ตองลั่นไม่หน้าด้านขอรับผิด สุดงงกาโตะคนแห่กรี๊ดเจอยิ้มหวาน “ไพรวัลย์” ฉะพวกแอ๊บแบ๊วได้กับพระ (คลิป)

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 65 เฟซบุ๊กแฟนเพจทีวีพูล TVPool มีอุ๊บ วิริยะ และใบตอง หรือ สีกาตอง ที่เป็นข่าวโด่งดังหลังมีสัมพันธ์กับอดีตพระกาโตะ พระนักเทศน์ชื่อดัง เปิดใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดหน้าชัดเจน

น.ส.ตอง เปิดใจกระแสดราม่าในโซเชียลว่า ตนไม่ค่อยได้อ่านข่าวหรือคอมเมนต์ในโซเชียลเยอะ เพราะกลัวจะเครียด ตนก็ทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องขอโทษสังคมอีกครั้งที่ทำให้เกิดเรื่องราว ทำให้หลายฝ่ายมีผลกระทบ พร้อมย้อนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าขณะนั้นไม่มีสติ ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ รู้ว่าผิดทั้งคู่ ยอมรับผิดและไม่อยากให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้ รู้สึกว่าถ้าตนไม่พูดก็จะยิ่งเป็นตราบาปในใจ แต่ถ้าพูดไปแล้วเจอกระแสดราม่าแบบนี้ก็พร้อมจะน้อมรับ

น.ส.ตอง ย้ำว่าตนไม่ได้หน้าด้าน แต่ที่กล้าออกมาเปิดหน้า กล้าออกมาพูด เพราะเป็นความตั้งใจที่อยากให้ทุกคนเข้าใจ และอยากให้ทุกคนเห็นอีกมุมว่าที่เกิดขึ้นมีจริง ส่วนใครจะมองว่าหน้าไม่อาย ก็ต้องขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไป ส่วนที่สังคมตั้งคำถามว่าไม่รู้มาก่อนเหรอว่าพระกับผู้หญิงมันเข้าใกล้กันไม่ได้อยู่แล้ว ตนยอมรับว่าตนรู้สึก แต่ถ้าจะให้เก็บเงียบ ตนก็จะยิ่งเป็นทุกข์มากกว่า ก็เลยยังยืนยันว่าหากต้องใช้ชีวิตต่อไป ก็อย่าไปทำผิดอีก อย่าไปทำบาปอีก ถือว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียน ส่วนพระย้อยยืนยันว่าไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว

สำหรับครอบครัวหลังเกิดเรื่องราวก็มีการให้กำลังใจกัน ครอบครัวเข้าใจตนอยากให้ทุกอย่างมาลงที่ตน อย่าไปโทษครอบครัวหรืออย่าไปโทษใครที่มีความเกี่ยวข้องกับตน ขอให้มาโทษตนเพราะเป็นความคิดของตนคนเดียว มันเป็นการตัดสินใจของตนคนเดียว ก่อนหน้านี้ตนได้มีการทำช่องยูทูบในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา พอเกิดเรื่องราวขึ้นก็ได้รับกระแสค่อนข้างหนักจนต้องหยุดไว้ก่อน ส่วนตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะทำไรต่อ แค่น้อมรับทุกความคิด ทุกการตัดสินใจของสังคม และตอนนี้อยากพัก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้ตนเหนื่อยมาก อยากเดินสายทำบุญ

การออกมาพูดครั้งนี้ไม่ได้แก้ตัว ต่อให้ถาม 10 ครั้ง ก็พูดได้ 10 ครั้ง เพราะมันเป็นความจริง ที่ออกมาพูดวันนี้ ก็คิดว่ามีทั้งคนเข้าใจ และไม่เข้าใจ ส่วนอาการป่วยไบโพลาร์เป็นมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 64 แล้ว จึงกลับไปรักษาตัวที่บ้าน กลับไปให้ธรรมชาติบำบัด ซึ่งยอมรับว่าอาการที่เป็นหนักจริง หนักที่สุดในชีวิต ตอนนี่้ยังต้องรับประทานยาอยู่เรื่อย ๆ ตนก็ไม่อยากเอาอาการป่วยมาอ้างกับการกระทำที่เกิดขึ้น ตนก็อยากทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าทุกคนมองว่าความถูกต้องมันคือความหน้าด้าน ตนว่าสังคมควรจะพิจารณา ถ้ามีคนเงียบทั้งประเทศ แล้วสังคมจะอยู่กันอย่างไร

