เพื่อนหมอกระต่ายวางดอกไม้อาลัยจุดมรณะ สื่อบุกทางข้ามเจอจัง ๆ รถจอดทับเส้น (คลิป)

กรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) ขี่รถบิ๊กไบก์ยี่ห้อ ดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1 กผ 9942 เชียงราย พุ่งชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

ล่าสุดวันที่ 24 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งในวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของหมอกระต่าย โดยพบว่ามีเพื่อนร่วมอาชีพนำดอกไม้หรือดอกเบญจมาศมาวางไว้ที่จุดเกิดเหตุ พร้อมกับเขียนข้อความว่า "Happy birthday K T เพื่อน ๆ ทุกคนรักแกนะ" 

นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัด กทม. นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ตนมองว่าหลักใหญ่ ๆ มาจาก 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ศักยภาพของพื้นที่เช่นสภาพถนน เช่น มี สัญญาณไฟชัดเจนหรือไม่ มีป้ายจราจรชัดหรือไม่ 2.ยานพาหนะที่ขับขี่อยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ พร้อมใช้งานหรือไม่ และ 3.พฤติกรรมคนขับขี่มีความประมาทหรือดื่มสุราหรือไม่

ดังนั้น กรุงเทพมหานคร ก็มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะต้องดูแลเรื่องของศักยภาพพื้นที่อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. เร่งสำรวจทุกจุดในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะจุดดังกล่าวอาจต้องมีป้ายเตือนเพิ่มเติม ทั้งจุดทางข้าม และก่อนถึงทางม้าลาย เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นมากขึ้น ส่วนการติดตั้งสัญญาณไฟจราจรข้ามถนนแบบกดปุ่ม อาจต้องหารือกับตำรวจจราจรว่า จะส่งผลต่อการจราจรหรือไม่ เพราะบริเวณดังกล่าวมีแยกไฟแดง

ในระหว่างนั้น จู่ ๆ ก็มีคนขับรถตู้ของโรงเรียนชื่อดังมาจอดทับทางม้าลาย แต่ไม่ได้ทับทั้งหมด และจอดอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง โดยไม่มีท่าทีที่จะขยับออกไป ทีมข่าวจึงเข้าไปสอบถามนายชาติ (นามสมมติ) คนขับรถตู้ว่ามีความจำเป็นอะไรถึงเลือกจอดรถในที่ห้ามจอด

นายชาติ ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้ตนพาบุคลากรครูมาฉีดวัคซีน แต่เมื่อเข้าไปส่งและวนรถถึง 2 รอบ เห็นที่จอดเยอะมาก แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้จอด เหมือนกักที่ไว้ ตนจึงไม่รู้ว่าจะไปจอดรถตรงไหนจึงมาจอดตรงนี้ และก็รอว่าเมื่อไรบุคลากรครูจะฉีดวัคซีนเสร็จ ถ้าฉีดเสร็จก็จะออกไปทันที

หากถามว่าถ้ามาอีกจะแก้ไขปัญหาอย่างไร หากไม่มีที่จอดรถ นายชาติ กล่าวว่า ตนไม่รู้เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมข้างในไม่ให้จอดรถ “กักที่ไว้ทำไม” ซึ่งหลังจากทีมข่าวพูดคุยเสร็จ นายชาติ ก็วนออกไปทันที นอกจากนี้ทีมข่าวสังเกตรถทุกคัน โดยเฉพาะฝั่งขาเข้าก็พบพฤติกรรมเช่นเดียวกัน คือ ระหว่างจอดติดไฟแดง จะจอดทับเส้นทางม้าลายแทบจะทุกคัน

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร หนึ่งในผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ดูทางม้าลายจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนเดินมาจาก BTS พญาไท พบกับนักศึกษาคนหนึ่งพูดว่า "ต้องระวังตัวเอง" ทำให้ตนรู้ทันทีว่า "เป็นความเสี่ยงจนเคยชิน" สุดท้ายรถชนคนก็จะบอกว่า "คุณไม่ระวังตัวเอง" สรุปแล้วปัญหานี้กลับถูกผลักมาที่ประชาชน แต่คนดูแลเมือง คนที่ดูแลประชาชน ทำให้ดีมากกว่านี้ไม่ได้ใช่หรือไม่ 

