คดี แตงโม วันที่ 7 มี.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด บนเส้นทางเทศบาลบางศรีเมือง-ถนนพระราม 5 ก่อนถึงปั๊มน้ำมันที่ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด เวลา 02.01น. ปรากฏว่านายปอ นายจ๊อบ นายโรเบิร์ต และแซน ได้มีการนัดรวมตัวกันที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว เพื่อที่จะหารือกันบางอย่าง โดยมีท่าทีเคร่งเครียด ช่วยกันโทรศัพท์เพื่อประสานงานหาใครบางคน โดยใช้เวลาอยู่ภายในปั๊มดังกล่าวประมาณ 38 นาที ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกัน
ตรวจสอบพบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ซึ่งเป็นกล้องของอู่เรือ NBC จับภาพในคืนวันที่ 25 ก.พ. 65 เวลาประมาณ 01.23 น. ได้มีรถสีขาว ทะเบียนกรุงเทพ ซึ่งเป็นรถที่ขับเข้ามาภายในอู่เรือ โดยมีคนขับขับเข้ามาให้
ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะจอด แซนได้ออกมายืนโบกรถให้ถอยหลังรถจอดสนิท สังเกตว่าฝั่งประตูขวาของรถได้มีผู้ชายใส่เสื้อสีดำ กางเกงขายาว เดินลงมาจากรถ และมุ่งหน้าเข้าไปที่อู่เรือ เบื้องต้นทราบว่าเป็นชายคนสนิทของแซน หลังจากที่ผู้ชายคนดังกล่าวเดินเข้าไปภายในอู่เรือแล้ว แซนก็ได้เดินตามหลังเข้าไป คนขับรถนำรถไปจอดเทียบที่ลานจอด โดยกล้องวงจรปิดตัวนี้จึงยืนยันชัดเจนเกี่ยวกับบุคคลที่ขึ้นรถและโรงรถพร้อมกับแซน ซึ่งเป็นชายที่มาพร้อมกับรถคันดังกล่าว
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ย้อนดูกล้องวงจรปิดของอู่เรือ NBC เพิ่มเติม สังเกตพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของกลุ่มนายปอ นายจ๊อบ นายโรเบิร์ต และแซน หลังจากที่อยู่พูดคุยกันภายในอู่เรือแล้ว มีลักษณะแยกย้ายกันขึ้นรถก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่ปั๊มน้ำมัน
เวลา 01.33 น. คนแรกที่เดินออกจากอู่เรือคือนายจ๊อบ มีการถือกระเป๋าสีดำ เดินไปที่ลานจอด เพื่อที่จะขึ้นรถยาริส สีบรอนซ์เงิน จากนั้นนายโรเบิร์ตเดินตามหลังไปขึ้นรถสีขาวที่จอดรออยู่ เวลาประมาณ 01.34 น. รถสีดำของนายปอซึ่งเป็นคนขับเอง ถอยออกมาจากอู่เรือด้านใน ซึ่งจะเห็นว่ามีการลดกระจกและมีกล้องจับภาพได้ชัดเจน
และเวลาเดียวกันหลังจากที่นายปอถอยรถออกมาจากอู่เรือ จะมีแซน และผู้ชายใส่เสื้อดำ เป็นชายคนสนิทของแซน เดินถือกระเป๋าตามหลัง ซึ่งมีกระติกเดินตามมาด้วยเพื่อส่งขึ้นรถ จากนั้นแซนและผู้ชายคนสนิทที่ใส่เสื้อดำก็เดินไปขึ้นรถเอาสีขาวที่จอดรอขับออกไปเป็นคันสุดท้าย ส่วนกระติกยังเดินย้อนกลับไปพูดคุยต่อกับโบว์ TK และแฟนโบว์ TK ออกจากอู่เรือเป็นกลุ่มสุดท้าย เวลาประมาณ 02.53 น.
ทีมข่าวย้อนกลับไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณทางเข้าออกของอู่เรือ NBC Boat Club ซึ่งช่วงเวลาประมาณ 01.40 น. มีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขบวนรถของกลุ่มแก๊งบนเรือ ขับออกมาจากอู่เรือ ซึ่งลักษณะขับตามกัน โดยมีรถของเพื่อนสนิทของแตงโม นำโดยฮิปโป เป็นรถฟอร์จูนเนอร์สีขาว ซึ่งมีเพื่อนนั่งอยู่ด้วยกันรวมประมาณ 4 คน ขับออกมาเป็นคันแรก แต่มีการเลี้ยวผิดทางมุ่งหน้าไปที่ท่าน้ำ
จากนั้น ได้มีขบวนรถของกลุ่มแก๊งบนเรือ รวม 4 คัน มีรถของนายปอสีดำขับนำ ตามด้วยรถสีบรอนซ์เงิน ซึ่งมีนายจ๊อบเป็นคนขับตาม มีรถของนายโรเบิร์ต เป็นรถสีขาวขับตามเป็นคันที่ 3 ปิดท้ายรถคันสุดท้ายมีรถสีขาวของแซน ขับออกมาตามหลังสุด
ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเทศบาลเมืองบางศรีเมือง-พระราม 5 ก่อนถึงปั๊มน้ำมันที่มีการนัดหมายเจอกัน โดยห่างจากอู่เรือ NBC ประมาณ 5 กิโลเมตร กล้องวงจรปิดระหว่างทาง ยังสังเกตว่ากลุ่มรถของแก๊งบนเรือยังคงขับตามกัน โดยมีนายปอเป็นคนขับนำ พากันมุ่งหน้าไปที่ปั๊มน้ำมัน
จากประเด็นข้อสงสัย กรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของปั๊มน้ำมัน ที่ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีนำเสนอเกี่ยวกับบุคคลปริศนา คาดว่าเป็นคนนอก เข้ามาร่วมวงในการเสวนาภายในปั๊มน้ำมัน เป็นลักษณะชายใส่เสื้อสีดำกางเกงขายาวสีดำ มานั่งอยู่ใกล้กับรถยาลีส สีบรอนซ์เงินของนายจ๊อบนั้น
ตรวจสอบอย่างละเอียดจากกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมัน หากมีการสโลภาพและดูจากการเดินมานั่งบริเวณตำแหน่งดังกล่าว พบผู้ชายใส่เสื้อสีดำจะลงมาจากรถสีขาว คันเดียวกันกับแซนที่เข้ามาจอดเทียบเป็นคันสุดท้าย
ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม บริเวณริมถนนพระราม 5 ซึ่งเป็นกล้องจุดสุดท้ายที่รับจากหน้าปั๊มน้ำมันที่มีการนัดหมายคุยกัน โดยกล้องวงจรปิดตัวดังกล่าวจะอยู่ทางคู่ขนานออกมาจากปั๊มน้ำมัน โดยจุดนี้หากมีรถบางคันยูเทิร์นกลับ จะใช้ถนนเลนในเพื่อไปยูเทิร์นใต้สะพาน แต่ถ้าหากเบี่ยงขวาเพื่อเข้าสู่ทางหลัก จะมุ่งหน้าไปที่สะพานพระราม 5 และสามารถที่จะย้อนกลับไปท่าเรือพิบูลสงคราม หรือใช้เส้นทางหลักเพื่อเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพิกัดบ้านของแต่ละคนได้
โดยกล้องวงจรปิดตัว จับภาพในคืนวันที่ 25 ก.พ. เวลาประมาณ 03.01 น. เวลาไม่ตรงกับปั๊มน้ำมัน โดยจะเห็นรถของนายปอ ซึ่งเป็นสีดำขับนำ และเบี่ยงขวาเพื่อใช้เส้นทางหลักมุ่งหน้าไปที่สะพานพระราม 5 ตามด้วยรถสีบรอนซ์เงินของนายจ๊อบขับตาม และทิ้งห่างไม่นานเห็นรถสีขาวของนายโรเบิร์ตขับตามไป ประมาณ 40-50 วินาที รถของแซนปิดท้าย ทั้งหมดใช้เส้นทางเบี่ยงขวาเข้าสู่ถนนสายหลักข้ามสะพานไปที่พระราม 5
จากภาพกล้องวงจรปิดภายในอู่เรือ และบริเวณทางเข้าของอู่เรือ จับภาพรถแกร็บคาร์ ซึ่งเป็นรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน ชลบุรีที่มีการจอดรับ "กระติก" และ "โรเบิร์ต" บริเวณปากซอยทางเข้าท่าเรือพิบูลสงคราม พบว่าได้มีการขับเข้ามาที่อู่เรือดังกล่าวจริง และเมื่อมาถึงรถได้มีการจอดให้ทั้งคู่ลง เมื่อทั้งคู่ลงจากรถแล้วได้เดินตามหาคนขับรถตู้สีขาวที่จอดรออยู่ ได้ขึ้นไปนั่งอยู่ในรถตู้สีขาว บริเวณด้านหน้าโกดังของอู่เรือ
