จากกรณีนายชัชวาล หรือ ปู โสเพียร อาย 28 ปี ลูกชายแท้ ๆ ของนายเขมา โสเพียร ใช้มีดแทง และฟันบิดาจนเสียชีวิต แล้วนำศพใส่รถเข็นพ่วงรถจักรยานยนต์ไปทิ้งข้างทาง บนถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม เมื่อเวลาประมาณ 02.14 น. วันที่ 29 มิ.ย.65 จนกระทั่งเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บ้านพักที่เกิดเหตุ
ซึ่งต่อมา น.ส.นิลุบล หรือ ยู่ยี่ ชื่อตามบัญชรธนาคารที่ญาติมีการโอนเงินไป จนท.เวชกิจฉุกเฉิน โรงพยาบาลประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้โทรศัพท์เรียกรับเงินจาก นางสิริกัญญา เเจ่มใส อายุ 48 ปี บุตรสาวของผู้เสียชีวิต
เป็นค่าชันสูตรศพ ของนายเขมา โสเพียร จำนวนเงิน 8,000 บาท และค่าเอาศพออกจากโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์อีก 10,000 บาท รวม 18,000 บาท แต่นางสิริกัญญา จ่ายได้แค่ 8,000 บาท เพราะยังไม่มีเงิน
ล่าสุด วันที่ 30 มิ.ย.65 ทางโรงพยาบาลประโคนชัย ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาถึงความผิดของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ตั้งแต่ช่วง 09.00-11.00 น.
ภายหลังการประชุม แพทย์หญิงสุรีรัตน์ เทียนศิริวงศากุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประโคนชัย ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่าจากการสอบถามตัวเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ทราบว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำครั้งแรก คาดว่าไม่น่าจะเป็นขบวนการ ยังไม่มีหลักฐานซัดโยงไปถึงผู้อื่น
ส่วนอาการของเจ้าหน้าที่รายดังกล่าว ตอนนี้อยู่ในภาวะความเครียดมาก ส่วนสาเหตุที่ทำเนื่องจากว่ามีเหตุจำเป็นต้องใช้เงิน รู้เท่าไม่ถึงการณ์ นำเงินมาหมุนคิดว่าจะสามารถหาเงินมาใช้คืนได้ จากการสอบถามข้อมูลจาก เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมประชุมทราบอีกว่า น.ส.นิลุบล มีเหตุจำเป็นต้องใช้เงิน เนื่องจากพ่อป่วยหนัก ต้องการเงินไปรักษาพ่อ และเบื้องต้นสั่งพักงานไว้
ต่อมาทีมข่าวได้เข้าไปตรวจสอบ เฟซบุ๊กของ น.ส.นิลุบล โดยปิดเป็นส่วนตัว ไม่สามารถเพิ่มเพื่อนได้ แต่จากการเสิร์ชหาชื่อ พบว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 63 มีการซื้อรถจักรยบานยนต์กับร้านในพื้นที่ประโคนชัยด้วย
นางสิริกัญญา เเจ่มใส อายุ 48 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต พี่สาวคนก่อเหตุ เปิดเผยว่า ครั้งแรกเจ้าหน้าที่บอกให้ตนโอนเงินช่วยค่าใช้จ่ายของ รพ.ประโคนชัย 3,500 บาท ผ่านไปอีก 30 นาทีก็ให้โอนเงินให้ รพ.บุรีรัมย์ 4,500 บาท เเละจะสามารถทำเรื่องเบิกคืนได้ภายใน 1 เดือน ซึ่งทั้ง 2 ครั้งนี้เป็นการโอนเงินเข้าบัญชีชื่อส่วนตัว ตนก็ไม่ได้เอะใจ เพราะเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
จนผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่คนเดิมโทรกลับมาอีกครั้ง โดยบอกว่าให้โอนเงินค่าเอาศพออกจากโรงพยาบาลอีก 10,000 บาท เเต่ตนไม่มีเงินเเล้ว ฝั่งนั้นกลับบอกให้ตนโทรปรึกษาพี่น้อง เพื่อรวบรวมเงินมาให้ได้ 10,000 บาท หรือหากหาไม่ได้ เขาจะออกเงินให้ก่อน แล้วจะทำเรื่องเบิกเงินภายหลัง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่ตนไปแจ้งความไว้ก็ยังไม่ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวอีก ขณะนี้ตนยังไม่ได้เงินจำนวน 8,000 บาทคืน ตนไม่อยากให้เจ้าหน้าที่คนนี้ไปทำกับใครอีก