สำหรับตนมองเรื่องนี้ 2 ทางคือ 1.ต้องเห็นใจคนข้ามทางและคนขับขี่ เพราะจากความเห็นในโซเชียลฯ มีคนเห็นด้วยว่า "ติดสัญญาณไฟ" แต่คอมเมนต์กลับขัดแย้งว่า "ถ้าติดอย่างนี้ คนขับก็เสียเวลา" แต่ตนมองว่าจะติดหรือไม่ติดก็ไม่เสียเวลา ถ้าต่างคนก็ต่างรอ ขอให้ปลูกจิตสำนึก “เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกัน” ดังนั้น ตนมองว่าตามหลักวิศวกรการติดสัญญาณไฟคนข้ามจะทำให้สังคมน่าอยู่

“ส่วนการสร้างสะพายลอย ผมมองว่าเหมือนเป็นการยอมแพ้ อยากให้นึกถึงทุกคนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ว่าเขาต้องข้ามได้ด้วย หากออกแบบให้มีลิฟต์ขึ้นลง ก็เปลืองงบประมาณ และต้นทุนสูง ดังนั้น ต้องเกิดความปลอดภัยก่อน อย่าบีบให้คนหลบรถ ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นไฟล์สุดท้าย ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวด ให้ทุกคนใช้ ใช้หัวใจในการคิด แล้วจะเกิดค่านิยมใหม่” นายวิโรจน์ กล่าว 

สำหรับไทม์ไลน์อุบัติเหตุดังกล่าว (21 ม.ค.65) เวลา 15.20 น. ร้อยเวรของ สน.พญาไท รับแจ้งเหตุ จากนั้นเวลา 15.25 น. ตำรวจรุดไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บเป็นหญิงไม่ทราบชื่อ และทราบชื่อคนขับขี่บิ๊กไบก์ "ส.ต.ต.นรวิชญ์" เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้บาดเจ็บ ส่งรพ.ราชวิถี ขณะที่ส.ต.ต.นรวิชญ์ ร้องขอให้ส่งตัวไปรักษายัง รพ.ตำรวจ 

เวลา 15.55 น. ตำรวจกลับมาที่ สน.พญาไท เพื่อเช็กกล้องวงจรปิด และไปพบกล้องริมถนนมุมอับ มีเสาไฟบังจึงไม่เห็นเหตุการณ์ ก่อนจะทราบชื่อของผู้บาดเจ็บ "น.ส.วราลัคน์" จากนั้นเวลา 16.10 น. มีเพื่อนร่วมงานโทรศัพท์เข้ามาที่โทรศัพท์ของหมอกระต่าย แต่ยังไม่สามารถติดต่อญาติได้ 

กระทั่งเวลา 17.20 น. ชายไม่ทราบชื่อแจ้งว่าเป็นอาจารย์ของผู้บาดเจ็บ โทรศัพท์เข้ามาสอบถามและขอให้พนักงานสอบสวน ส่งภาพถ่ายสิ่งของของผู้บาดเจ็บ เพื่อยืนยันตัวตน ก่อนจะยืนยันว่าเป็นของลูกศิษย์จริง จากนั้นเวลา 17.45 น. ทราบว่าผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตแล้ว 

เวลา 17.52 น. พนักงานสอบสวน จึงได้มอบทรัพย์สินให้กับเพื่อน ๆ ของผู้เสียชีวิต เวลาต่อมา 19.20 น. ส.ต.ต.นรวิชญ์ ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ปริมาณเป็นศูนย์ จากนั้นตำรวจจึงเดินทางไปตรวจศพอีกครั้งที่รพ.ราชวิถี และส่งไปยังรพ.รามาธิบดี เพื่อชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง