั้งคู่คุยกัน นางสาวรินกับพ่อทูลได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และสาเหตุที่เลิกรากัน นางสาวรินอ้างว่าต้นเหตุมาจากพ่อทูลชอบพูดจาด่าทอ ทำให้เสื่อมเสีย และยืนยันว่าไม่เคยมีคนอื่น ส่วนเงินที่อ้างว่าถูกหลอกไปก็ไม่มีอยู่จริง
นางสาวริน ระบุว่า เรื่องราวที่เกิดไม่ได้เป็นอย่างที่นายสันต์ทัศให้ข้อมูล ซึ่งสาเหตุที่เลิกรากันเพราะว่าตนถูกด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย นอกจากนี้ตนยืนยันว่า ไม่ได้มีการคบซ้อน และไม่ได้ไปหลอกลวง แต่ตนยอมรับว่าปัญหาเรื่องการเงิน เพราะแชร์ล้ม จึงต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้ ก่อนจะขอให้นายสันต์ทัศนำรถไปจำนำในฐานะสามีที่ต้องช่วยเหลือภรรยา และเงินที่ได้จากการจำนำรถบางส่วนนายสันต์ทัศก็เอาเงินไปจ่ายค่าหวย และค่าใช้จ่ายไปทำงานต่างประเทศ สำหรับเรื่องที่ตนจะต้องมาร่วมรับผิดชอบนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะตนก็ต้องรับผิดชอบเรื่องรถเก๋งที่สีขาวที่สามีไปไถ่ถอนมาให้
Advertisement