สลด น.ศ.ปี 3 ตายคาห้องเรียน ส่งรูปเชือกบอกใบ้ ท้อชีวิตไม่มีดี พ่อสละร่างสร้างบุญ (คลิป)
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอเสียชีวิตภายในห้องเรียนชั้น 8 อาคาร 24 ภายในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง จึงได้ประสานแพทย์เวรฯ และหน่วยกู้ภัยฯ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าผู้ที่ผูกคอเสียชีวิตภายในห้องเรียน ชื่อว่านายอาชาไนย หรือ เป๊าะ อายุ 20 ปี สาขาการตลาด คณะวิทยาการจัดการ ปี 3 โดยใช้สายไฟสำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องฉายโปรเจกเตอร์สีแดง แขวนคอกับมือจับบานกระทุ้งหน้าต่างห้องเรียน ในสภาพสวมเสื้อกีฬาสีชมพู กางเกงยีนส์ขายาว ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย จึงสันนิษฐานว่าเป็นการผูกคอเสียชีวิตเอง
นายแมน (นามสมมติ) เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า เมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุนายอาชาไนยส่งแชตมาในกลุ่มเพื่อนว่าอยู่มหาวิทยาลัย ซึ่งเพื่อนคนอื่นไม่ได้ไป เพราะอาจารย์นัดสอนออนไลน์ มีแค่นายเป๊าะไปนั่งเรียนในห้องคนเดียวช่วงคาบเช้า หลังจากนั้น ตนไม่ได้อ่านข้อความ
จนช่วงบ่ายเพื่อนอีกคนมาบอกว่าเป๊าะโพสต์แปลก ตนจึงเข้าไปดูข้อความในกลุ่มพบว่าเป๊าะ ส่งรูปเชือกมาให้ดู บอกว่าสวยดีนะ และกูพร้อมแล้ว ขอโทษสำหรับหลาย ๆ อย่างด้วย ตนจึงรีบไปที่มหาวิทยาลัย และช่วยกันตามหานายเป๊าะ จนไปพบว่าเพื่อนผูกคอในห้องเรียนเสียชีวิตแล้ว
โดยที่ผ่านมานายเป๊าะเป็นคนคิดมาก และเป็นโรคซึมเศร้า ตนก็พยายามจะให้กำลังใจ คอยอยู่เป็นเพื่อนเสมอ แต่ไม่คิดว่าเพื่อนจะคิดมากถึงขั้นฆ่าตัวตาย ส่วนตัวอยากบอกเพื่อนว่าหลับให้สบาย เพื่อนคงเหนื่อยมามากแล้ว
ส่วนที่จุดรับศพ รพ.บุรีรัมย์ พ่อและแม่รวมถึงเพื่อนของนายอาชาไนย เดินทางมารับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่ จ.นครราชสีมา นายสาธิต ศรีดาจักร์ อายุ 47 ปี พ่อผู้ตาย กล่าวว่า ลูกชายเป็นโรคซึมเศร้าประมาณ 4-5 เดือนแล้ว โดยตนพาลูกไปหาหมอรักษาประมาณ 1 เดือน เมื่อวานนี้ 26 ก.ค. ตนโทรศัพท์หาลูกชายถามว่ามีเรียนไหม ลูกตอบว่ามี ตนถามต่อว่าอยู่ไหนลูกบอกอยู่มหาวิทยาลัย ถามว่าจะกลับตอนไหน ลูกบอกรอฝนหยุด เป็นการถามคำตอบคำไม่เหมือนนิสัยของลูกชาย
จนช่วงเย็นแฟนของลูกชายโทรศัพท์มาหาบอกว่าเป๊าะไม่กลับห้อง ไม่รู้อยู่ไหน จากนั้นก็วางสายไป ก่อนโทรศัพท์กลับมาอีกรอบพร้อมร้องไห้บอกว่าลูกชายของตนผูกคอตายแล้ว
โดยตนช็อกมาก ที่ผ่านมาลูกชายเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่เคยมีพฤติกรรมทำร้ายตัวเองเลย ตนเคยถามลูกชายตรง ๆ ว่าคิดจะทำร้ายตัวเองบ้างไหม ลูกตอบว่าไม่เคยคิดเลย ก่อนหน้านี้อาการของลูกคือคิดมาก และนอนไม่ค่อยหลับ
นอกจากนี้ ก่อนเกิดเหตุลูกถูกส่งชื่อชิงทุนการศึกษา แต่เมื่อ 2 วันก่อนเกิดเหตุลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่าไม่ได้ทุนการศึกษา และพูดกับแม่ว่า ไม่เคยสมหวังสักอย่าง ตนก็คิดว่าอาจจะเป็นปมที่ทำให้ลูกนำกลับมาคิดจากอาการของโรคซึมเศร้า ประกอบกับบรรยากาศฝนตกช่วงเกิดเหตุลูกชายจึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ น้องเป๊าะเป็นลูกชายคนเดียว ตนวางแผนไว้แล้วทุกอย่างเพราะอีกปีเดียวลูกก็จะเรียนจบแล้ว ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ ไม่รู้ว่าหลังจัดงานศพให้ลูกเสร็จแล้วชีวิตจะดำเนินไปอย่างไรต่อ
นายสาธิต กล่าวต่อว่า น้องเป๊าะได้บริจาคอวัยวะเอาไว้ด้วย แต่ไม่มั่นใจว่าจะบริจาคได้หรือไม่ ขณะนี้ภรรยากำลังไปยื่นเรื่อง ตนก็อยากจัดงานศพให้ลูกจนจบแล้วนำร่างของลูกมาบริจาคตามความต้องการของเจ้าตัว อยากให้ลูกชายได้สมหวังในเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะสงสารที่ลูกพูดว่าไม่เคยสมหวังสักอย่าง
Advertisement
