วันที่ 10 พ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ติดตามบรรยากาศหลังจาก ศาลจังหวัดภูเขียวให้ประกันตัว นายทวี หรือ พระบิดา ออกมาแล้วจะเดินทางกลับมาที่สำนักอีกหรือไม่ โดยมีหมอปลาเฝ้าเกาะติดอยู่ที่สำนักฯ แต่ตลอดทั้งวันยังไม่พบพระบิดาเดินทางกลับมา
ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเกิดของนายทวี หรือ โจเซฟ พระบิดา ที่บ้านในหมู่ 1 ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ยังไม่พบว่านายทวีเดินทางกลับมาที่บ้านหลังได้ประกันตัว นางอัมพร หนันลา อายุ 58 ปี น้องสะใภ้ของนายทวี บอกว่า เมื่อวานนี้ตนเองกับสามีคือ นายทองทิพย์ ที่เป็นน้องชายคนเล็กของนายทวีกลับมาจากโรงพัก ถึงบ้านในช่วงเย็น ไม่ได้รอรับนายทวี เนื่องจากนายทวีมีความประสงค์ที่จะไปอยู่กับลูกศิษย์ ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน บอกแต่ว่าไปไกลแล้ว และจะไม่กลับมาในพื้นที่อีก
เมื่อวานนี้ตนเองและสามี ได้มีโอกาสไปเยี่ยม นายทวี ก่อนจะออกจากคุก นายทวี ไม่ได้มีความกังวลอะไร ถามอะไรก็เอาแต่หัวเราะ บอกแต่ว่าจะไม่มีทาง เดินถอยหลัง และจะเดินหน้าทำลัทธิต่อไป เรื่องบุกรุกป่า นายทวี ยืนยันว่า ตอนบวชเป็นพระ อดีตผู้ใหญ่บ้านคนเก่า ที่ชื่อจำปา เป็นคนเชิญ นายทวี มาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
โดยบอกว่าจะจัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ให้ ซึ่งตอนที่นายทวีไปอยู่ใหม่ ๆ มีพระเข้าไปปฏิบัติธรรมในที่ป่า 9 รูปกับสามเณรอีก 2 รูป กระทั่ง นายทวี สละผ้าเหลืองตั้งตัวเป็นฤๅษี อ้างว่าหากยังบวชเป็นพระอยู่ก็ต้องออกเดินบิณฑบาต ขอข้าวเช้าบ้านกิน ส่วนตากาที่บอกว่าเป็นอาจารย์ของนายทวี จริงแล้วเป็นพระสงฆ์ที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ป่า และเข้าไปปฏิบัติธรรมพร้อมกับนายทวี ที่นายทวีเรียกตากาว่าอาจารย์ เนื่องจากตากามีอายุมากกว่าเท่านั้น
สำหรับศพคุณแม่วัล เมื่อช่วงเช้าได้มีโอกาสไปคุยปรึกษากับพี่ชายคนโตของนายทวี คนในครอบครัวลงความเห็นว่าหลังจากชันสูตรศพเสร็จจะนำศพคุณแม่วัล กลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ยืนยันว่าทางครอบครัวไม่เคยเชื่อเรื่องกินฉี่กินขี้ไคลของนายทวี ที่ต้องไปที่ลัทธิก็เป็นการไปเยี่ยมตามภาษาญาติที่ไปมาหาสู่กัน
อย่างไรก็ตาม หากนายทวีจะกลับมาอยู่ที่บ้าน ทางครอบครัวยินดีต้อนรับ และจะช่วยกันดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งนายทวีหากกลับมาอยู่ที่บ้าน เลิกเป็นฤๅษี นายทวีก็ไม่ได้ลำบากอะไร เนื่องจากมีที่ดินทำกิน ที่คุณแม่วัลแบ่งไว้ให้ โดยที่กินดังกล่าวของนายทวีมี 18 ไร่ ตอนนี้ให้ชาวบ้านเช่าปลูกข้าวอยู่
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่วันนี้ได้เดินทางนำหมายค้นเข้าค้นหลายจุดรอบสำนักเพิ่มเติม ยังไปพบกับกระดูกช้าง หัวเลียงผาดอง ซึ่งครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเรื่องการรุกพื้นที่อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังพบเขากวาง รวมถึงไม้พะยูงที่แปรรูปแล้วจำนวนมาก ซึ่งถูกซุกซ่อนอยู่ในสำนักอีกด้วย โดยทั้งหมดเจ้าหน้าที่จะเก็บรวบรวมเป็นหลักฐาน และแจ้งข้อหากับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายบุญตัน หนันลา อายุ 77 ปี พี่ชายคนโตของนายทวี บอกว่า ตั้งแต่น้องชายออกมาจากคุก ยังไม่ได้เดินทางกลับมาที่บ้านหรือติดต่อมากับตนเอง รู้แต่ว่าไปอยู่กับลูกศิษย์ แต่ก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน เมื่อเช้านี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนในครอบครัวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยลงความเห็นกันว่าจะนำศพแม่ กลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้น้องชายเลิกเป็นฤๅษีแล้วกลับมาใช้ชีวิตที่บ้าน ทางบ้านยินดีที่จะดูแล แต่ต้องเลิกพฤติกรรมเป็นผู้วิเศษ แสดงตัวเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์หลวงลวงคน
สำหรับคำพูดของน้องชายที่ว่าจะเดินหน้าตั้งลัทธิต่อโดยไม่ยอมถอยหลังนั้น ยอมรับว่าสิ่งที่น้องชายพูดเป็นตัวตนที่แท้จริงของน้องชาย ที่เป็นคนทะนงตัว หยิ่งในศักดิ์ศรีตัวเองตั้งแต่เด็ก ที่ผ่านมาไม่เคยปักข้าวสักกอให้ครอบครัวกิน ไม่เคยช่วยพ่อแม่ทำนาหรือทำประโยชน์อะไรให้กับครอบครัว เป็นคนขยันแต่เอาตัวเองรอดเพียงคนเดียว ตอนบวชเป็นพระมีชื่อมีเสียงโด่งดังมีลูกศิษย์ทั้งนายตำรวจนายทหารเต็มวัด แต่ไม่เคยเอาเงินมาให้ครอบครัว มีแต่ให้คนอื่นยืมเป็นแสนเป็นล้าน โดนโกงไปก็เยอะ ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ไม่เคยช่วยเหลือครอบครัว
ถึงตอนนี้ยังขอยืนยันคำเดิมว่าน้องชาย หรือที่เรียกกันว่า "พระบิดา" ไม่มีอิทธิฤทธิ์ หรือเป็นผู้วิเศษ เอาง่าย ๆ ถ้าหากน้องชายมีอิทธิฤทธิ์ ทำไมเมื่อวานนี้น้องชายถึงไม่หายตัวออกจากมาห้องขัง ทำไมต้องให้ญาติหาเงินไปประกันตัว เรื่องกินฉี่กินขี้ไคล อยากจะบอกสาวกให้เลิกงมงายได้แล้ว หากฉี่ขี้ไคลรักษาโรคได้จริง ๆ คนไทยก็คงจะไม่ต้องไปต่อคิวรักษากันที่โรงพยาบาล ถ้าหากน้องชายฟังอยู่ ขอพูดสั้น ๆ ให้คิดแค่ว่า "เฒ่าแล้ว จะทำอะไรต่อ ให้คิดหน้าคิดหลังให้ดี สิ่งที่ทำไปทั้งหมดผิดหรือถูกพิจารณาตัวเองว่าอนาคตจะเอายังไงต่อไป"
หลังจากศาลจังหวัดภูเขียวให้ประกันตัวฤๅษีเจ้าสำนัก หรือ พระบิดา พร้อมวงเงินประกัน 50,000 บาท ตำรวจเตรียมพิจารณาแจ้งข้อหาอื่นอีกนั้น
โดยคนที่นำเงินวางประกันตัวคือ นายทองทิพย์ หนันลา อายุ 62 ปี น้องชายของพระบิดา เปิดเผยว่า เมื่อวานในช่วงค่ำได้นำเงินไปประกันตัวพระบิดา หลังจากนั้นพระบิดาก็ออกไปกับลูกศิษย์ ซึ่งขณะนี้ขอไม่บอกว่าไปอยู่ที่ไหน หากอยากรู้ให้หมอปลาไปควานหาเอาเอง เพราะเห็นว่าเก่งนักหนา หรือหากอยากเจอตัวจริง ๆ ก็รอวันขึ้นศาล อีก 12 วัน
ส่วนอาการของพระบิดาตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะลูกศิษย์คนที่รับตัวไปก็ดูแลอย่างดี และไว้ใจได้ อีกทั้งพระบิดาไม่ได้มีอาการเครียด หรือกังวลลอะไร เพราะท่านปล่อยวางแล้ว ถึงแม้เมื่อวานจะมีการยั่วยุจากหมอปลา ท่านก็ไม่ได้ติดใจ
โดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างรู้สึกโมโห ที่หมอปลาชอบความรุนแรง ชอบยั่วยุ ซึ่งบางคนทำใจไม่ได้ ทำให้เกิดอารมณ์โมโหขึ้น บางคนก็หลุดไปบ้าง ส่วนท่านก็ไม่ได้มีอาการเครียด แต่อาจจะมีอ่อนแรงบ้างตามประสาคนแก่ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ท่านปล่อยวางหมดแล้ว แม้กระทั่งทรัพย์สินของท่านยังปล่อยวาง ตอนนี้ได้ยกที่ดินทั้งหมด 16 ไร่ให้น้องชายคนเล็กครอบครอง ส่วนเรื่องที่มีการพบห่อยารักษาโรคไวรัสตับอักเสบบีนั้น ไม่เป็นความจริ งเพราะท่านจะไม่ยอมกินยา นอกจากยาที่ปรุงทานเองเท่านั้น