ส่วนประเด็นที่บอกว่า ตนจะจ้างคนมาฆ่าน้องชายแล้วจะยอมติดคุกนั้น ตนพูดไปด้วยความโมโหที่หลุดปากพูดออกไปเท่านั้น ไม่ได้คิดจริงจัง ตนสงสารทั้งคนเป็นและคนตาย ส่วนเรื่องของไหว้ของน้องชาย ตนเองก็พอจะทราบอยู่บ้าง เพราะว่าเวลาตนมาเยี่ยมพ่อกับน้องที่บ้านเดือนละครั้ง ก็มักจะซื้อขนมซองและน้ำดื่มมาให้ ส่วนตุ๊กตาก็เป็นของลูกสาวตน น้องชายมักจะเอาทุกอย่างไปไว้หลังตู้เสื้อผ้า มีการไหว้ เวลาตนมาทีไรจะมาเก็บกวาดห้องให้น้องชาย แต่หลังจากนั้นน้องก็จะทำอีก ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าน้องชายไหว้อะไร และไหว้ทิศไหน
เวลา 12.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย ได้ควบคุมตัวนายชัชวาล โสเพียร หรือ ปู อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาฆ่าบุพการี และซ่อนเร้นอำพรางศพ ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาเพื่อนำตัวส่งฝากขังเรือนจำศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ขณะที่ตำรวจกำลังคุมตัวนายชัชวาลเดินมาขึ้นรถ ทีมข่าวสังเกตว่ายังคงใส่เสื้อผ้าชุดเดิมกับวานนี้
นายชัชวาล บอกว่า "ไม่อยากขอโทษ ไม่เครียด ไม่เสียใจ ไม่รักพ่อ ไม่รักญาติ ๆ สาเหตุที่ตนลงมือ เพราะเกิดจากความเครียดสะสมตั้งแต่เด็ก ๆ ที่พ่อไม่ดูแล และชอบดุด่า" ในวันเกิดเหตุตนยืนยันว่าไม่ได้เมา ไม่ได้เสพยาเสพติด พ่อเมาและนั่งดูทีวีอยู่ ก่อนจะทะเลาะกับตนไล่ตนออกจากบ้าน ตนไม่ได้ตั้งใจวางแผนฆ่าพ่อ แต่พ่อเมาแล้วจะทำร้ายตนก่อน ตนจึงใช้มีดแทงพ่อ ส่วนพ่อก็ต่อสู้กลับด้วย หลังจากฆ่าพ่อเสร็จเเล้ว ก็เอาไม้ถูมาถูเลือดในบ้าน จากนั้นก็เอาศพพ่อไปทิ้งอำพรางว่ารถล้ม เพราะไม่อยากให้ศพอยู่ในบ้าน ตอนนั้นไม่คิดว่าคนอื่นจะรู้ว่าเอาศพไปทิ้ง ตอนที่เดินกลับมาบ้านก็ไม่ได้คิดอะไรเลย
คืนที่ผ่านมาไม่มีญาติมาเยี่ยม ส่วนจะอยากให้พ่อและญาติ ๆ อโหสิกรรมให้หรือไม่ "ไม่รู้ ไม่ต้องก็ได้ครับ" ตนเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าหากย้อนเวลากลับไปได้จะฆ่าพ่อเหมือนเดิมหรือไม่ เเละไม่ได้ต้องการให้ญาติมาประกันตัว ทั้งนี้ ตนเองต้องทานยาระงับประสาท ต้องกินมานานเเล้ว แต่ก็ไม่ค่อยได้กิน ซึ่งตอนที่ไม่ได้กิน ก็ไม่รู้สึกอะไร ก็ปกติดี ส่วนของไหว้บนตู้เสื้อผ้าในห้องนอนที่บ้านก็เป็นความเชื่อของตนเป็นของไทย ไม่ใช่ของเขมร และเป็นสายขาว
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านใน ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ บ้านที่เกิดเหตุ ญาติของนายชัชวาล หรือ นายปู ผู้ต้องหา ได้พาทีมข่าวเข้าไปดูห้องนอนของนายชัชวาล พบของไหว้บนตู้เสื้อผ้าของนายชัชวาล เป็นของไหว้อะไรก็ไม่ทราบ นายชัชวาลจะไหว้ทุกวันก่อนออกจากบ้าน หลังจากนั้นจะเดินออกทางหลังบ้าน ไหว้ไปทางทิศตะวันตก ก่อนจะเดินอ้อมมาออกทางหน้าบ้าน
โดยด้านหลังตู้ นายชัชวาล จะมีของไหว้ ทุ้งน้ำเปล่า น้ำแดง ขนม และตุ๊กตาหมี 1 ตัว เศษใบตอง กระถางธูป โดยข้าวของทั้งหมด ถูกฝุ่นและหยากไย่เกาะเต็มไปหมด ภายในตู้เสื้อผ้า ยังมีเศษก้านธูปที่จุดเเล้ว รวมถึงเส้นผมของนายชัชวาลที่มีการตัด 1 กระจุก ใส่ไว้ในตู้อีกด้วย ส่วนด้านล่างมีถุงยาระงับประสาทที่นายชัชวาลรับมาจาก รพ.ประโคนชัย
นางสมาน เดชมา ภรรยาของผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่านายปูไหว้อะไร ตนก็จะเห็นนายปูไหว้ตลอด ก่อนออกจากบ้าน ซึ่งเป็นมาตั้งแต่ช่วงหนีทหารกลับมาบ้าน พอไหว้ของไหว้เสร็จก็จะเดินออกมาไหว้ทางทิศตะวันตกก่อน จะไหว้ทิศอื่น ๆ ตามมา ซึ่งตนอยู่มาจนอายุ 65 ปีแล้ว ก็ไม่เคยเห็นความเชื่อแบบนี้ เพราะโดยปกติเเล้วเวลาตั้งพระพุทธรูปก็จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
Advertisement