สำหรับเรื่องเงิน 300,000 บาท ตนและอดีตพระเราเคยคุยกันว่าเราป่วยต้องรักษากับหมอ 3 ที่ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่เดือนละ 10,000 บาท และเราไปปรึกษาคนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวยาในการรักษา และเขาเป็นคนให้ข้อมูลกับทางอดีตพระว่าหากตนต้องรักษาจริงจังเพื่อให้หาย ต้องใช้เงินประมาณ 3-5 แสนบาท ทางอดีตพระจึงรับปากมาว่าจะช่วยค่ารักษา คือบทสนทนาที่คุยกัน ตนไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเขา

หลังจากที่ "อดีตพระกาโตะ" สึกออกมาใช้ชีวิตตามปกติ กลายเป็นที่จับตามองของคนในสังคม มีคนไปเจอตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ จ.สงขลา ซึ่งบรรยากาศภายในคลิปดูมีความสุขที่ได้ถ่ายภาพกับแฟนคลับ และให้กำลังใจกัน

หลังจากที่ อดีตพระกาโตะ ได้สึกออกมาใช้ชีวิตตามปกติเพียงไม่กี่วันก็กลายเป็นที่จับตามองของคนในสังคมอย่างหนัก หลาย ๆ คนได้บังเอิญเจอตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงได้มีการปล่อยคลิปขณะที่เจอ อดีตพระกาโตะ ออกมาด้วย
ซึ่งบรรยากาศภายในคลิปดูสบาย ๆ มีแม่ยก แฟนคลับแห่เข้าไปขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก มีการพูดคุยต่าง ๆ โอบเอว ใกล้ชิดสุด ๆ และให้กำลังใจ ซึ่งงานนี้โลกโซเชียลแห่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าการกระทำเช่นนี้เหมาะสมแล้วหรือไม่ เพราะเหตุที่ทำให้ต้องสึกนั้นก็คือการประพฤติตนที่ไม่เหมาะสมขณะบวช

เฟซบุ๊ก "วัน อยู่บำรุง" ระบุข้อความว่า "อย่าสนับสนุนคนชั่ว หยุดเชิดชูคนจัญไร เป็นเน็ตไอดอล!!!!"

ด้าน "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" อดีตพระ ไลฟ์กล่าวกรณีอดีตพระกาโตะกับสีกาใบตอง โดยระบุว่าข่าวพระผู้ใหญ่เสนอเรียกเงินจากกาโตะ 300,000 บาท อ้างว่าจะไปเคลียร์นักข่าวเพื่อเรื่องจะได้จบว่าต้องตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด อย่าปล่อยพระที่ทำผิดไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนอดีตพระกาโตะ บวชแค่ 2 ปีกว่ายังมีเงินไปวิ่งเต้นหลายแสนบาท พระผู้ใหญ่ไม่ต้องพูดถึง ทำผิดก็ช่วยกัน ให้มันเงียบ สำนักพุทธไม่เห็นทำอะไร ถ้าสำนักพุทธฯ ยังไม่ทำอะไร ก็ควรตั้งหมอปลาให้เป็น ผอ.สำนักพุทธศาสนาดีกว่า เพราะมีผลงานโดดเด่น

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นและทำให้วงการสงฆ์ฉาวขณะนี้ เพราะมีพระส่วนหนึ่งยังมีพฤติกรรมคล้ายกับอดีตพระกาโตะ คือผ้าเหลืองก็อยากครอง กีน้องก็อยากได้ ซึ่งพระจะเอาทั้งสองอย่างไม่ได้ ไม่ถูกต้อง เพราะเลือกอันใดอันหนึ่ง ต้องชัดเจน ถ้าจะเอาผ้าเหลือง ต้องตัดเรื่องกามไป ถ้าตัดไม่ได้ ยังอยากเสพกามก็ต้องคืนผ้าเหลืองไป แล้วมาเป็นสามีชาวบ้าน

สำหรับผู้หญิงจะไปสองต่อสองต่อสองกับพระก็ไม่ควรทำในที่ลับหูลับตา ไม่ว่าจะบนรถ บนห้อง ในรีสอร์ต เป็นไปไม่ได้ว่าจะไม่รู้ว่า ทำแบบนี้ไม่ถูก สีกาตองเข้าวัดทุกวัน จะไม่รู้ได้อย่างไรอายุ 37 แล้ว

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สงขลา ก่อนหน้านี้มีคนถ่ายคลิป อดีตพระกาโตะ มาที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว โพสต์ลงทางโลกออนไลน์ และมีคนแชร์ รวมทั้งเข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก

แม่ค้าในพื้นที่เปิดเผยว่า เมื่อวานเวลาประมาณ 15.00 น. อดีตพระกาโตะ เข้ามาที่ปั๊มน้ำมัน ใช้เวลาไม่นาน เดินมาเข้าห้องน้ำ แล้วทางชาวบ้านก็เข้าไปขอถ่ายรูปคู่ เพราะจำได้ว่าเป็นอดีตพระกาโตะในข่าว ก่อนที่อดีตพระกาโตะ จะกลับออกไปจากปั๊ม โดยใช้เวลาไม่นาน

แม่บ้านในปั๊มน้ำมัน เปิดใจว่า อดีตพระกาโตะ คุยดี พูดจาดี เดินไปไหนก็ยิ้ม แถมยังทักบอกว่า “คุณแม่ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ” ขณะเดียวกัน ด้านแม่ค้าที่เห็น ก็รีบเข้ามาขอถ่ายรูปคู่ และขอกอดระหว่างนั้น สังเกตว่าอดีตพระกาโตะ สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีความกังวลอะไร

ยอมรับว่า ไม่ได้คิดเริ่องที่ผ่านมา เพราะเป็นคนเหมือนกัน ทุกคนก็เคยทำผิด คนที่เข้ามาถ่ายรูป ก็ไม่มีใครด่าหรือว่า และรังเกียจอะไร ทุกคนที่เจอต่างให้กำลังใจ ขอถ่ายรูป ส่วนอดีตพระกาโตะ ก็ยกมือไหว้ และอยู่ที่ปั๊มน้ำมันได้ประมาณ 30 นาที ส่วนเรื่องที่กำลังเป็นข่าวตนเองก็ไม่รู้ข้อเท็จจริง สาเหตุหรือต้นเหตุเป็นแบบไหน เหตุเกิดเพราะอะไรก็จะไปวิจารณ์ไม่ได้ อยากบอกว่าคนเรามีทั้งคนที่รัก และคนที่ไม่รัก แต่ส่วนตัวไม่ได้ถ่ายรูปด้วย เพราะคนขอถ่ายรูปกันเยอะ

เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ระบุข้อความว่า "สรุปไม่มีเรื่องไหนจริงสักเรื่อง ตอนแรกบอกว่าไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิง แต่ถูกผู้หญิง blackmail บอกต่อว่า ผู้หญิงป่วย และผู้หญิงออกมารับผิดว่ากุเรื่องขึ้น ความจริงก็คือ ตัวเองมีอะไรกับผู้หญิงจริงๆ ที่สันเขื่อน ต่อมาบอกมา เงินที่อุดปากผู้หญิงกับสื่อจำนวน 6 แสนบาท เป็นน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ได้มาจากการเทศน์และมีแฟนคลับบริจาคให้ ความจริงก็คือ ตัวเองยืมเงินส่วนกลางของวัดเอามาจ่ายเป็นค่าไถ่ นี่โกหกต่อเนื่องและอย่างหน้าด้านๆ แต่ยังมีแฟนคลับเหนียวแน่น ยังตะโกนบอกให้ สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ โดยเฉพาะแฟนคลับผู้หญิง เออ เอาสิ ถึงชั่ว กูก็รัก"

"สังคมคนบ้า อีกาโตะออกไปเดินตามถนน ชาวบ้านร้องกรี๊ด ขอถ่ายรูปด้วย"

แห่แชร์ "คำผกา" ชี้พระผิด แต่ศาสนาพุทธไม่ได้เสื่อม ในโลกโซเชียลมีการแชร์คำสัมภาษณ์ "เจ้แขก คำผกา" เกี่ยวกับสถานการณ์
พระพุทธศาสนาและข่าวพระกาโตะ ระบุว่า คำสอนพระพุทธศานาเป็นปรัชญาก็อยู่เช่นนั้น ใครจะอ่าน ตีความ หรือวิจารณ์ก็เป็นเช่นนั้น กรณีที่เกิดขึ้นเป็นนักบวช เป็นการดูแลใครดูแลมันตามวัด ตามนิกาย หากมีการกระทำผิดก็ต้องดำเนินคดีทางกฎหมาย

ตนมองว่าไม่ได้ทำให้พุทธศานาแปดเปื้อน มันมีประวัติศาสตร์ของมัน พระไทยชั่วไม่ได้จะทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมลง พุทธไม่ได้มีแค่ที่ไทย มีหลากหลายนิกาย หากที่ทำผิด พุทธไม่เสื่อม แต่สังคมในไทยที่จะเสื่อม เพราะเอาตัวเองมาผูกติดกับความเป็นพระ