จากกรณี นาวสาวลัดดา (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ร้องสื่อฯ ว่าถูกอดีตแฟนหนุ่มปล่อยคลิปลามก ขณะมีเพศสัมพันธ์กับตนเองให้ญาติดู หลังแจ้งความดำเนินคดีไว้ตั้งแต่ 29 ส.ค. 65 ที่ สภ.แสนสุข ในพื้นที่ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี แต่คดียังไม่คืบหน้านั้น
วันที่ 10 ก.ย. 65 นาวสาวลัดดา ผู้ร้องเรียน เปิดเผยว่า ตนกับนายแบงค์ คบหากันประมาณเกือบ 1 ปีไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้มีลูกด้วยกันและไม่ได้พักอาศัยหรือหลับนอนอยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างอยู่บ้านของตัวเอง แค่แวะไปมาหาสู่กันประจำ ยอมรับว่ารับรู้ตลอดว่านายแบงค์มีการถ่ายรูป ถ่ายคลิปขณะที่ตนกำลังอมอวัยวะเพศเขา และเต็มใจให้ถ่าย เนื่องจากบริสุทธิ์ใจว่าตัวเองก็ไม่มีคนอื่น และไม่คิดว่าเขาจะเอาคลิปกับภาพไปทำแบบนี้ พอมีคนมาบอกว่าคลิปหลุดออกไปบอกว่าตนไปมีอะไรกับชายอื่น ตนก็รู้ทันทีว่าคนปล่อยคือนายแบงค์ เพราะมีแค่เขาคนเดียวที่ถ่ายไว้ ดังนั้นอวัยวะเพศชายที่ปรากฏในคลิปและภาพก็เป็นของนายแบงค์
ส่วนเรื่องที่นายแบงค์บอกว่าตนเอาโทรศัพท์เขาไปจุ่มน้ำ ยืนยันว่าไม่ได้ทำ เพราะถ้าตนจะทำลายหลักฐานเกี่ยวกับคลิปลามกระหว่างตนกับนายแบงค์ ตนต้องขโมยโทรศัพท์ไปทิ้งน่าจะดีกว่าไหม แล้วตนก็ยืนยันว่าไม่เคยไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายอีกคนที่ซุ้มกาแฟตามที่นายแบงค์ อ้างด้วย แต่ที่นายแบงค์เอาคลิปลามกระหว่างตนกับเขาไปเผยแพร่นั้น ตนมองว่าน่าจะเกิดจากผลข้างเคียงของการเล่นยา
และกรณีที่แม่ของนายแบงค์บอกว่าแม่ตนเคยไปเรียกร้องขอค่าสินสอดนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นเรื่องจริง เพราะแม่ตนแค่เข้าไปบอกว่าให้ นายแบงค์และครอบครัวมาทำพิธีสู่ขอหรือไม่ก็ผูกข้อไม้ข้อมือกับตนเท่านั้น ไม่ได้มีการเรียกค่าสินสอด การที่ตนออกมาแจ้งความหรือร้องสื่อฯก็ไม่ได้ต้องการจะอยากได้เงินอะไรด้วย เพียงแค่รู้สึกอับอาย และอยากให้เขาถูกดำเนินคดี เพราะตนเองก็มีปัญญาทำมาหากิน หาเงินเลี้ยงดูลูก 3 คนที่มีกับสามีเก่าอยู่แล้ว
ด้านนายสมเจต หรือ แบงค์ แฟนหนุ่ม บอกว่าหากตนผิดก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวเข้าไปสอบปากคำได้เลย พร้อมกับยืนยันว่าตนไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น "ผัวเมียตีกันก็เป็นข่าว บ้าบอ" แล้วที่นางสาวลัดดาเข้าแจ้งความ เพราะ 1 อาทิตย์ก่อนหน้านั้น ตนจับได้ว่าเขาแอบไปมีอะไรกับชายวัยรุ่น บริเวณซุ้มกาแฟที่นางสาวลัดดาขายของ
จากนั้นเมื่อนางสาวลัดดาจับได้ว่าตนเห็นเหตุการณ์ระหว่างเขากับชายอื่น จึงแอบเอาโทรศัพท์ของตนไปจุ่มน้ำ ขณะที่ตนเผลอ เพราะคิดว่าตนแอบถ่ายคลิปไว้ เหมือนตั้งใจจะทำลายหลักฐาน ทั้งที่จริงแล้วตนยังไม่ได้ถ่ายคลิปตอนนั้นเลย ตนก็ถามว่าทำแบบนั้นทำไม เขาก็บอกว่า "มึงแอบถ่ายคลิปกูเหรอ" ตนก็ตอบไปว่า "คลิปอะไร ในเครื่องมีแต่คลิปมึงกับกู" ส่วนเรื่องที่นางสาวลัดดาบอกว่าตนส่งภาพและคลิปลามก ซึ่งเห็นหน้าของเขาเข้าไปในไลน์กลุ่มญาตินั้น ตนยืนยันว่าไม่ได้ส่งให้ญาติอะไรทั้งนั้น แล้วไม่รู้ด้วยว่าใครเป็นญาติใคร
ด้านแม่ของนายแบงค์ ยืนยันว่า นางสาวลัดดาคบหาดูใจกับลูกชายตนได้ประมาณ 2-3 เดือน ไม่มีการแต่งงาน ไม่มีลูกด้วยกัน แต่เท่าที่ตนรู้คือผู้หญิงคนนี้มีนิสัยใช้ไม่ได้ ชอบไปมีอะไรกับผู้ชายอื่นไปทั่ว จนลูกชายไปเจอเข้าจัง ๆ แล้วคิดว่าลูกชายถ่ายคลิประหว่างที่นางสาวลัดดาไปแซ่บกับชายอื่น ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าลูกชายถ่ายไว้จริงไหม เขาจึงเอาโทรศัพท์ของลูกชายไปจุ่มน้ำ
ทั้งนี้ นางสาวลัดดายังพยายามจะเรียกเงินค่าสินสอดจากตนด้วย เพราะเห็นว่ามาอยู่กับลูกชายตนแล้ว แต่ตนไม่ให้ เนื่องจากตนไม่ต้องการผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสะใภ้ ตอนนั้นก็เลยถามกลับไปยังแม่ของเขาว่า "วันนี้จะมาขอค่าสินสอด แล้วตอนที่ 2 คนไปมีอะไรกัน ทำไมถึงไม่บอก พอเลิกเอากันแล้วถึงมาบอก" ตนก็ยืนยันว่าลูกชายไม่ได้มีเจตนาจะแบล็กเมลผู้หญิงคนนี้เลย เพราะไม่รู้จะแบล็กเมลไปเพื่ออะไร และตนก็ไม่ได้รู้สึกเครียดด้วย
Advertisement