นอกจากนี้ เรื่องของการย้ายศพแม่ต้องมีการพูดคุยกับญาติก่อน สภาพศพตอนนี้อาจจะยังเคลื่อนย้ายไม่ได้ ไม่อยากให้มีหลุดออกไป หรืออาจจะส่งกลิ่นออกไป ซึ่งขณะนี้วางไว้ว่าสถานที่ที่จะนำแม่ฌาปนกิจเป็นวัดในหมู่บ้านโนนสะอาด หรือวัดใกล้บ้าน
ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ ต.วังเพิ่ม อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น บ้านของนางน้อย อายุ 80 ปี ลูกศิษย์พระบิดา นายชัย อายุ 52 ปี ลูกชายของนางน้อย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปี 2563-2564 แม่ไปเยี่ยมหลานชายที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ หลานชายรวมถึงพ่อตาและแม่ยายนั้นเป็นลูกศิษย์ของพระบิดาหลายปีแล้ว หลานชายจึงชวนแม่เข้าไปเยี่ยมชมที่สำนักปฏิบัติธรรม เมื่อแม่เข้าไปก็กลับมาเล่าให้ลูกฟังว่าไปเจอพ่อของพระเยซูมา จนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา อยากไปปฏิบัติธรรมต่อ
ช่วงแรกไปพักที่สำนักปฏิบัติธรรม 7-10 วัน ช่วงหลังไปอยู่นานเป็นเดือน เมื่อแม่กลับมาที่บ้าน เห็นคราบโคลนติดตามร่างกาย และมีตุ่มพุพองขึ้นตามแขนขา ทำให้ลูกก็ไม่อยากให้ไปอีก แต่สุดท้ายลูกก็ต้องยอม เพราะคือความสุขของแม่
ล่าสุดแม่อยากกลับไปอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมอีก พี่สาวจึงตัดสินใจขับรถไปส่ง พร้อมทั้งสังเกตความเป็นอยู่ในบริเวณสำนักปฏิบัติธรรม ก็พบว่ามีแต่ความสกปรก จึงชวนแม่น้อยกลับบ้าน แต่แม่ไม่ยอมกลับ พี่สาวจึงกลับมาปรึกษาพี่น้องและร้องขอความช่วยเหลือจากหมอปลา เพื่อช่วยเหลือพาตัวแม่ออกมาจนเป็นข่าวดังกล่าว
หลังจากหมอปลาพร้อมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเข้าตรวจค้น และช่วยเหลือแม่ออกมาได้ คุมตัวพระบิดาไปสอบสวน ลูก ๆ ก็รู้สึกโล่งใจ และไม่ให้แม่ดูข่าวที่เกิดขึ้นในสำนักปฏิบัติธรรม เพราะดูออกว่าแม่ยังมีความห่วงใยในสำนักปฏิบัติธรรม และเชื่อว่ายังอยากจะไปอีก จึงบอกแม่ไปว่าเจ้าหน้าที่บุกทลายหมดแล้ว ไม่มีพระบิดา ไม่มีสำนักปฏิบัติธรรมแล้ว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปตามหาวัดที่นายทวีไปบวช ตามพิกัดที่พี่ชายของนายทวีระบุเอาไว้ ที่วัดป่าเขาถ้ำหม้อ ใน ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เมื่อทีมข่าวเดินทางไปถึงพบว่าวัดดังกล่าวเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขา ไม่มีบ้านคน มีพระสงฆ์อยู่ 5 รูป
พระอาจารย์คำสิงห์ สุนิมมโร เจ้าอาวาสวัดป่าเขาถ้ำหม้อ ให้ข้อมูลว่า ตัวเจ้าอาวาสเองเป็นพระที่มาจัดตั้งวัดแห่งนี้ด้วยตัวเองเมื่อปี 2539 ตอนจัดตั้งมีพระมาด้วยกัน 3 รูป ที่ผ่านมาไม่เคยมีพระที่ชื่อทวี หรือชื่อกา มาบวชเป็นพระที่วัดแห่งนี้ ส่วนตัวไม่ได้ดูข่าว และไม่รู้ว่านายทวีเป็นใคร ยืนยันไม่เคยมีพระชื่อทวี และชื่อกามาบวชที่นี่อย่างแน่นอน
จากการตรวจสอบทั้งพระและชาวบ้านให้ข้อมูลตรงกันว่านายทวีไม่เคยมาบวชที่วัดแห่งนี้ ซึ่งหลังจากได้รับการประกันตัว พบว่านายทวีหายไปจากสำนักพร้อมกับลูกศิษย์คนสนิทคือนายลำไย
Advertisement