ซึ่งในขณะนั้นยังเห็นว่ารถของแตงโมยังจอดอยู่ที่เดิม ซึ่งนั่งอยู่ในรถตั้งแต่ 00.54-01.10 น. จึงจะลงจากรถ จากนั้นรถยาริสสีขาวที่ขับเข้ามาส่งกระติกและโรเบิร์ตแล้ว ก็ได้ขับออกจากอู่ทันทีไม่ได้มีการจอด
วันที่ 7 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้ครอบครองรถยนต์ โตโยต้า ยาริส สีขาว คือ นายนิรุตน์ น้อยกาญจนะ มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จ.เชียงราย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางทาพบกับนายนิรุตน์ น้อยกาญจนะ อายุ 44 ปี เจ้าของรถยนต์ โตโยต้า ยาริส สีขาว บอกว่า ในคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ตนทำธุระอยู่ที่สตูดิโอย่านจรัญสนิทวงศ์ เมื่อทำธุระเสร็จในเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ตนก็ได้ขับรถเดินทางกลับบ้านพัก โดยตนได้เปิดระบบแกร็บเพื่อรับลูกค้าไปด้วย ซึ่งเมื่อตนขับรถมาถึงสะพานพระราม 7 ระบบก็แจ้งเตือนว่ามีลูกค้าเรียกไป NBC BOAT CLUB อู่จอดเรือ ตนจึงขับรถไปรับลูกค้าหน้าซอยพิบูลสงคราม 1
โดยตนขับรถมาถึงจุดรับในเวลา 00.46 น. กระติกเรียกแกร็บก่อนเวลา 00.46 น. แต่รถมาจอดรับในเวลา 00.46 น. คนขับจำเวลาที่กระติกเรียกไม่ได้ แต่คาดว่าไม่เกิน 5 นาทีก่อนหน้า จากนั้นชายหญิงรวม 2 คน ก็ได้เดินขึ้นมาบนรถด้วยท่าทีเร่งรีบ โดยผู้หญิงเป็นคนขึ้นมาก่อน แล้วเข้ามานั่งหลังคนขับ ส่วนผู้ชายขึ้นทีหลัง โดยนั่งด้านหลังเช่นกัน ซึ่งหากจะให้ระบุความเร่งรีบของชายหญิงคู่นี้ เต็ม 10 ตนให้ระดับอยู่ที่ 7 เนื่องจากหากลูกค้าเร่งรีบจริง ๆ ลูกค้าจะโทรศัพท์ตามคนขับ และไม่รอให้รถจอดสนิท ลูกค้าก็จะเดินเข้ามาใกล้รถเอง แต่ในกรณีชายหญิงคู่นี้ทั้งคู่ไม่โทรศัพท์ตามคนขับ และรอให้รถจอดสนิทก่อน จึงจะก้าวขึ้นรถด้วยท่าทีและสีหน้าที่เร่งรีบ
ทั้งนี้ ตนในฐานะคนขับรถให้บริการได้รับการอบรมจากแกร็บมาว่าอย่ามองลูกค้าผ่านกระจกหลัง และอย่าสนใจเรื่องส่วนตัวของลูกค้า ตนจึงเปิดเพลงเบา ๆ ตลอดการเดินทาง แต่เมื่อขับรถออกมาได้สักระยะ ตนได้ยินเสียงผู้ชายกดโทรศัพท์คล้ายพิมพ์ข้อความและกดเบอร์โทรศัพท์คล้ายจะพูดคุยกับใครอยู่ตลอดเวลา จากนั้นผู้หญิงก็ได้ตะคอกใส่ผู้ชายว่า "จะรีบโทรทำไม ทำไมไม่ไปให้ถึงก่อนแล้วค่อยโทร" จากนั้นทั้ง 2 คนก็พูดงึมงำกันตลอดทาง แต่ตนฟังไม่ได้ยินและจับใจความการสนทนาไม่ได้
ตนขับรถมาถึงจุดหมาย NBC BOAT CLUB ทำให้ชายหญิงคู่นี้หยุดถกเถียงกัน แต่ผู้หญิงได้บอกให้ตนขับไปลานจอดของอู่เรือ เนื่องจากตนขับมาอีกด้านหนึ่งของอู่ท่าน้ำ ซึ่งไม่ใช่ลานจอดรถ ฝ่ายหญิงพูดว่า "พี่คะ พี่ช่วยวนรถให้หน่อย มันไม่ใช่ตรงนี้ มันเป็นซอยตรงโน้นข้างหลังค่ะ" ตนจึงวนรถไปส่งชายหญิงคู่ดังกล่าวที่ลานจอดรถ โดยส่งถึงจุดหมายในเวลา 01.03 น. ทันทีที่ตนจอดรถ ผู้ชายก็ได้ลงจากรถในทันที พร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาใครบางคน ส่วนฝ่ายหญิงก็ได้โอนเงินค่ารถให้ตนจำนวน 114 บาท รวมระยะทางการเดินทาง 6.95 กิโลเมตร จากนั้นก็ได้เดินลงจากรถไป ส่วนตนก็ขับรถกลับออกมาทันที
จากนั้นตนก็ได้เห็นข่าวของแตงโมตกเรือ ซึ่งตนยังไม่ได้เอะใจว่าชายหญิงซึ่งโดยสารรถของตนมานั้นจะเป็นเพื่อนของนักแสดงสาว จนกระทั่งในวันที่ 5 มีนาคม เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อและขอให้ตนเข้าให้ปากคำในเวลา 20.00-23.00 น. ตนจึงเอะใจแล้วนึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงที่โดยสารรถของตนนั้นคือกระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โดยเสื้อผ้าที่ใส่ขึ้นรถของตนนั้นก็เป็นชุดเดียวกันกับชุดที่กระติกถ่ายรูปบนเรือลำที่เกิดเหตุ เพียงขณะขึ้นรถกระติกใส่เสื้อคลุม อย่างไรก็ตาม ตนก็ขอให้ความจริงในคดีแตงโมนั้นปรากฎออกมา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับแตงโม
นางอรพิณ น้อยกาญจนะ หรือ ยายนำ อายุ 82 ปี แม่ของนายนิรุตน์ เจ้าตัวยอมรับว่ารถคันในคลิปวงจรปิดเป็นรถของลูกชายจริง เป็นรถมือ 1 ที่ซื้อในพื้นที่ จ.ชลบุรี เมื่อหลายปีแล้ว แต่เดิมทีลูกชายทำอาชีพนักดนตรีให้กับร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ กทม. และ จ.ชลบุรี ต่อมาเมื่อมีสถานการณ์โควิด-19 ช่วงปี 2562 ร้านอาหารปิดตัว จึงปรับเปลี่ยนนำรถคันดังกล่าวมาใช้ขับแกร็บคาร์ในพื้นที่ กทม. จนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาตัวเองติดตามข่าวการเสียชีวิตของดาราสาวมาตั้งแต่ต้น เพราะในอดีตเคยดูละครของแตงโมมาตั้งแต่ยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ เป็นวัยรุ่น ตอนนั้นชอบมากเพราะเป็นดาราคนหนึ่งที่สวย น่าจดจำ แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เธอหายไปจากหน้าจอ จึงไม่ค่อยได้อัปเดต จนมีข่าวว่าพลัดตกเรือและเสียชีวิต จึงได้กลับมาติดตามอีกครั้งหนึ่ง
กระทั่งเมื่อช่วงตี 4 ของวันที่ 6 มีนาคม 2565 ลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเรียกเข้าไปสอบปากคำในฐานะพยาน ตั้งแต่เวลา 20.00-23.00 น. ของวันที่ 5 มีนาคม 2565 เพราะช่วงรอยต่อของวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2565 หลังแตงโมพลัดตกเรือ มีบุคคลบนเรือเรียกบริการแกร็บคาร์ผ่านแอปฯ ได้ให้ไปรับที่บริเวณปากซอยถนนพิบูลสงคราม 1 แต่ลูกชายไม่ได้บอกว่าเขาให้ไปส่งที่ไหน
โดยลูกชายบอกกับตนว่า หากมีข่าวแล้วปรากฏรถของตัวเองอยู่ในข่าวก็ไม่ต้องตกใจ เพราะคนขับคือเขาเองและเจ้าหน้าที่ก็ได้เรียกไปสอบปากคำแล้ว ซึ่งลูกชายบอกว่าได้ตอบไปตามความจริง เนื่องจากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้รู้เห็นอะไร ไม่ได้รู้จักส่วนตัวกับทั้ง 2 คนบนเรือที่เรียกบริการแกร็บคาร์หรือคนอื่นบนเรือ ตอนที่ลูกชายโทรมาบอกตน ลูกชายก็ไม่ได้มีน้ำเสียงที่ฟังแล้วจะเป็นกังวลหรือเครียด ทุกอย่างปกติมาก แค่เป็นการโทรมาบอกให้ตนทราบก่อนล่วงหน้าเท่านั้น แต่ตนก็เครียดและกังวลใจอยู่ดี เพราะตลอดชีวิต 82 ปี มีลูก 3 คน ไม่เคยมีใครต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องคดีความสักคน จึงกลัวว่าหากเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากลเหมือนกับที่กระแสโซเชียลเขาพูดกัน หวั่นว่าลูกชายจะได้รับผลกระทบ แต่ใจหนึ่งก็มั่นใจว่าลูกชายไม่เกี่ยวข้องและบริสุทธิ์ใจจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รองผบช.ภ.1 เผย มีคนบนเรืออัพยาจริง เช็กมือถือ ปอ พบโทรหาผู้ใหญ่ระดับบิ๊ก ส่วนคดีคงไม่พลิกจาก อุบัติเหตุ
- ลุงพล ผู้ต้องหาคดีน้องชมพู่ โผล่แนะ คดีแตงโม ตร.ต้องทำงานรัดกุม จะได้ไม่มี "แพะ"
- ทนายตั้ม ผิดหวัง พี่ชายแตงโม ถอนตัวตามคดีน้องสาว หลังแม่เครียดจัดความดันขึ้น
Advertisement